5 ใกล้ทีละนิด
“อาจารย์คะไนท์เดี๋ยวก่อนค่ะ” สุพิชฌาย์วิ่งตามปณัยกรมายังรถของเขา
“มีอะไรครับ”
“หนูขอแนะนำตัวอีกทีนะคะ หนูชื่อเปียโนค่ะ หนูเรียนกับอาจารย์เมื่อกี้”
“ครับคุณเปียโนมีอะไรครับ” ชายหนุ่มจำเธอได้เพราะทั้งสองครั้งที่มาสอนเธอก็เอาแต่นั่งจ้องหน้าเขาจนเกือบสมาธิหลุด เธอเป็นนักศึกษาที่มีใบหน้าสวยอีกทั้งรูปร่างก็ดีจนมีอยู่หลายครั้งที่เขาเผลอมอง
“อาจารย์เรียกหนูเปียโนเฉยๆ เถอะค่ะ อาจารย์กำลังจะไปเยี่ยมอาจารย์ทรงวุฒิใช่ไหมคะ” ปณัยกรมองหน้าเธอแล้วคิ้วขมวด เพราะไม่คิดว่าเธอจะรู้ว่าเขากำลังจะไปที่ไหน
“ใช่ครับมีอะไรหรือเปล่า”
“หนูอยากไปเยี่ยมอาจารย์ด้วยค่ะ วันศุกร์หนูไปทีหนึ่งแล้วค่ะ หนูคุยกับแฟนของอาจารย์แล้วบอกเธอจะไปเยี่ยมอีกและจะซื้อขนมไปฝาก อาจารย์ให้หนูติดรถไปด้วยคนนะคะ” สุพิชฌาย์รอฟังคำตอบด้วยใจที่เต้นแรง
“มันจะดีเหรอครับ” ปณัยกรไม่เคยให้นักศึกษาคนไหนขึ้นรถของเขามาก่อน
“ดีสิคะ เราไปเยี่ยมอาจารย์จะต้องดีใจมากๆ แน่เลยค่ะ”
“ผมไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น”
“แล้วอาจารย์หมายถึงเรื่องอะไรคะ”
“หมายถึงเรื่องที่คุณจะไปกับผม ผมเป็นอาจารย์คุณเป็นนักศึกษา ออกไปด้วยกันแบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่”
“อาจารย์คิดมากเกินไปแล้วค่ะ เราเลิกเรียนแล้วนะคะ แล้วอาจารย์ก็ไม่ใช่อาจารย์ประจำสักหน่อย ให้หนูไปด้วยนะคะ”
“ผมว่าคุณน่าจะขับรถมานะ ทำไมไม่ขับไปเองล่ะ”
“หนูไม่อยากเอารถไปเองค่ะ ที่นั่นหาที่จอดรถยากมากหนูขับรถไม่ค่อยเก่งด้วยค่ะ” สุพิชฌาย์อธิบายเหตุผล
“แต่....” ปณัยกรยังลังเล
“หรือที่อาจารย์ไม่ให้หนูไปด้วยเพราะรังเกียจนักศึกษาอย่างหนูที่จะนั่งรถไปด้วย” หญิงสาวทำเสียงให้ฟังดูน่าเห็นใจ
“ไม่ใช่แบบนั้นแต่ผมกลัวคนอื่นเห็นแล้วมันจะไม่เหมาะสมนะผมเป็นอาจารย์คุณเป็นนักศึกษานะครับ” ปณัยกรย้ำอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เราไปทำธุระด้วยกันนี่คะ การไปเยี่ยมอาจารย์ทรงวุฒิมันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรเลยนะคะอาจารย์หนูขอไปด้วย” หญิงสาวพยายามตื๊อ
ปณัยกรมองหน้าเธออย่างลังเล เขารู้ว่าสุพิชฌาย์เป็นลูกสาวของดอกเตอร์สุชาติเจ้าของมหาวิทยาลัยที่นี่จึงไม่ค่อยอยากจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่ถ้าหากครั้งนี้ปฏิเสธก็กลัวมันจะมีปัญหา สำหรับตนเองคงไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะไม่ใช่อาจารย์ประจำที่นี่
แต่ถ้าเกิดปัญหานี้มันลามไปถึงรุ่นพี่อย่างอาจารย์ทรงวุฒิก็คงไม่ค่อยดีสำหรับเขา
“เอาอย่างงั้นก็ได้คุณไปเยี่ยมอาจารย์ทรงวุฒิที่โรงพยาบาลกับผม เสร็จแล้วผมจะกลับมาส่งคุณเอารถที่นี่ตกลงไหม”
“ตกลงค่ะ อาจารย์ใจดีมากๆ” เลยหญิงสาวยิ้มก่อนจะรีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถของเขาทันที
“คาดเบลท์ด้วยครับ” เขาบอกอย่างสุภาพ
“ค่ะ” สุพิชฌาย์คาดเข็มขัดจากนั้นก็นั่งเงียบจนกระทั่งรถออกมาจากมหาวิทยาลัยและใกล้จึงร้านเค้กที่เธอจะซื้อไปฝากภรรยาของอาจารย์ทรงวุฒิ
“อาจารย์ค่ะ ถ้าเลยไฟแดงนี้ไปแล้วอาจารย์ช่วยจอดที่หน้าร้านกาแฟได้ไหมคะ”
“ครับ” ปณัยกรไม่ถามเหตุผลเขาขับรถผ่านแยกไปที่เธอบอกก่อนจะจอดที่หน้าร้านกาแฟ
“อาจารย์จะเอากาแฟด้วยมั้ยคะ กาแฟร้านนี้รสชาติดีมาก ขนมก็อร่อยค่ะ”
“อ๋อ....คุณเองเหรอเปียโนที่เป็นคนเอากาแฟมาให้ผม”
“ค่ะ เป็นไงคะอร่อยถูกใจมั้ยคะ”
“ก็อร่อยดีนะแต่คราวหน้าไม่ต้องผมเกรงใจ”
“มันคงไม่มีคราวหลังแล้วค่ะเพราะวันนี้อาจารย์จะมาสอนที่นี่เป็นวันสุดท้ายใช่ไหมคะ”
“ครับ”
“น่าเสียดายจังเลยค่ะ หนูนึกว่าจะได้เรียนกับอาจารย์อีก”
หญิงสาวพูดด้วยความเสียดายจากนั้นเธอก็ลงไปจากรถซื้อขนมและกาแฟสำหรับฝากอาจารย์ทรงวุฒิกับภรรยาก่อนจะกลับขึ้นมาบนรถโดยไม่ได้ซื้อกาแฟของตนเองและปณัยกรมาเพราะเธอวางแผนไว้ว่าหลังจากเยี่ยมอาจารย์ทรงวุฒิเสร็จแล้วจะชวนเขาไปทานข้าว
เมื่อนึกถึงแผนการของตัวเองที่จะอยู่ใกล้ชิดกับอาจารย์ปณัยกรมากขึ้นก็อมยิ้มอย่างมีความสุข
“เรียบร้อยค่ะ” หญิงสาวบอกเมื่อขึ้นมานั่งและคิดเข็มขัดเรียบร้อยแล้ว
“ต้องแวะซื้ออะไรอีกไหม”
“ไม่แล้วค่ะเราไปโรงพยาบาลได้เลย”
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลปณัยกรก็ให้สุพิชฌาย์ขึ้นไปข้างบนก่อนส่วนเขาเอารถไปจอดและแวะซื้อผลไม้ที่ร้านของโรงพยาบาลก่อนจะขึ้นไปบนห้องพักของอาจารย์รุ่นพี่
“สวัสดีครับพี่วุฒิเป็นยังไงบ้างครับ
“ดีขึ้นแล้ว ขอบใจนะไนท์ที่ไปสอนแทนแล้วยังมาเยี่ยมอีก”
“ไม่เป็นไรครับพี่ แล้วนี่พี่แก้วไปไหนแล้วล่ะครับ” ปณัยกรมองไปรอบห้องแล้วไม่เห็นภรรยาของรุ่นพี่แต่เห็นถุงขนมที่สุพิชฌาย์ซื้อมาเมื่อครู่วางอยู่
“แก้วไปติดต่อเรื่องเอกสารน่ะ การสอนนักศึกษาที่นี่แตกต่างจากที่เดิมไหม”
“นิดหน่อยครับพี่”
“ถ้าติดใจอยากมาสอนประจำก็บอกได้นะ ที่นี่ยังต้องการอาจารย์อีกมากอาทิตย์อยากมาสอนแทนอยู่ไหมล่ะ”
“ไม่ดีกว่าครับพี่ ถ้าผมไปสอนวันเสาร์อีกนักศึกษาคงได้บ่นเพราะไม่ได้พักทั้งที่เป็นวันหยุด”
“เรื่องนักศึกษาไม่เท่าไหร่หรอก อยู่ที่นายมากกว่าเสียเวลาพักผ่อนไปตั้งครึ่งวันคงเหนื่อยแย่”
“ไม่เหนื่อยหรอกครับปกติแล้ววันหยุดผมก็ไม่ค่อยได้ออกไปไหน”
“ก็เพราะเก็บตัวอยู่แบบนี้ถึงได้ยังไม่มีแฟน อายุก็ขึ้นเลขสามแล้วนะไนท์ไม่คิดจะมีครอบครัวกับเขาบ้างเหรอ”
“คิดสิครับพี่ แต่ยังไม่มีคนถูกใจแล้วผมก็จีบผู้หญิงไม่เก่งด้วย”
“หน้าตาหล่ออย่างนายพี่ว่าผู้หญิงน่าจะเป็นคนมาจีบมากกว่า”
“ถ้ามีก็ดีสิครับ”
“อยากให้พี่แนะนำให้ไหมล่ะ อาจารย์ที่คณะยังมีโสดอยู่หลายคนนะ”
“ไม่ดีกว่าครับพี่ ผมไม่อยากมีแฟนทำอาชีพเดียวกัน กลัวว่ากลับไปบ้านก็ยังคุยกันเรื่องงานชีวิตคงน่าเบื่อ”
“แล้วนายชอบผู้หญิงแบบไหนล่ะ”
“แบบไหนก็ได้ครับขอแค่เป็นตัวของตัวเองไม่เสแสร้งและที่สำคัญคืออยู่ด้วยแล้วมีความสุข”
ปณัยกรหยุดการสนทนาไว้แค่นั้นเมื่อประตูห้องพักเปิดออกและสุพิชฌาย์เดินเข้ามากับอาจารย์กิ่งแก้วรุ่นพี่ที่สอนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกับเขา
“สวัสดีครับพี่แก้ว”
“สวัสดีค่ะอาจารย์ไนท์ มานานแล้วเหรอคะ”
“สักพักแล้วครับ”
“ทานข้าวกลางวันมาหรือยังล่ะ”
“ยังเลยครับ ผมว่ากลับจากที่นี่ค่อยไปหาอะไรทาน”
“หนูก็ยังไม่ได้กินข้าวเหมือนกันคะ หนูขอไปกินด้วยคนได้ไหมคะ”
“ให้น้องเปียโนไปด้วยนะไนท์ เมื่อก็เธอก็บ่นว่าหิวข้าวอยู่เหมือนกัน”
“ครับ” เพราะเห็นแก่รุ่นพี่ทั้งสองคนปณัยกรเลยตอบตกลง
“ขอบคุณนะคะอาจารย์”
“ผมขอตัวก่อนนะครับพี่แก้ว พี่วุฒิแล้วจะมาเยี่ยมใหม่”