5.จุดเปลี่ยน
ทรัพย์สินเกือบทั้งหมดที่บิดาสร้างไว้ ถูกขายมาใช้หนี้บางส่วนนำมาใช้จ่ายหมุนเวียนในบริษัท ที่มีพนักงานหลายร้อยคนฝากชีวิตเอาไว้
ทั้งเธอและพี่ชายจึงต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมด มาช่วยกันแก้ไขปัญหาและบริหารงานจนบริษัทดีขึ้น การเรียนจบจึงเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในชีวิตเธอที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวได้โดยไม่มีอะไรค้างคาใจ
หญิงสาวมีวุฒิการศึกษาที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับหน้าที่การงาน ที่ตนเองรับผิดชอบในบริษัทได้ เธอจบ Interior Design ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญของบริษัทรับออกแบบตกแต่งภายใน
ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ ความคิดแปลกใหม่ ทำให้สองพี่น้องต้องช่วยกันพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน เพื่อให้พนักงานในบริษัทรวมถึงคู่ค้ามั่นใจและเชื่อมั่น เมื่อธุรกิจเริ่มดีขึ้นก็ต้องหาต้นตอของคนที่ทำผิด เพื่อเรียกชื่อเสียงของบริษัทที่เสียไปกลับมาให้ได้
‘บ้าเอ๊ย วันซวยแท้ ๆ โดนกาแฟเหนียว ๆ แล้วยังมาโดนฝนต่ออีก’ นิศราสบถกับตัวเองในใจ ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาโทรหาพี่ชาย
“พี่ดินเลิกงานหรือยังคะ แวะมารับดาวได้มั้ยดาวอยู่ร้านเครื่องเขียนใกล้ ๆ มหาลัย ฝนตกหนักมากเลยค่ะ”
“โอเคพี่อยู่ใกล้ ๆ พอดี เข้าไปรอในร้านก่อนนะพี่จะรีบไป”
ฝนทยอยตกลงมาไม่ขาดสาย หลังจากตั้งเค้ามาแต่เช้าหญิงสาวที่ตัวเลอะตั้งแต่เช้า เจอฝนที่มาสมทบอีกทำให้รู้สึกตัวเหนียวเหนอะหนะไปทั้งตัว ยิ่งเห็นสภาพตัวเองยิ่งนึกโมโหคนที่ทำให้เธอต้องเดินตัวเหนียวทั้งวันแบบนี้
นิศราหลับตาสูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อให้ตนเองใจเย็นลง ก่อนวิ่งเข้าไปในร้านหนังสือ เดินเลือกซื้อของรอพี่ชายมารับ ขณะเดียวกันชายหนุ่มอีกคน ยืนมองหญิงสาวที่ตนเจอเมื่อเช้าในชุดเดิม
เขาเห็นตั้งแต่เธอยังยืนอยู่หน้าร้าน สภาพไม่ต่างไปจากเมื่อเช้าเลย นึกแปลกใจทำไมเธอถึงยังไม่เปลี่ยนชุดใหม่ แต่ยังคิดไม่ทันจบก็เห็นชายอีกคนวิ่งเข้ามา ถอดเสื้อสูทที่ใส่มาสวมคลุมให้เธอพร้อมโอบไหล่ประคองพาเธอเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์
ก่อนจะพากันเดินออกจากร้านไป ‘ที่แท้ก็เด็กเสี่ย แต่ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงหน้าคุ้นจังว่ะ’ ธีรวัฒน์คิดในใจ
“ไปทำอะไรมา ทำไมสภาพเละขนาดนี้”
“ไม่อยากพูดถึง พี่ดินไม่รู้อะไร ดาวต้องทนอยู่ในสภาพแบบนี้ตั้งแต่เช้าแล้วเนี่ย ซวยชะมัดยิ่งมาโดนฝนอีก เหนี่ยวตัวไปหมดอยากกลับบ้านไปอาบน้ำแล้ว”
หญิงสาวบ่นด้วยความเหนื่อยใจกับสภาพตัวเองวันนี้ ทั้งวันมีแต่คนทักเธอ เดินไปทางไหนก็มีแต่สายตาคนที่หันมามองจนเธอไม่รู้จะเอาหน้าไปแทรกแผ่นดินไว้ที่ไหนอยู่แล้ว
“ก็ไม่เล่า แล้วพี่จะรู้มั้ยว่าถูกใครรังแกมา”
“ดาวยังไม่อยากเล่าตอนนี้ พี่ดินรีบขับรถพาดาวกลับบ้านเถอะค่ะ”
“อ่าวเด็กคนนี้นิ พี่ก็ขับอยู่เห็นมั้ยว่ารถมันติด ไปได้ทีละนิดเนี่ย”
“เห็นค่ะ แต่มันหงุดหงิดสภาพตัวเองนิ”
“ก็แล้วทำไมไม่โทรบอกพี่ตั้งแต่เช้า จะได้ให้คนเอาชุดมาให้เปลี่ยน”
“ก็ตอนนั้นมันรีบ คิดอะไรไม่ออก มีแต่อารมณ์โมโห มันผ่านมาแล้วช่างมันเถอะค่ะ”
เมื่อไม่อยากคิดถึงให้อารมณ์เสีย เธอจึงไม่พูดต่อทำเอาคนเป็นพี่ชายถึงกับส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจเลยทีเดียว
“เรียนก็เรียนจบแล้ว โตแล้วนะเราน่ะทำตัวให้มันเป็นผู้ใหญ่หน่อยสิ”
“พี่ดินจะให้ดาวรีบโตไปไหนคะ ดาวยังอยากเป็นน้องสาวที่น่ารักของพี่ไปนาน ๆ”
พูดไปพลางก็ใช้สองมือสอดกอดรัดรอบแขนของพี่ชายเอาไว้ พร้อมกับเอาศีรษะซบที่ไหล่กว้างอย่างออดอ้อน เหมือนเช่นทุกครั้งที่อยากได้อะไร