บท
ตั้งค่า

ตีครั้งที่ 9

“อ๊ากๆ ๆ…” อู๋เฟิงตกใจจนกรีดร้อง “ไอ้คนแซ่เซี่ย ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่”

เซี่ยเหยียนกลับทำหูทวนลม แล้วหันไปพยักหน้าให้พ่างหลานที่อยู่ข้างๆ นกกระพือปีกพรึบก่อนจะพุ่งดิ่งลงไปและรับอู๋เฟิงไว้กลางอากาศอย่างมั่นคง

เซี่ยเหยียนมองไปทางอีกสองคนที่ดื้อดึง “พวกเจ้าล่ะ”

“ข้าจะอยู่” หลินอิ่งกล่าว

องค์รัชทายาทไม่ได้พูดอะไรแล้วก็ไม่ได้ขยับเขยื้อน เจตนาชัดเจน

“งั้นพวกเจ้าก็อยู่ไป”

“ท่านเซียน ตอนนี้พวกเรามีพลังเวทย์ ช่วยท่านได้” หลินอิ่งพูด

“ด้วยพลังน้อยนิดของพวกเจ้าตอนนี้น่ะหรือ”

หลินอิ่ง “......” ท่านเซียนเซี่ยกำลังดูถูกพลังเวทย์พวกเขา

องค์รัชทายาท “......” คันไม้คันมือ อยากต่อยคนชะมัด

เซี่ยเหยียนหยิบเอายันต์วิเศษใบหนึ่งออกมาจากถุงเฉียนคุน ยันต์วิเศษขยายขนาดใหญ่ในทันทีจนเกือบดันเขาตกต้นไม้

หลินอิ่ง “......” ก็ได้ ตอนนี้ท่านเซียนผู้เซี่ยมีสิทธิดูถูกพวกเขา

ยันต์วิเศษที่เซี่ยเหยียนหามาได้เก็บกักพลังวิญญาณเอาไว้ และแปรเป็นพลังเวทย์ด้วยพู่กันพิพากษา พลังเวทย์พวกนี้ที่เขาใช้ในยามปกติก็ไม่ได้ดูมีอานุภาพอะไร แต่ตอนนี้…ทรงพลังมาก!

เซี่ยเหยียนยืนให้มั่น มือขวาคลำพู่กันพิพากษาออกมาจากเอว ปลายพู่กันไล้พาดผ่านไปบนยันต์วิเศษ ปากก็ท่องไปด้วย “ไป” เซี่ยเหยียนก็หายวับไปทันที

แต่พอเขาเห็นจุดที่ตัวเองปรากฏตัวก็แทบจะร้องไห้ ให้ตาย ยอดต้นไม้รึ เขายืนอยู่บนกิ่งที่สูงที่สุด ลมเย็นพัดผ่านพาให้เขาไหวเอนไปตามกิ่งไม้

เขาได้แต่หยิบยันต์วิเศษออกมาอีกใบด้วยน้ำตานองหน้าแล้วกลับไปที่เดิม

องค์รัชทายาทกับหลินอิ่งรู้สึกเพียงว่าตรงหน้าว่างเปล่า แล้วก็มีภาพมัวๆ เซี่ยเหยียนหายไปแล้วก็ปรากฏขึ้นอีก ช่องว่างเวลานั้นเพียงชั่วพริบตา

“ท่านเซียน ท่านทำอะไร” หลินอิ่งถามอย่างไม่เข้าใจ

เซี่ยเหยียนออกจะเขินอยู่สักหน่อย “ข้าควบคุมพลังได้ไม่ดีก็เลยไปโผล่อยู่บนยอดต้นไม้”

“พรืด” องค์รัชทายาทอดหัวเราะเสียงดังไม่ได้ “วิวบนยอดไม้เป็นอย่างไร”

“ดีมาก” เซี่ยเหยียนอดกลอกตาไม่ได้ แต่ในใจกลับเสียดายอย่างสุดซึ้ง ยันต์วิเศษสองใบเลยนะ เสียไปเปล่าๆ แบบนี้เลย

ความจริงจะโทษเซี่ยเหยียนก็ไม่ได้ เวลาเซียนฝึกฝนอาคมก็ล้วนฝึกในยามที่ขนาดร่างกายปกติ มาตอนนี้ทุกคนล้วนตัวเล็กลง พลังเวทย์ยังใช้ได้แต่น้อยนิดมาก ดังนั้นองค์รัชทายาทและหลินอิ่งต่างก็ไม่สังเกตเห็นข้อนี้

แต่เซี่ยเหยียนต่างออกไป พลังวิญญาณและพลังเวทย์จากยันต์วิเศษที่เขาใช้นั้นไม่ได้เปลี่ยนไป ยังคงมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ดังนั้นจึงเสียการควบคุม

“จิ๊ด” จู่ๆ ฝานอวี้ก็หวีดร้องเสียงแหลมขึ้นแล้วกระโจนเข้ามา

“รีบหลบเร็ว” เซี่ยเหยียนเอนตัว เดินลมปราณแล้วกระโดดลงไปที่กิ่งไม้กิ่งหนาเบื้องล่าง หนานเหอก็กระโดดลงมาตามๆ กัน

ส่วนหลินอิ่งก็กระโดดไปด้านหลัง ลงมาที่กิ่งไม้ที่เล็งไว้อย่างแม่นยำ จากนั้นมีเสียง “เป๊าะ” ดังขึ้น กิ่งไม้ที่ดูหนาแข็งแรงกลับหักลง หลินอิ่งร่วงลงไปพร้อมกับกิ่งไม้

เซี่ยเหยีนอยากไปช่วย แต่ฝานอวี้ไล่ตามมาแล้ว เขาเลยได้แต่กระโดดลงไปอีกพลางตะโกนเสียงดัง “พ่างหลาน”

เจ้านกยักษ์รีบไปช่วยโดยเร็วทันที 

ฝานอวี้ไม่ใช่หนูทั่วไป แต่เป็นปีศาจหนู การเคลื่อนไหวทั้งว่องไวและแม่นยำ แค่ที่เซี่ยนเหยียนตะโกนเรียกพ่างหลานเขาก็ไล่ตามมาถึงตัวแล้ว

เซี่ยเหยียนรีบล้วงยันต์วิเศษออกมา พอข้อมือบิดสะบัด พู่กันพิพากษาก็วาดวงกลมไปบนยันต์วิเศษ ในขณะเดียวกันก็ตะโกนเสียงดัง “คุ้มกัน!”

ม่านอาคมโปร่งแสงอันหนึ่งก็ก่อตัวขึ้นด้านหน้าขวางการโจมตีของฝานอวี้ไว้

หนูตัวโตตะปบกรงเล็บลงไป ม่านอาคมไม่ไหวติงแม้แต่น้อย หนูจึงใช้หัวกระแทก ก็ยังคงไม่ไหวติง ฝานอวี้บันดาลโทสะ ร่างของเขาแปรเปลี่ยนแปลงกายเป็นคนแล้วใช้เท้าถีบ ในที่สุดม่านอาคมก็ต้านไว้ไม่อยู่ เสียง “เพล้ง” ดังขึ้นพร้อมกับที่ม่านอาคมแตกเป็นเสี่ยงๆ และสลายหายไป

เซี่ยเหยียนเหยียบกิ่งไม้แล้วกระโดดมาตรงหน้าฝานอวี้ก่อนจะตะโกน “ฝานอวี้”

ฝานอวี้ชะงักเล็กน้อย แต่ก็เงื้อมือขึ้นอย่างรวดเร็วหมายจะคว้าเขาไว้

เซี่ยเหยียนหลบอย่างว่องไว ชั่วขณะที่หมุนตัวนั้นเองจู่ๆ เขาก็เห็นผมของฝานอวี้

ผมยาวสีดำขลับถูกมัดรวบสูงด้วยรัดเกล้า แต่กลับมีปิ่นของผู้หญิงซึ่งดูไม่เข้ากันเสียบไว้ด้วย

มือซ้ายของเซี่ยเหยียนยกสูงขึ้น กลีบดอกไม้สีแดงสองกลีบลอยมาอยู่มี่ปลายนิ้ว และบินไปที่ปิ่นบนศีรษะของฝานอวี้แล้ววนไปรอบๆ

“รู้แล้ว” ดวงตาของเซี่ยเหยียนเป็นประกาย เขาสัมผัสได้แล้ว กลิ่นอายของผีและรังสีความแค้นรุนแรง

“ปิ่นปักผมงั้นหรือ” หนานเหอมาอยู่ที่ข้างตัวเขาตอนไหนก็ไม่รู้ ถามขึ้น

“อืม ความอาฆาตสูงมาก”

“งั้นเจ้าดึงความสนใจเขาไว้ ข้าจะไปดึงปิ่นออก” หนานเหอกล่าว

เซี่ยเหยียน “......” เห็นข้าเป็นเหยื่อล่อหรือ

หนานเหอเหมือนจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่จึงยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น “เหมือนว่าเขาจะไล่ตามแต่เจ้า ก็มีแต่เจ้าที่จะเป็นเหยื่อล่อได้แล้วล่ะ”

เซี่ยเหยียนน้ำตานองหน้า

“มาแล้ว” หนานเหอโพล่งขึ้นมา แล้วเหยียบกิ่งไม้พุ่งไปข้างหน้า

ส่วนเซี่ยเหยียนก็ทำตัวอ่อนเป็นแมวคอยหลบมือของฝานอวี้ เขาเอายันต์วิเศษออกมาจากถุงเฉียนคุน พู่กันพิพากษาวาดเส้นแนวนอนและตั้ง “ตรึง”

แสงขาวพุ่งออกมาจากยันต์วิเศษ และครอบฝานอวี้เอาไว้ ร่างของฝานอวี้ขยับไม่ได้

หนานเหอฉวยโอกาสนี่กระโดดไปที่เหนือหัวของฝานอวี้ มือทั้งสองประสานกัน แสงขาวลอดออกมาจากช่องระหว่างนิ้วกลายเป็นโซ่ตรวนค่อยๆ ดึงปิ่นออก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel