ตอนที่ 3
แก้วตาเดินออกมานอกตึกหลังจากหมดคาบเรียนในวันนี้แล้ว
“แก้ว... วันนี้ไปกินข้าวบ้านนินไหม”
“ขอบใจนินมากนะ แต่วันนี้แก้วมีนัดกับแม่น่ะจ้ะ เอาไว้โอกาสหน้านะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ เอาไว้วันหน้าก็ได้เนอะ”
ลินินพูดกับแก้วตา ขณะเดินออกไปนอกมหาวิทยาลัยพร้อมกัน
“ว่าแต่วันนี้แก้วกลับบ้านยังไงเหรอ เดี๋ยวนินให้คุณเมศแวะไปส่งนะ”
“ขอบใจมากนะนิน แต่แก้วไม่อยากรบกวนน่ะ แก้วกลับเองได้จ้ะ”
ลินินดึงมือของเพื่อนรักมากุมเอาไว้
“ทำไมต้องเกรงใจกันด้วยล่ะแก้ว เราสองคนเป็นเพื่อนรักกันนะ”
“แก้วกลับเองได้จริงๆ นะนิน ก็เลยไม่อยากรบกวนน่ะ เอาไว้วันไหนเราเลิกค่ำ แล้วแก้วจะรบกวนนินก็แล้วกันนะ”
ลินินอมยิ้มบางๆ มองแก้วตาอย่างพิจารณา “ช่วงนี้แก้วดูไม่ค่อยร่าเริงเหมือนเมื่อก่อนเลยนะ มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”
“เอ่อ... ไม่มีหรอก” แก้วตาหลบตาลินิน
“ไม่เชื่อหรอก หลบตาแบบนี้ แสดงว่ามีเรื่องกังวลใจใช่ไหม ไหนลองเล่าให้ฟังหน่อยสิ” ลินินคาดคั้น แก้วตาจึงไม่มีทางเลือกจำต้องเล่าออกมา
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกนิน แค่... แม่ของแก้วกำลังจะแต่งงานใหม่น่ะ”
“จริงเหรอ” ลินินฉีกยิ้มกว้าง
“จริงสิ วันนี้แม่จะพาแก้วไปกินข้าวกับผู้ชายคนนั้นน่ะ แต่แก้วไม่อยากไปเลย”
“แก้วไม่ชอบผู้ชายคนนั้นเหรอ” ลินินดึงมือเพื่อนรักมากุมเอาไว้
“เปล่านะนิน แค่แก้วรู้สึกว่าเขากับครอบครัวของเราแตกต่างกันเกินไปน่ะ”
“ยังไงเหรอ”
แก้วตาระบายลมหายใจออกมาแผ่วเบา ด้วยความเป็นกังวลเต็มใบหน้า
“เขารวยมาก ในขณะที่บ้านของแก้วยากจน”
“ไม่เอาน่าแก้ว ความรักมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับฐานะสักหน่อย แต่มันขึ้นอยู่กับหัวใจต่างหาก”
แม้หล่อนจะรู้ดีว่าที่ลินินพูดมันคือเรื่องจริง แต่ก็ยังอดเป็นกังวลไม่ได้
“แก้วไม่รู้ว่าครอบครัวของเราจะเข้ากับครอบครัวของเขาได้หรือเปล่า แก้วกลัวว่าแม่จะเสียใจ”
“อย่าคิดมากสิแก้ว คุณแม่ของแก้วน่าจะตัดสินใจดีแล้วล่ะถึงได้ทำแบบนี้ ดังนั้นแก้วจะต้องเคารพการตัดสินใจของคุณแม่นะ”
“อืม” แก้วตาพยักหน้ารับน้อยๆ “แก้วก็ไม่คิดจะขัดขวางอะไรหรอก เพราะแก้วอยากให้แม่มีความสุข”
“นินเอาใจช่วยนะแก้ว ขอให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี”
“ขอบใจจ้ะนิน” แก้วตามองเพื่อนอย่างซาบซึ้งใจ “งั้นแก้วขอตัวไปรอรถเมล์ก่อนนะ”
“จ้ะ กลับบ้านดีๆ นะแก้ว”
แก้วตากำลังจะเดินออกไป แต่พิพัฒน์ก็ขับรถมาจอดตรงหน้าเสียก่อน หล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรง ขณะยืนนิ่ง มองพิพัฒน์ทักทายลินิน
พิพัฒน์มักจะมีรอยยิ้มให้กับลินินเสมอ แม้กระทั่งยามที่ลินินเป็นของชายคนอื่นไปแล้ว ตรงกันข้ามกับหล่อน ที่เขาไม่เคยชายตาแลเลย
“นิน รอคุณเมศมารับหรือ”
“ใช่จ้ะ พัฒน์” ลินินตอบ “ว่าแต่พัฒน์กำลังจะกลับบ้านเหมือนกันใช่ไหม”
“อืม มีอะไรหรือเปล่านิน”
ลินินรีบเดินไปดึงแขนของแก้วตาเอาไว้ และพูดขึ้น
“ให้พัฒน์ไปส่งสิแก้ว จะได้ถึงบ้านเร็วๆ”
แก้วตาปรายตามองพิพัฒน์เล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้าไปมา
“เอ่อ ไม่เป็นไรหรอกนิน แก้วกลับเองได้”
ลินินรู้ว่าแก้วตาชอบพิพัฒน์ก็เลยพยายามจะเป็นแม่สื่อแม่ชักให้
“แก้ว... จะได้นั่งรถไปกับพัฒน์ไง ไม่ชอบเหรอ”
เสียงกระซิบกระซาบของลินินที่ข้างหูทำให้แก้วตาน้ำตาคลอ
ใช่ หล่อนรักพิพัฒน์ แต่กระนั้นก็ไม่อยากทำให้เขาต้องลำบากหรืออึดอัดใจ
“แก้ว... กลับรถเมล์ดีกว่านิน แก้วไปนะ”
“แก้ว...” ลินินมองร่างของแก้วตาที่รีบจ้ำอ้าวเดินจากไปด้วยความไม่เข้าใจ “หมู่นี้แปลกๆ ไปนะแก้ว”
พิพัฒน์ที่นั่งนิ่งอยู่บนรถ กัดฟันแน่น เมื่อก่อนแก้วตามักจะคว้าทุกโอกาสที่สามารถอยู่ใกล้กับเขาเอาไว้ไม่เคยพลาด ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นขึ้น แก้วตาก็เอาแต่หลบหน้าหลบตาตลอดเวลา และแน่นอนว่ามันทำให้เขาหงุดหงิดเป็นที่สุด
“พัฒน์ทะเลาะอะไรกับแก้วมาหรือเปล่า ทำไมแก้วถึงเอาแต่หลบหน้าพัฒน์ก็ไม่รู้ช่วงนี้”
“เปล่านี่ พัฒน์ไม่ได้ทะเลาะอะไรกับแก้วสักหน่อย”
“งั้นแก้วก็คงอยากกลับรถเมล์เองจริงๆ นั่นแหละ”
ลินินพึมพำออกมาเบาๆ ก่อนจะอุทานเสียงดังเมื่อเห็นแก้วตาที่เดินไปไกลแล้วก้าวขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของใครบางคนไป
“อ้าว แล้วนั่นแก้วขึ้นรถไปกับใครน่ะ”
พิพัฒน์รีบมองตามไป ก่อนจะขบกรามแน่น
“ไอ้นุไง นิน”
“นุ... อ้อ อนุวัฒน์นั่นเอง นี่อย่าบอกนะว่านุแอบชอบแก้วน่ะ”
ลินินเบิกตากว้างด้วยความเหลือเชื่อ ตรงกันข้ามกับพิพัฒน์ที่หน้าหงิกโดยไม่รู้สามารถ
“ไม่รู้เหมือนกัน แค่ได้ยินว่ามันจะจีบแก้วตาน่ะ”
ลินินฉีกยิ้ม “งั้นก็ดีเลย แก้วจะได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที”
“ไม่เห็นจะดีเลยนิน ทำไมจะต้องรีบมีแฟนด้วย เรียนให้จบก่อนก็ได้นี่”
“เอ่อ... พัฒน์เป็นอะไรไปหรือเปล่า ทำไมพูดเสียงดุดันจัง”
พิพัฒน์ได้สติก็รีบแก้ตัว “เปล่า พัฒน์ไม่ได้เป็นอะไรหรอก ขอตัวก่อนนะนิน”
“จ้ะ ขับรถดีๆ นะพัฒน์”
พิพัฒน์ยกมือโบกลาหล่อน ก่อนจะพุ่งรถคันงามออกไปด้วยความเร็ว
“แปลกทั้งพัฒน์ แปลกทั้งแก้วเลย”
หญิงสาวส่ายหน้าน้อยๆ ด้วยความไม่เข้าใจ ก่อนจะรีบก้าวข้ามถนน เมื่อเห็นปรเมศขับรถเข้ามาจอดรอรับ
“รอนานไหมที่รัก” ปรเมศลงมาเปิดประตูรถให้กับภรรยา
“ไม่นานค่ะ ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวก้าวขึ้นไปนั่งบนรถของสามี
“หิวไหมคะคุณเมศ”
คนที่กำลังขับรถอยู่หันมามองด้วยสายตาเป็นประกาย
“นินหมายถึงอาหาร หรือว่าอย่างอื่นกันล่ะ”
พวงแก้มนวลแดงระเรื่อ
“คุณเมศน่ะ คิดลามกอีกแล้วนะคะ นินหมายถึงอาหารต่างหาก”
“ผมรู้แล้วล่ะ แต่ผมไม่อยากอาหารนี่น่า อยากกินเมียมากกว่า”
“คุณเมศน่ะ ลามกอีกแล้ว”
ชายหนุ่มหัวเราะร่วน คว้ามือภรรยาไปกุมเอาไว้ ขณะขับรถไปฮัมเพลงไปอย่างมีความสุข