ตอนที่ 5
เพียงไม่กี่คำที่เธอเคยพูดคุยกับเขา หากแต่หญิงสาวก็เก็บเอาภาพของนักมวยหนุ่มรูปร่างกำยำล่ำสันและใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรไว้ในความทรงจำมาตลอดระยะเวลาสองปี
เธอจินตนาการไปต่าง ๆ นานาว่าโคเลสนิกจะยังจดจำเธอได้ เขาอาจโกรธเคืองยาซาโน่ แต่เขาคงไม่ได้มีนิสัยเลวร้ายถึงขนาดที่จะโกรธเคืองใครก็ตามที่อยู่แวดล้อมบิดา
“สวัสดี...คุณชื่ออะไรหรือคะ?”
ภาพในความทรงจำตอนที่เธออยู่ในวัยสิบแปดขณะก้าวเข้าไปในค่ายมวยของบิดาครั้งแรกและพบกับบุรุษร่างสูงใหญ่เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาล บรูเน็ตรับกับใบหน้าคร้ามเข้มคมคายผุดขึ้นในความทรงจำ
“สวัสดี...ผม...เอ้อ...โคเลสนิก...เรียกผมว่าคีธก็ได้”
“ฉันแทมมี่...เอ้อ...ฉันแค่อยากตามพ่อมาดูการฝึกซ้อมมวยค่ะ”
“แทมมี่หรือ?...เอ้อ...ถ้าผมจะเรียกสั้น ๆ ว่าแทมได้มั้ย”
แล้วภาพรอยยิ้มอันตรึงตราของบุรุษที่ไม่ค่อยเปิดปากคุยกับใครก็ผุดพรายขึ้นในมโนนึกของหญิงสาว ทิพชยาจดจำรอยกดลึกบนสองข้างแก้มของเขาได้ดี ใช่...โคเลสนิกมีลักยิ้มอันทรงเสน่ห์ซึ่งเธอไม่เคยลืมเลือน
“ถึงแล้วครับ...คุณผู้หญิง”
เสียงคนขับรถแท็กซี่ที่ดังขึ้นปลุกหญิงสาวร่างบอบบางขึ้นจากภวังค์ล่องลอย ทิพชยาหันไปมองนอกหน้าต่างรถซึ่งพาเธอมาถึงบริเวณที่มีผู้คนพลุกพล่านเบื้องหน้าสถาปัตยกรรมสวยงามที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมาก่อนจะก้าวลงจากรถแท็กซี่คันนั้นพร้อมด้วยกระเป๋าสะพายซึ่งหญิงสาวพาติดตัวมาเพียงใบเดียว
ใบหน้างามภายใต้กรอบเรือผมสีดำเข้มขลับเงยขึ้นมองสถาปัตยกรรมอันงดงามในบริเวณจัตุรัสใหญ่หรือกรองปลาสซึ่งเป็นศูนย์กลางของเมืองเก่าในเขตที่เรียกว่า Lower Town ที่รายล้อมไปด้วยตึกเก่าแบบบาโร้ค
ร่างอรชรยืนอยู่ตรงนั้นเนิ่นนานท่ามกลางผู้คนมากมายที่แวะเวียนมาเยี่ยมชมส่วนที่สวยที่สุดของเมือง เธอไม่ลืมว่ามาบรัสเซลส์เพื่ออะไรแต่กำลังคิดและตัดสินใจครั้งสุดท้ายก่อนที่จะก้าวไปยังจุดหมายที่บิดาบอกไว้
คนของยาซาโน่รายงานให้เธอทราบมาก่อนหน้าว่าตอนนี้โคเลสนิกพักอยู่ในบรัสเซลส์ และสถานที่ที่เขาพักคือโรงแรม Le Renard ซึ่งเป็นโรงแรมหรูระดับห้าดาวอยู่ไม่ไกลจากจัตุรัสใหญ่อันเป็นที่ซึ่งเธอกำลังยืนอยู่
ทิพชยารู้สึกเหมือนลมหายใจของเธอขัดเล็กน้อย มือเรียวบางนั้นเย็นลง เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึกก่อนจะบ่ายหน้าไปยังเส้นทางที่ทอดตัวไปยังโรงแรมสุดหรู ความตั้งใจมั่นที่มีมาแต่แรกดูเหมือนจะถดถอยลงกว่าครึ่งเมื่อป้าย Le Renard ขนาดใหญ่ปรากฏให้เห็นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ
เธอกำลังจะได้พบเขา โคเลสนิก รอชนีเชนโก เวลาที่ผ่านไปกว่าสองปีเขาจะยังเหมือนเดิมหรือไม่ เขาจะเป็นยังไง และจะยิ้มให้เธอเหมือนอย่างที่เคยยิ้มหรือไม่ ทิพชยานึกไปตลอดทาง
“ขอโทษนะคะ...ไม่ทราบว่ามีแขกที่ชื่อ โคเลสนิก รอชนีเชนโก พักอยู่ที่นี่หรือเปล่าคะ?”
สาวลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นเอ่ยถามพนักงานที่ล็อบบี้อันโอ่อ่าทันทีที่ไปถึง ชายหนุ่มชาวยุโรปในชุดฟอร์มของโรงแรมก้มลงดูบนหน้าจอมอนิเตอร์ก่อนเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว
“ครับ คุณรอชนีเชนโกพักอยู่ที่นี่ครับ”
“ไม่ทราบว่าเขาพักอยู่ห้องไหนหรือคะ?”
“ประทานโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงชื่ออะไรครับ และมีธุระอะไรที่จะพบกับคุณรอชนีเชนโก?”
“ฉันชื่อทิพชยา ไนต์ ค่ะ...มีธุระด่วนที่จะต้องพบเขาวันนี้”
“ประทานโทษอีกครั้งนะครับ ขอบัตรประจำตัวของคุณผู้หญิงด้วยครับ”
“เอ้อ...ค่ะ” ทิพชยาพยักหน้าหากก็อดที่จะรู้สึกแปลก ๆ ไม่ได้ ก็แค่มาขอพบแขกที่เข้าพักในโรงแรม ถึงจะเป็นโรงแรมหรูหราก็เถอะไม่น่าจะต้องมีขั้นตอนมากมายแบบนี้ หญิงสาวเหลือบมองพนักงานโรงแรมที่ดูบัตรประจำตัวของเธออย่างละเอียดก่อนยกหูโทรศัพท์ขึ้นและพูดด้วยภาษาฝรั่งเศสซึ่งเธอเองฟังไม่ค่อยถนัดนัก สักครู่เขาจึงวางหูโทรศัพท์และคืนบัตรให้เธอ
“ขอเชิญคุณทิพชยาไปรอที่นั่งทางโน้นก่อนนะครับ สักครู่จะมีคนมาพาคุณไปพบกับคุณรอชนีเชนโกที่ห้องพัก”
