บท
ตั้งค่า

3.แกนี่มันร้าย

อีกด้าน..

“ไปฟัดกับหมาที่ไหนมา ทำไมสภาพถึงเป็นแบบนี้เนี่ยยัยดาว”

แพรไหมที่เห็นสภาพเพื่อน เลอะไปด้วยคราบสีน้ำตาลเต็มเสื้อนักศึกษากล่าวทักขึ้นทันทีที่เจอหน้ากัน

“ฟัดกับหมามายังไม่เสียใจเท่ากับ โดนไอ้ขยะเปียกปล่อยสารพิษใส่เลย”

หญิงสาวบ่นอย่างหัวเสีย เมื่อต้องนึกถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่

“ไอ้ขยะเปียก” แพรไหมทวนคำอย่างงุนงง พร้อมส่งสายตาเป็นเชิงถาม

“ก็ซวยน่ะสิแก ตอนออกจากร้านกาแฟ เจอคนบ้าที่ไหนไม่รู้ เดินไม่ดูตาม้าตาเรือผลักประตูพุ่งเข้ามาชนฉัน จนกาแฟหกใส่เนี่ย” หญิงสาวเล่าก่อนจะบ่นต่อ

“พูดแล้วก็ยังไม่หายโมโหเลยนะ ขอโทษสักคำยังไม่มีเลยแถมยังจะมาโทษว่าเป็นความผิดของฉันอีก ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิดเองแท้ ๆ ที่เปิดประตูเข้ามาทั้งที่ป้ายก็ติดว่าให้ดึง ไม่ขอโทษไม่ว่า ยังจะเอาเงินมาฟาดหัวกันอีก เกลียดจริง ๆเลยคนแบบนี้”

นิศราบ่นอย่างหาที่ระบาย อารมณ์ตอนนี้เธอหงุดหงิดมาก เพราะต้องไปส่งงานอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยในสภาพนี้ เพราะไม่มีเวลากลับไปเปลี่ยนชุดใหม่แล้ว

“แล้วทำไมถึงได้โกรธขนาดนี้เนี่ย คงไม่ใช่แค่เพราะชุดเลอะใช่มั้ย”

แพรไหมถามเพื่อนรักที่ ปกติเป็นคนไม่ค่อยถือสาใคร ยิ่งหากเป็นแค่อุบัติเหตุเพื่อนของเธอ น่าจะให้อภัยกับเรื่องแค่นี้ได้ นี่คงมีอะไรมากกว่านี้แน่ ๆ

“โกรธเพราะเขาไม่ขอโทษ แถมถามฉันด้วยนะ ‘เธอรู้มั้ยว่าเสื้อตัวนี้มันราคาเท่าไหร่’ ฉันฟังแล้วขึ้นเลยพูดแล้วก็หงุดหงิด”

คนเล่าที่อารมณ์โกรธยังไม่จาง เล่าไปด้วยก็บ่นไปด้วย แถมล้อเลียนเสียงและท่าทางของชายหนุ่มที่เจอวันนี้ให้เพื่อนดู

“ฮ่าๆๆ เขาคงไม่ได้ตั้งใจหรอก มันคงเป็นแค่อุบัติเหตุ อย่าอารมณ์เสียไปเลย” คนฟังก็ขำกับท่าทางของเพื่อน ก่อนจะปลอบให้อารมณ์เย็นลง

“ไม่ตั้งใจก็ต้องขอโทษสิ นี่ไม่ปริปากพูดออกมา แถมยังมีหน้าจะให้คนอื่นรับผิดชอบอีก ฉันยอมคนประเภทนี้ซะที่ไหนล่ะถามหาความรับผิดชอบมา ฉันก็เลยจัดให้เลย”

รอยยิ้มน้อย ๆ เริ่มผุดออกมาข้างแก้มของคนเล่าอย่างพอใจ

“แล้วเขารับผิดชอบแกยังไง”

“หุหุ ตอนที่เขาถามฉันว่าจะเอาเท่าไหร่ ฉันก็เลยตอบเสียงดังฟังชัดไปว่า ฉันไม่ได้ต้องการเงินของเขา ก่อนจะสาดกาแฟที่เหลือในแก้วนั่นแหละใส่ไปเลย ไหน ๆก็เลอะแล้วก็ให้มันเลอะไปด้วยกันนั่นแหละแฟร์ดี”

นิศราเล่าไปก็ยิ้มสะใจไปด้วย แต่ทำเอาคนฟังถึงกับตกใจและส่ายหัวเลยทีเดียว

“ไอ้ดาว แกนี่มันร้าย ฉันล่ะสงสารคู่กรณีของแกจริง ๆ”

“ไม่ต้องไปสงสารเลยแก ต้องสมน้ำหน้าสิถึงจะถูก ขอโทษก็จบละ ดันมาอวดร่ำอวดรวยก็ต้องเจอแบบนั้นแหละ”

“เอาล่ะๆ ไม่ต้องโกรธแล้ว ทีนี้จะเอายังไงต่อชุดเลอะหมดแล้ว ต้องไปส่งวิทยานิพนธ์ไม่ใช่เหรอ”

“เออจริงด้วย ..ลืมไปสนิทเลย ตายแล้ววิทยานิพนธ์ของชั้น”

เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีภารกิจสำคัญ หญิงสาวก็ลุกลี้ลุกลนหยิบกระเป๋าผ้าที่ใส่เล่มวิทยานิพนธ์ขึ้นมาดู หากเลอะกาแฟไปด้วยเธอต้องซวยแน่ ๆ ล่ะทีนี้

“ขอบคุณ คุณพระ คุณเจ้า” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลังหยิบเล่มวิทยานิพนธ์ขึ้นมาดูแล้วพบว่ายังปลอดภัยดีเช่นเดิม

“เป็นยังไงบ้างเลอะมั้ย” แพรไหมที่ลุ้นไปด้วยเอ่ยถาม

“ปลอดภัยดีจ๊ะ งั้นฉันไปก่อนนะเดี๋ยวจะไม่ทันไว้เจอกัน”

ทันทีที่คิดได้ว่าต้องรีบไปก่อนจะหมดเวลารับเอกสารไม่อย่างนั้นเธอต้องเรียนซ้ำชั้นกับรุ่นน้องอีกปีเป็นแน่

“เดี๋ยวสิดาว จะไปทั้งแบบนี้นี่นะ”

“อืม ไม่มีเวลาแล้วเดี๋ยวโทรหานะ”

ไม่รอฟังคำตอบ นิศราก็รีบวิ่งไปโบกแท็กซี่แล้วขึ้นรถออกไปเลย ปล่อยให้เพื่อนรักยืนมองตามหลังอย่างเอาใจช่วย

แพรไหมและนิศราเป็นเพื่อนที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยรุ่นเดียวกัน แต่ด้วยเหตุผลทางบ้านทำให้นิศราต้องดรอปเรียนในปีสุดท้าย ทำให้จบช้ากว่าเพื่อนๆ คนอื่น

อากาศที่ถูกปกคลุมด้วยเหล่าก้อนเมฆสีดำเมื่อช่วงเช้า มาตอนนี้กลายเป็นกลุ่มเมฆฝนปกคลุม ไปทั่วบริเวณที่เธออยู่ ตลอดทางที่นั่งรถมา ทั้งลมทั้งฝนโหมกระหน่ำตกลงมายังกับมีพายุเข้าทำให้การจราจรติดยาวเป็นรถไฟ

หญิงสาวเริ่มนั่งไม่ติดเพราะเวลาเหลือน้อยลงทุกที ตอนนี้รถแทบจะไม่ขยับเลย เดิมทีเธอเผื่อเวลาไว้คุยกับเพื่อน ๆ รุ่นน้อง ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปทำงาน แต่ตอนนี้แค่ไปส่งงานให้ทันเวลาก็พอ -วันนี้ช่างเป็นวันที่โชคร้ายของเธอจริง ๆ- หญิงสาวคิด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel