องครักษ์ลับกับบุปผาซ่อนพิษ

118.0K · จบแล้ว
ชาไทยเย็น
59
บท
9.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

อีกคนซ่อนพิษ อีกคนซ่อนความลับ จากคอยปกป้องกลายเป็นหวง จากหวงกลายเป็นอยากครอบครอง เมื่อนางเลือกจะแก้แค้นเขาก็พร้อมจะเคียงข้าง "อยู่ดีไม่ว่าดีเรียกข้ามาวางยาพิษถึงที่ ร้ายมาร้ายกลับสามเท่าไม่โกง" "หลางเย่หลิน" บุตรีเสนาบดีที่ไม่ต้องการเกี่ยวข้องกับบิดา นางอยู่บนเขาฉีซางดี ๆ แต่มีราชโองการเพื่อให้เข้าร่วมพิธีหาคู่ขององค์ชายทั้ง 10 ใน "ต้าเซี่ย" นางจึงต้องลงเขา ใครจะคิดว่าลงได้แค่ตีนเขาก็ถูกลอบโจมตีจนพบกับเขา.... "โม่จางหยวน" องครักษ์ลึกลับที่รับคำสั่งจากอาจารย์ของนาง "แม่ชีอี้ซิน" ให้มาปกป้องนางจนถึงเมืองหลวง "หลางเสี่ยวหง" และ "จางเยี่ยน" สองแม่ลูกที่ส่งคนตามฆ่าเพื่อมิให้หลางเย่หลินได้มาถึงเมืองหลวง นางไม่ต้องการให้มีคนมาแย่งตำแหน่ง "พระชายาองค์รัชทายาท" แต่เมื่อมาถึงเมืองหลวงและพบกับบิดา "หลางฮุ่ย" เสนาบดีของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันซึ่งนางมาที่นี่ จุดประสงค์เดียวคือ "ตัดขาดกับสกุลหลางโดยเด็ดขาด" แต่ในเมื่อทำไม่สำเร็จ "หลางเย่หลิน" รอดมาได้จนถึงเมืองหลวง โดยมี "โม่จางหยวน" คอยปกป้อง "พวกเจ้าก็ระวังตัวให้ดี ๆ การแก้แค้นกำลังจะเริ่มต้น ณ บัดนี้" นิยายเรื่องนี้เป็นแนวรักโรแมนติกไม่เน้นดราม่า ไม่เน้นปมมากมายนะคะ หลัก ๆ เน้นเรื่องราวของนางเอกที่จะกลับมาแก้แค้นและตัดขาดสกุลเดิมของบิดา แต่ปัญหาก็เริ่มพัวพันเพราะนางดันไปต้องตาต้องใจ "องค์รัชทายาทแห่งต้าเซี่ย" ที่มีฉายา "เทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง" อีกคนตำแหน่งสูงส่ง เป็นองค์ชายรัชทายาทแห่งแคว้น..... อีกคนก็องครักษ์ลับส่วนตัวที่ร่วมต่อสู้ร่วมกันมาตั้งแต่ลงจากเขา...... นางจะเลือกใคร........ ** เรื่องราวในนิยาย ทั้งชื่อคน สถานที่ไม่มีอยุ่จริงในประวัติศาสตร์ เป็นจินตนาการของนักเขียนล้วนๆ นะคะ โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพงานน๊าา นิยายมีเนื้อหาใช้คำพูดและวาจาไม่ค่อยสุภาพ มีบรรยายฉากความรุนแรง การใช้ความรุนแรงแฝงบ้างเป็นบางบท มีการบรรยายฉากอีโรติกละเอียด ไม่เหมาะสำหรับสายหวานหรือเยาวชนนะคะ

นิยายจีนโบราณแม่ทัพท่านอ๋องนางเอกเก่งจีนโบราณโรแมนติกพระเอกเก่งหลายตัวตนนิยายย้อนยุคฟินๆ

ตอนที่ 1 องครักษ์ลับ

เขาฉีซาง แคว้นต้าเซี่ย

“คุณหนูเจ้าคะ อีกนานกว่าจะถึงในเมือง กินอะไรรองท้องเสียหน่อยเถอะเจ้าค่ะ”

“เจ้ากินเถอะจี้ถง หนทางข้างหน้ายังยากคาดเดา เราจะประมาทไม่ได้โดยเด็ดขาด”

“คุณหนูคิดว่า…จะมีอะไรเกิดขึ้นหรือเจ้าคะ”

“ตั้งแต่ส่งตัวข้ามาอยู่อารามจวินซวนบนเขาร่วมห้าปี จู่ ๆ ท่านพ่อผู้สูงส่งกลับให้คนมาตามข้าลงจากเขา เจ้าคิดว่าจะมีเรื่องดีงั้นหรือ”

“บ่าว…บ่าวไม่ทราบเจ้าค่ะแต่ว่าคุณหนู..”

“ชู่ว….เงียบ ๆ ข้าได้ยินเสียงอื่นนอกจากล้อรถม้า”

สาวใช้เริ่มกำดาบในมือแน่น คุณหนูรองสกุลหลาง “หลางเย่หลิน” ที่ค่อย ๆ ขยับไปที่ด้านหน้าตรงประตูคนขับเพื่อส่งสัญญาณบางอย่างให้คนด้านนอก

“หย่าหลี เจ้ารีบไปตรวจดูรอบ ๆ นี้ไม่เกินห้าลี้ ข้าคิดว่าเราไม่ปลอดภัย”

“คุณหนู ดูแลตัวเองด้วย”

“อืม ข้าจะรอเจ้าที่ปากทางแยกเข้าเมืองข้างหน้า”

“เจ้าค่ะ”

นางหันกลับมามองหน้าสาวใช้อีกคนในรถม้า พร้อมกับพยักหน้าให้กันตามสัญญาณไม่นานรถม้าก็ถูกล้อมเอาไว้และถูกโจมตีทันที

“คันนี้แหละไม่ผิดแน่ ฆ่าให้หมด!!”

“คุณหนูระวัง!!”

“จี้ถงเจ้าก้มหลบไป!!”

“หลางเย่หลิน” กำบางอย่างอยู่ในมือก่อนจะหลับตาลงและปล่อยบางอย่างพุ่งออกจากรถม้า สาวใช้ข้างกายปิดจมูกเอาไว้พร้อมกับเปิดหน้าต่างรถม้าให้นางอย่างรู้งานดอกไม้พิษถูกโยนออกจากรถม้าและพุ่งละอองออกไปถูกคนร้ายทั้งเจ็ดคน พวกมันถูกละอองพิษนั้นเข้าและเริ่มลงไปดิ้นอยู่ที่พื้นเพราะความแสบร้อน

“ขับต่อไปเร็วเข้า!!”

“ขอรับคุณหนูรอง!!”

คนขับรถม้าของสกุลหลางรีบคุมบังเหียนรถม้าเพื่อเร่งออกจากที่ตรงนั้นโดยเร็วจนออกมาห่างสักระยะหนึ่งรถม้าจึงหยุดลง หลางเย่หลินและสาวใช้จึงรีบเดินออกมา

“รีบกินยาแก้พิษนี่ก่อน พวกเจ้าด้วย”

“ขอบคุณขอรับคุณหนู”

“อย่าลืมว่าเรื่องในวันนี้....”

“พวกข้าน้อยรับรองว่าจะไม่พูดขอรับ คุณหนูไม่ต้องห่วงคุณชายใหญ่เป็นเจ้าชีวิตของข้า ข้าไม่มีทางหักหลังคุณชาย”

“ขอบใจเจ้ามาก”

“มิได้ขอรับ แต่ว่าคุณหนู เราต้องรีบออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุดก่อนที่….อึก!!”

ลูกศรพิษพุ่งมายิงถูกคนขับรถม้าทั้งสองของนาง ตาเขาเบิกค้างและล้มลง คนร้ายที่เหลือเริ่มล้อมนางไว้แต่จำนวนพวกมันน้อยกว่าเมื่อครู่แล้ว

“ดูท่าแล้วคงมีคนที่ไม่อยากให้ข้ากลับสกุลหลางอย่างปลอดภัยสินะ”

“คุณหนูระวังนะเจ้าคะ”

“จี้ถงเจ้าถอยไป”

“ไม่เจ้าค่ะ”

“ข้าบอกให้ถอยไป ข้าจะคุยกับพวกมันเอง”

สตรีในชุดสีเขียวอ่อนเดินออกมาโดยมิได้เกรงกลัวต่อคนร้ายในชุดสีดำ สายตาที่เยือกเย็นนั้นมองไปที่แววตาของพวกมันอย่างไม่นึกเกรงกลัวต่ออันตรายข้างหน้า นางสวมผ้าปกปิดใบหน้า พวกมันจึงเห็นเพียงแค่ดวงตาเท่านั้น

“เจ้าคือหลางเย่หลิน พวกข้ารับคำสั่ง…”

“ของผู้ใดกันนะ ฮูหยินใหญ่ในเรือนหรือว่าน้องสาวต่างมารดาที่แสนดีของข้า”

“เจ้าไม่มีสิทธิ์ถาม”

“หึ ข้าจะตายอยู่แล้วเหตุใดแค่อยากทราบนามของผู้ที่ต้องการชีวิตของข้า ก็ไม่ได้งั้นหรือ แย่จริง ดูเหมือนว่าหากว่าข้ายังไม่รู้….ข้าก็ตายไม่ได้”

“ระวัง!! นางจะใช้พิษ!!”

“พิษผงบุปผา” ที่นางเก็บเอาไว้ถูกโปรยใส่ดวงตาของคนร้ายจนมันล้มลง พิษเริ่มกัดกินใบหน้าและเสื้อผ้าของคนร้ายจนเริ่มล้มลงพร้อมกับเสียงร้องโหยหวนตรงหน้า คนร้ายที่เหลือจะพุ่งเข้ามานางจึงรีบตะโกนขู่เอาไว้

“อย่าเข้ามานะ!! หากว่าพวกเจ้ายังคิดจะมีชีวิตอยู่ก็อย่าได้คิดจะก้าวเข้ามาแม้แต่ก้าวเดียว”

สายตานางยังคงนิ่งเมื่อมองคนที่เหลือ พิษที่นางมีบัดนี้เหลือให้ใช้อีกแค่ครั้งเดียวแต่นางจะให้พวกมันรู้ไม่ได้

“คุณหนูรองหลาง ข้าว่าพวกเรามาคุยตกลงกันแต่โดยดีเถอะ ข้าไม่ได้ต้องการชีวิตเจ้าแต่คนที่ว่าจ้างต้องการแค่ทำลายรูปโฉมเจ้าเท่านั้น”

“ทำลายรูปโฉมข้างั้นหรือ….เพราะเหตุใดกัน”

“หึ ข้าจะไปรู้กับพวกเขางั้นหรือ ความคิดของพวกชนชั้นสูงมีหรือข้าจะคาดเดาได้ ไม่อิจฉาริษยากันเองก็คงเพราะต้องการทำเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง”

“เช่นนั้นก็เดาได้ไม่ยาก ผู้ที่ส่งพวกเจ้ามาคงไม่พ้นหลางเสี่ยวหง”

พวกมันสะดุดไปนิดหน่อยเมื่อนางพูดชื่อนี้ออกมา เป็นอันว่า “หลางเสี่ยวหง” น้องสาวต่างมารดาของนางเป็นผู้บงการเรื่องนี้จริง ๆ แต่เหตุใดต้องส่งให้คนมาทำลายใบหน้านางด้วย

“น่าเสียดาย เดิมทีข้าคิดจะไว้ชีวิตเจ้า แต่เมื่อเจ้ารู้ความลับแล้ว คุณหนูรองขอโทษด้วยที่เก็บเจ้าเอาไว้ไม่ได้”

หลางเย่หลินค่อย ๆ ถอยกรูดและวิ่งหนีเข้าไปในป่า คนร้ายที่เหลือที่ตามนางไป สาวใช้นางกำลังสู้อยู่กับคนร้ายอีกสองคนตามหลังเมื่อนางวิ่งเข้าไปในป่าอีกครั้งและกระจายพิษชุดสุดท้ายออกไป นางกำจัดได้เพียงสองคนเท่านั้น ยังเหลืออีกคนหนึ่งที่ตามนางมา นั่นคือคนที่คุยกับนาง

“เสียใจด้วยนะคุณหนูรองอย่าโทษข้าเลยที่ต้องทำเช่นนี้”

ปลายดาบพุ่งเข้ามาที่ตรงหน้านาง แสงสะท้อนกับตะวันในยามบ่ายของต้าเซี่ยเป็นสิ่งสุดท้ายที่นางทันเห็นและเสียงกระทบกันของดาบอีกด้ามก็ดังขึ้นแต่นางยังไม่ทันได้ลืมตา

“คุณหนู ท่านปลอดภัยหรือไม่”

“หย่าหลี!! เจ้าปัดดาบนั่นออกหรือ"

“ไม่ใช่ข้าเจ้าค่ะ แต่เป็นเขา!!”

หย่าลี่หันไปมององครักษ์ในชุดสีดำสามคนที่สู้กับคนที่เหลือ จี้ถงวิ่งมาสมทบกับพวกนางแล้ว นางไม่ได้บาดเจ็บเท่าไหร่

“คุณหนู โชคดีที่ท่านปลอดภัย พวกเขามาช่วยเราเอาไว้พอดี”

“พวกเขา…คือผู้ใดกัน”

ไม่นานนางก็ได้คำตอบเมื่อคนร้ายคนสุดท้ายถูกจับมัดและถูกพามาคุกเข่าตรงหน้านาง คนทั้งสามที่สวมชุดดำมีคนหนึ่งที่แต่งกายไม่เหมือนอีกสองคน เขาน่าจะเป็นหัวหน้าของคนทั้งสอง หลางเย่หลินมองใบหน้าของเขาที่สวมหน้ากากสีดำสนิทอยู่ครึ่งใบหน้าแต่ถึงเขาไม่ถอด เย่หลินก็คิดว่าเขาน่าจะเป็นบุรุษที่รูปงามมากทีเดียว

“คุณหนูรองหลาง เจ้าปลอดภัยดีใช่หรือไม่”

“พวกท่านคือ….”

“ข้า….ข้าคือองครักษ์ลับที่แม่ชีอี้ซินสั่งให้มาปกป้องคุ้มครองเจ้านับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป”

“อาจารย์งั้นหรือ แต่ว่าไม่เห็นนางจะบอกข้าก่อนหน้านี้”

บุรุษหนุ่มร่างกายกำยำดูองอาจเดินเข้ามาใกล้ ๆ นางพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ สายตาที่นิ่งดุจน้ำแข็งของหลางเย่หลินสั่นไหวไปเล็กน้อยเมื่อถูกเขาจ้องมองเข้ามา

“คุณหนู มิเช่นนั้นจะเรียกว่าองครักษ์ลับได้งั้นหรือ….พิษผงบุปผาของท่านน่าจะหมดแล้วสินะ กายเจ้าไม่มีกลิ่นถุงพิษแล้ว รีบออกจากที่นี่ดีกว่า”

“เดี๋ยวก่อน”

หลางเย่หลินรู้สึกหูอื้อตาลายไปพักหนึ่งกว่าจะตั้งสติกับหัวใจที่เต้นกระตุกรุนแรงนี้ นางไม่เคยคุยกับบุรุษหนุ่มใดในระยะใกล้ ๆ เช่นนี้มาก่อน แต่เขา….กลับทำให้นางรู้สึกราวกับถูก “พิษดอกไป๋ลี่” (พิษที่นางผสมขึ้นทำให้วิงเวียนมึนเมาไปชั่วขณะ)

“คุณหนู ท่านมีสิ่งใดจะกล่าวอีกงั้นหรือ”

“พวกท่านบอกว่า…พวกท่านคือองครักษ์ลับ เช่นนั้นก็จะปรากฏตัวเช่นนี้ได้งั้นหรือ”

“แน่นอนว่าไม่ได้ ข้าจะให้….เป่ากง เจ้าไปขับรถม้าให้ที พวกเราจะส่งคุณหนูรองไปสกุลหลาง”

“หา….”

องครักษ์ผู้นั้นหันมามองหน้าองครักษ์คู่หูอีกคนที่ยืนนิ่งอยู่พร้อมกับพยักพเยิดให้เขาไปที่รถม้าตามคำสั่ง

“เหตุใดกลายมาเป็นองครักษ์กับคนขับรถม้าไปได้เล่า” / เป่ากง

“หรือเจ้าอยากให้คุณชายสั่งไปเก็บขี้ม้าที่สกุลหลาง” / กังลี่ (องครักษ์คู่หู)

“เจ้า!!…ฝากไว้ก่อนเถอะ”