บทที่ 4 เหมือนจะเปลี่ยนเป็นบ้าบิ่นแล้ว
หลังจากกลับถึงห้องกู้ชูหน่วนเอาผ้าคลุมหน้าออก เห็นใบหน้าอัปลักษณ์ที่เป็นหลุมเป็นบ่อนั่น นางสะอิดสะเอียนอีกครั้ง
อีชุ่นฮุย
ยาพิษที่นางโดนเรียกว่าอีชุ่นฮุย นางสามารถถอนได้ เพียงแต่ต้องการสมุนไพรปรุงยา สมุนไพรปรุงยาสองอย่างในนั้นก็ยังค่อนข้างหายากอีกด้วย
กู้ชูหน่วนค้นหาความทรงจำในสมอง แต่กลับหาไม่เจอว่าใครเป็นผู้วางยานาง
ในภาพความจำ ก่อนอายุสิบปีนางมีหน้าตาสะสวยอิ่มเอิบ หลังจากอายุสิบปีนางถูกผึ้งพิษต่อยทีหนึ่ง ทั้งใบหน้าของนางก็เริ่มเน่าเปื่อย สุดท้ายก็กลายสภาพเป็นผีเช่นนี้
เหอะ ผึ้งพิษ......
ไร้สาระน่ะสิ
“คุณหนู คราวนี้พวกเราล่วงเกินอนุภรรยาห้ากับคุณหนูห้าโดยสมบูรณ์แล้ว หากว่านางมาสร้างปัญหาให้พวกเราจะทำอย่างไรเจ้าคะ? ไม่เช่นนั้น พวกเราไปขอร้องท่านอ๋องเจ๋อ ให้ท่านอ๋องเจ๋อช่วยพวกเราเถอะเจ้าค่ะ”
“เมียน้อยกับลูกเมียน้อยผู้หนึ่ง ทำให้เจ้ากลัวถึงขนาดนี้เชียวหรือ?”
ชิวเอ๋อร์ร้อนใจแล้ว “แม่ทูนหัวของข้า อนุภรรยาห้าเป็นคนที่นายท่านโปรดปรานที่สุดเชียวนะเจ้าคะ ฐานะในจวนนี้ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าฮูหยินใหญ่เท่าไหร่ นางต้องการจะจัดการให้พวกเราตาย ง่ายดายยิ่งกว่าขยี้มดตัวหนึ่งซะอีกเจ้าคะ”
“วางใจเถอะ แค่พวกนางสองคนยังไม่มีคุณสมบัติพอจะทำอะไรพวกเราได้หรอก”
“คุณหนู ข้ารู้สึกว่าท่านกลับมาครั้งนี้ เหมือนว่าจะมีตรงไหนที่แตกต่างไปแล้วเจ้าคะ”
“อ๋อ......มีเนื้อเพิ่มขึ้นชิ้นหนึ่ง หรือว่าเนื้อขาดไปชิ้นหนึ่ง”
ชิวเอ๋อร์ขยับเข้าใกล้นางแล้วสังเกตอย่างละเอียดรอบหนึ่ง “ข้าน้อยก็อธิบายไม่ออก แต่เหมือนว่าคุณหนูจะ......เปลี่ยนเป็นบ้าบิ่นขึ้นแล้วเจ้าคะ”
“แค่นี้ก็บ้าบิ่นแล้ว?”
“แน่นอนเจ้าคะ ก่อนหน้านี้คุณหนูเห็นอนุภรรยาห้ากับคุณหนู ก็กลัวจนไม่กล้าเงยหน้า แต่ตอนนี้คุณหนูกลับกล้าโต้เถียงพวกนาง”
“ไป หยิบเงินของข้าออกมา”
“คุณหนู พวกเรามีเงินที่ไหนกัน แค่ปิ่นปักผมบนศีรษะของท่าน ยังเป็นข้าน้อยที่ใช้เงินเดือนของตัวเองซื้อมาเลยน่ะเจ้าคะ ทำให้ข้าน้อยปวดใจจะตายอยู่แล้วเจ้าค่ะ”
กู้ชูหน่วนตะลึงทันที “ข้าไม่ใช่คุณหนูลูกเมียหลวงหรือ? เจ้าคงจะไม่ได้บอกข้าว่า แม้แต่เงินหนึ่งเหวินข้าก็ไม่มีหรอกนะ”
“ฮูหยินใหญ่ไม่ได้ให้เงินพวกเราสักเหวินเดียวมาหลายปีแล้วเจ้าค่ะ พวกเราก็ไม่ใช่ว่ากำลังไม่มีเงินสักเหวินอยู่หรือเจ้าคะ”
ให้ตายสิ
นี่เป็นคุณหนูสามลูกเมียหลวงอะไรกัน ใช้ชีวิตอย่างกล้ำกลืนฝืนทนเกินไปแล้วล่ะมั้ง
ชิวเอ๋อร์ล้วงเงินร้อยเหวินออกมาจากบนตัว ทำมือเคารพยื่นไปด้านหน้าของกู้ชูหน่วน กล่าวปลอบใจ “คุณหนู ที่ข้าน้อยนี้ยังมีเงินอีกหน่อย นี่ ให้ท่านทั้งหมด รอปลายเดือนข้าน้อยได้เงินเดือนแล้ว ค่อยเอาทั้งหมดมอบให้คุณหนูเจ้าค่ะ”
กู้ชูหน่วนมองดูรอยยิ้มที่ใสสะอาดของนาง ในใจก็รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
เจ้าของร่างเดิมใช้ชีวิตย่ำแย่จนถึงขีดสุด แต่ข้างกายของนางกลับมีชิวเอ๋อร์สาวรับใช้ที่ซื่อสัตย์ภักดีคนหนึ่งนี้ ไม่รู้ควรจะบอกว่านางโชคดี หรือว่าโชคร้าย
“หลังจากนี้ในที่ที่ไม่มีคน เจ้าก็ไม่ต้องเรียกตัวเองว่าข้าน้อยแล้ว”
ชิวเอ๋อร์เกาศีรษะอย่างอายๆ “คุณหนูบอกข้าหลายรอบแล้ว ข้ามักจะลืมอยู่เสมอ หลังจากนี้ข้าจะจำให้แม่น คุณหนู ท่านยังขาดเงินอีกเท่าไหร่ ข้าจะไปยืมคนอื่น”
“ไม่ต้องแล้ว เจ้าเก็บไว้เถอะ”
จากความทรงจำในสมองของนาง คนที่เข้าใจวิชาทางการรักษาในแผ่นดินใหญ่ผืนนี้มีน้อยมาก สมุนไพรปรุงยาก็แพงจนเกินไป แม้ว่าจะเป็นยาห้ามเลือดที่ธรรมดาที่สุด ก็ต้องใช้เงินหลายตำลึง เงินร้อยเหวินนี้อุดซอกฟันก็ไม่พอ ยังจะพอให้นางซื้อสมุนไพรปรุงยารักษาใบหน้าได้อย่างไร?
ดูท่า นางจำเป็นต้องหาที่ทำเงินอื่นแล้ว
“คุณหนู ข้าไปต้มน้ำร้อนกาหนึ่งให้ท่าน”
ชิวเอ๋อร์ หิ้วกาน้ำออกไป ไม่นานก็วิ่งกลับมาด้วยความรีบร้อนอีกครั้ง กล่าวด้วยความดีใจ “คุณหนู ข้าได้ยินพี่ชุนฉ่าวในห้องครัวพูดว่า อ๋องเจ๋อมาแล้วเจ้าค่ะ”
“อ๋องเจ๋อมาแล้ว?” กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว นางยังไม่ได้ไปหาเขา เขากลับมาถึงบ้านแล้ว
ใบหน้าของชิวเอ๋อร์เต็มไปด้วยความดีใจ ค้นกล่องพลิกตู้ช่วยนางเลือกเสื้อผ้า “คุณหนู ท่านว่าจะสวมเสื้อผ้าชุดไหนดีนะเจ้าคะ? ชุดนี้ดีหรือไม่? เอ๋ ไม่ได้ จืดเกินไป ไม่งั้นก็ชุดนี้ละกัน ชุดนี้สดใสหน่อยเจ้าค่ะ”
เห็นเสื้อผ้าในกล่อง ชิวเอ๋อร์ปวดใจอย่างฉับพลัน
แม้ว่าคุณหนูจะเป็นลูกของภรรยาหลวง ไม่ต้องพูดถึงคุณหนูลูกอนุภรรยาแล้ว แม้ว่าเสื้อผ้าของสาวรับใช้ก็สู้ไม่ได้ เลือกไปเลือกมาก็มีแค่ไม่กี่ชุดนี้
ปลายนิ้วมือที่เรียวยาวขาวสะอาดของกู้ชูหน่วนเลือกไปอย่างสุ่มๆ พบชุดสีสันลายดอกชุดหนึ่งที่ทับไว้ด้านล่างกล่อง มุมปากยกขึ้นเป็นเส้นโค้ง “เป็นมันละกัน”
ชิวเอ๋อร์ตกใจจนเซ แทบจะไม่กล้าเชื่อสายตาของตัวเอง “คุณหนู ท่านเลือกผิดหรือไม่เจ้าคะ? นี่เป็นชุดละครนะเจ้าคะ”
“เจ้าจะไปรู้อะไร”
“แต่.......”
ชิวเอ๋อร์ยังอยากพูดอะไรสักหน่อยแต่ก็ถูกนางไล่ออกไปแล้ว จนกระทั่งขณะที่กู้ชูหน่วนเปิดประตูอีกครั้ง นางก็มีความคิดอยากจะตายแล้ว
แม้ว่าโฉมหน้าคุณหนูของนางจะน่าเกลียดไปหน่อย แต่รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น มีเสน่ห์น่าสนใจ ตอนนี้สวมชุดละครนี้ ไม่เพียงแค่ดูรูปร่างไม่ออก กลับยังเห็นได้ว่าหลวมใหญ่ มากเกินจริง
แล้วมองดูเครื่องประดับบนศีรษะของนางอีก คิดไม่ถึงว่าจะเสียบหนึ่งสองสามสี่ห้า ดอกโบตั๋นดอกใหญ่สีแดงทั้งหมดห้าดอก
“ชิวเอ๋อร์ ข้างดงามหรือไม่?”
กู้ชูหน่วนชายตามองไปทางนางกะพริบตา ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
ชิวเอ๋อร์ตกใจจนหกล้มไปโดยตรง นางร้องไห้ออกมาแล้ว “คุณหนู พวกเราไม่สร้างปัญหาแล้วได้หรือไม่เจ้าคะ? ไม่ง่ายที่อ๋องเจ๋อจะมาจวนของพวกเราสักครั้ง ครั้งนี้เป็นไปได้ว่าจะมาขอแต่งงานนะเจ้าคะ”
“ไป ตามข้าไปพบว่าที่สามีของข้ากัน”
“คุณหนู ท่านเปลี่ยนชุดออก ข้าแต่งตัวให้ท่านใหม่อีกครั้งแล้วค่อยไปเจ้าค่ะ”
“แต่งตัวอะไร บางทีอ๋องเจ๋ออาจจะชอบแบบนี้ ข้ารู้สึกว่าเสื้อผ้าชุดนี้ขับราศีของข้าให้เด่นมาก”
วนที่ระเบียงวนรอบสองสามรอบ กู้ชูหน่วนเห็นท่านอ๋องเจ๋อกำลังจิบชาอยู่ที่ศาลาในสวนดอกไม้
เพราะว่าหันหลังให้ กู้ชูหน่วนก็ไม่รู้ว่าเขาหน้าตาอย่างไร แต่มองจากด้านหลังอย่างเดียว เสื้อผ้าที่หรูหราทั้งตัวของท่านอ๋องเจ๋อ ราศีเกินฝูงชน คิดว่าหน้าตาก็ไม่ได้แย่นัก
ข้างกายของเขายังมีน้องห้าของนาง น้องเจ็ด รวมทั้งชายหนุ่มผู้หนึ่ง
หน้าตาของชายหนุ่มหล่อเหลา ชุดสีฟ้าอ่อนหรูหราทั้งตัว ที่เอวห้อยหยกขาว มือถือพัดหยก บนใบหน้าเปี่ยมด้วยรอยยิ้มจางๆ และไม่รู้ว่าพวกเขาพูดอะไรกันอยู่
ชิวเอ๋อร์ทำปากจู๋ “ทุกครั้งที่ท่านอ๋องเจ๋อมา คุณหนูห้ากับคุณหนูเจ็ดมักจะเกาะกะท่านอ๋องเจ๋ออยู่เสมอ พวกนางอยากจะได้รับความนิยมชมชอบจากท่านอ๋องเจ๋อ รอให้ข้าแต่งตัวให้ท่านเรียบร้อย ท่านก็เข้าไปเอาใจท่านอ๋องเจ๋อ จะเอาท่านอ๋องเจ๋อหลีกทางให้พวกนางไม่ได้เด็ดขาด”
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างทะนงตัว
แต่ไหนแต่ไรมีเพียงคนอื่นเอาใจนางเท่านั้น คนที่สามารถทำให้นางเอาใจได้ยังไม่เกิดเลย
“ท่านอ๋องเจ๋อ ท่านคิดถึงข้าแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ ถึงได้มาหาข้าที่จวน”
เสียงของกู้ชูหน่วนดังเกินไป บวกกับนางที่หอบหิ้วชุดละครตัวหลวมใหญ่พุ่งไปทางท่านอ๋องเจ๋อ ทุกคนล้วนถูกการกระทำขอนางทำให้ตกตะลึงไปแล้ว”
ชิวเอ๋อร์ปิดตา นางไม่กล้ามองไปที่สีหน้าท่าทางของท่านอ๋องเจ๋อจริงๆ
“เจ้าเป็นใคร?”
ร่างกายของอ๋องเจ๋อแฉลบ สามารถพอที่จะหลบได้ มองดูผู้หญิงตรงหน้าที่สวมชุดสีฉูดฉาดด้วยความโมโหเล็กน้อย
“แน่นอนว่าข้าก็คือว่าที่ภรรยาของท่าน ท่านอ๋องเจ๋อ นานแล้วที่ท่านไม่ได้มาที่จวน ข้าพาท่านไปเดินรอบๆ พวกเราเพิ่มเติมความสัมพันธ์กันหน่อยเพคะ”
กู้ชูหน่วนชายตามอง เสื้อผ้าสีแดงสดพร้อมด้วยสีเขียวเข้มทั้งชุดของนาง บวกกับดอกโบตั๋นดอกใหญ่ห้าดอกบนศีรษะ ทั้งคนมองไปแล้วเหมือนนกยูงรำแพนเช่นนั้น ต้องการเชยเท่าไหร่ก็เชยเท่านั้น
“อู้ว......ฮ่าๆๆ.......อ๋องเจ๋อ ดูท่าว่าที่ภรรยาของท่านจะพิเศษมากนะ”
ชายหนุ่มชุดสีฟ้าด้านข้างเซียวหยู่เซวียนกุมท้องหัวเราะอย่างหนัก หัวเราะจนยืดเอวตรงขึ้นมาไม่ได้
จนถึงวันนี้ เขาถึงได้เข้าใจได้ว่าทำไมอ๋องเจ๋อจึงแทบอยากจะถอนหมั้นทันที รสนิยมเช่นนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาที่จะสามารถนิยมชมชอบได้เด็ดขาด
กู้ชูหลันและกู้ชูฉิงตกตะลึงอยู่นานจึงจะดึงสติกลับมาได้
พี่สาวคนนี้ของพวกนาง เป็นบ้าอีกแล้วหรือ? แต่งตัวแบบนี้อยากทำให้คนตกใจตายรึไง