บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ทดสอบ1/3

บทที่ 4 ทดสอบ1/3

ที่พักทหาร

“หมิงซี เจ้ากลับมาแล้วหรือ”

หมิงซีเดินมาถึงห้องพักของตน พบว่าไป๋เหรินนั่งอยู่ที่พักด้านหน้า เมื่อเห็นเขาเดินมาก็ทักทายทันที หมิงซีดูท่าทางของเขาไม่ได้มีพิษมีภัยอะไร จึงยอมพูดคุยด้วย

“อื่ม” หมิงซีพยักหน้าตอบในลำคอ

“เป็นอย่างไร ดูเจ้าเหมือนคนไม่ได้นอนเลยนะ” ไป๋เหรินเอ่ยถามพร้อมกับยิ้มเป็นนัยๆ

“ก็ข้าไม่ได้นอน” หมิงซีนั่งลงข้างๆ แล้วตอบกลับไป ที่พูดมานั่นเป็นความจริง เขานั่งเฝ้านางทั้งคืน ได้หลับไปเพียงครู่เดียวก็เกิดเรื่องขึ้นจนไม่ได้นอนทั้งคืน

“เจ้านี่โชคดีจริงๆ เลย พระองค์เป็นสตรีที่งดงามที่สุดที่ข้าเคยพบเจอมา ทั้งยังกล้าหาญมากอีกด้วย ข้าล่ะอยากใกล้ชิดพระองค์แบบเจ้าบ้าง” ไป๋เหรินพูดด้วยสายตาที่เพ้อฝัน และตีความไปคนละทางกับความจริงที่หมิงซีไปพบเจอมา

“นางไม่เคยเรียกเจ้าเข้าไปเลยหรือ” หมิงซีถามอย่างสงสัย สายตาคมเข้มมองไปทางหน้าอย่างครุ่นคิด

“ก็ไม่น่ะสิ นอกจากหวังหย่งกับหลี่เหว่ยที่สลับกันเข้าออกตำหนักพระองค์ในยามวิกาลแล้ว ข้าก็ไม่เห็นว่าจะทรงเรียกพบใคร ก็มีเจ้าที่เพิ่งมานี่แหละ ดูเหมือนจะทรงพอพระทัยในตัวเจ้าเข้าแล้วล่ะ” ไป๋เหรินตอบกลับมาและยิ้มให้เขาอย่างหยอกล้อ

“แต่ข้าไม่คิดเช่นนั้น ว่าแต่เจ้าเถอะนอกจากเฝ้ายามแล้ว พวกเจ้าทำอะไรกัน” หมิงซีเริ่มแผนที่จะสืบข่าวทันทีที่มีโอกาส

“ก็ไม่มีนะ พวกเราที่อยู่ที่นี่มีหน้าที่แค่เฝ้ายามอยู่รอบๆ ตำหนัก ให้ปรากฏตัวอยู่ในสายตาขององค์หญิง เพราะพระองค์ทรงเคยรับสั่งว่าเวลามองมาเห็นพวกเราแล้ว ทำให้อาหารรสชาติดีขึ้น” ไป๋เหรินทำท่าคิดก่อนจะตอบออกมาตามตรงๆ

“ไม่มีการฝึกฝนการต่อสู้แบบนี้บ้างเลยหรือ” หมิงซีขมวดคิ้วถามอย่างแปลกใจ ทหารอะไรมีหน้าที่แค่เฝ้ายาม

“นั่นไม่ใช่หน้าที่ของพวกเรา พระองค์ทรงมีหน่วยคุ้มกันแยกต่างหาก ขนาดที่พักยังต้องแยกกันอยู่เลย พวกเขาจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายในตำหนักหรอก พวกเขาจะเฝ้าระวังโดยที่เราไม่เห็นตัวตนของเขา พวกนั้นฝีมือดีทั้งนั้น ข้าเองก็อยากเข้าหน่วยนั้นเหมือนกัน แต่ยังไม่มีโอกาส” ไป๋เหรินบอกตามที่ตัวเองพบเจอมา เพราะในสายตาทหารพวกนั้น พวกเราก็เหมือนของเล่นที่องค์หญิงเก็บเอาไว้ใกล้ตัวเท่านั้น

“เป็นเช่นนี้นี่เอง” หมิงซีพยักหน้าเบาๆ ยิ้มมุมปากเมื่อเขาพอจะเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้ว

“เจ้าหมายถึงเรื่องใด”ไป๋เหรินถามกลับมาอย่างไม่เข้าใจ

“ไม่มีอะไรหรอก ข้าไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ” หมิงซีเอ่ยจบก็ลุกขึ้น แล้วเข้าห้องของตัวเองไป

ไม่นานหมิงซีทำกิจส่วนตัวเสร็จ เขาก็ออกมาจากห้อง ไป๋เหรินก็ยังรอเขาอยู่

“เจ้ารอข้าอยู่อีกหรือนี่” หมิงซีถามอย่างสงสัย

“ใช่แล้ว ไปโรงอาหารกัน ข้าจะพาเจ้าไปหาอะไรอร่อย ๆ ใส่ท้อง” ไป๋เหรินเดินเข้าไปกอดคอหมิงซีแล้วลากไปพร้อมกับเขา ทั้งคู่ได้พูดคุยทำความรู้จักกันมากขึ้น อย่างน้อยหมิงซีคิดว่าคนคนนี้ไม่น่าจะมีพิษภัยอะไร จึงจะคบเขาเป็นสหาย

ช่วงที่เดินคุยกันนั้น ก็มีทหารกลุ่มหนึ่งกรูกันเข้ามาหาพวกเขาด้วยท่าทางไม่เป็นมิตรนัก ทหารเหล่านั้นเข้ามาล้อมเขาทั้งสองเอาไว้

“คนไหน” ทหารคนหนึ่งถามนางกำนัลที่อยู่ด้านหลัง นางชี้มาทางหมิงซีแล้วเอ่ยขึ้น “คนนั้น”

จากนั้นไป๋เหรินก็ถูกผลักจนกระเด็นออก ส่วนหมิงซีถูกล็อกแขนทั้งสองข้างไว้ เขาไม่ได้ขัดขืนยอมตามไปแต่โดยดี เพราะอยากรู้ว่าคนพวกนี้เป็นคนของใคร แล้วจะพาเขาไปที่ใดกันแน่

“เจ้าไปได้” นายทหารคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเสียงดัง

นางกำนัลคนนั้นรีบวิ่งไปทันทีเมื่อทหารออกคำสั่ง หมิงซีจำนางได้ นางคือคนที่ยืนมองเขาในตำหนักขององค์หญิง

“อยู่นิ่งๆ แล้วตามมา มีคนหนึ่งอยากพบเจ้า” ทหารคนหนึ่งในกลุ่มบอกเขา หมิงซีก็เดินตามไปอย่างว่าง่าย เขาแค่อยากดูสถานการณ์ว่าจะเป็นไปในทิศทางใด และใครที่ต้องการพบเขา

หมิงซีถูกพาตัวมาที่ตำหนักแห่งหนึ่ง ที่ค่อนข้างไกลจากผู้คน ภายในเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด

‘เจ้าของตำหนักคงชื่นชอบการปลูกต้นไม้เป็นแน่’ หมิงซีคิดในใจและมองไปในศาลาข้างหน้าก็เห็นมีคนนั่งอยู่ เมื่อมาถึงศาลา เขาถูกกดให้นั่งคุกเข่าลงตรงหน้าสตรีนางหนึ่ง ก่อนจะถูกปล่อยตัวให้เป็นอิสระ

“เจ้าเองหรือ คนที่องค์หญิงให้เข้าไปค้างคืนอยู่ด้วยน่ะ” สตรีในชุดสีขาวตลอดทั้งตัวนั่งมองเขาด้วยรอยยิ้มก่อนจะเอ่ยถามขึ้น 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel