บทที่ 8 กอด จูบ ลูบ คลำ [NC25+]
เสียงประตูรถสปอร์ตปิดลงเบาๆ พร้อมกับร่างบางที่ยังคงหลับพริ้ม ไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าเธอไม่ได้อยู่ในเพลินจิตตามที่ตั้งใจ เขาเอื้อมมือไปแตะไหล่เธอเบา ๆ
“คุณ…ถึงแล้วครับ” ไม่มีเสียงตอบรับ นอกจากลมหายใจสม่ำเสมอที่แผ่วเบาอยู่ข้างหู เขาชะงักไปเล็กน้อย มุมปากเขาเผยรอยยิ้มบาง ๆ อย่างเข้าใจในสถานการณ์ ก่อนจะก้าวออกจากรถ เดินอ้อมไปอีกฝั่ง แล้วค่อยๆ เปิดประตู
อ้อมแขนแข็งแรงก้มลงช้อนตัวเธอขึ้นมาอย่างนุ่มนวล ราวกับกลัวจะปลุกเจ้าหญิงจากนิทรา น้ำผึ้ง ซุกใบหน้าลงกับแผ่นอกอุ่น ๆ ของเขาโดยไม่รู้ตัว กลิ่นกายหอมจางๆ ของเธอผสมกับกลิ่นแอลกอฮอล์บางๆ ลอยแตะปลายจมูกเขาอย่างซุกซน
คฤหาสน์เบื้องหน้าทอดยาวราวป้อมปราการเงียบงัน บานประตูไม้โอ๊คสูงเกือบสี่เมตรเปิดออก โดยไม่ต้องผลัก…บัตเลอร์ชราในชุดทักซิโด้สีดำโค้งศีรษะให้เขาโดยไม่เอ่ยถาม
“นายท่าน ห้องรับรองพร้อมแล้วครับ” พ่อบ้านเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“ห้องรับรอง ชั้นสอง” เขาสั่งเสียงต่ำ และก้าวขึ้นบันไดหินอ่อนที่แวววาวราวกับเปียโนเคลือบเงา แชนเดอเลียร์เหนือศีรษะสะท้อนเงาสีอำพันร่วงลงบนใบหน้าหวานของเธอ เธอขยับตัวเล็กน้อยในอ้อมแขน แผ่นอกเขากระเพื่อมเล็กน้อยจากลมหายใจหนัก ๆ ที่เริ่มจะควบคุมไม่ได้
บอดี้การ์ดที่อยู่หน้าห้องของเขา ผลักประตูไม้เข้าไปห้องรับรองชั้นสอง ภายในตกแต่งด้วยโทนไวน์แดงและทอง พรมหนานุ่มปูพื้น ผนังบุผ้ากำมะหยี่ เตาผิงจำลองจุดไฟส่องแสงสลัวอยู่ที่มุมห้อง โต๊ะกลมมีแจกันดอกกุหลาบสีเข้มตั้งอยู่ไม่ใช่บังเอิญ แต่เขาเลือกไว้
เขาวางร่างของเธอลงเบาๆ บนโซฟากำมะหยี่สีแดงเลือดหมู แสงจากเตาผิงไล้ผิวแก้มเธอให้ดูอ่อนหวานน่าหลงใหลยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหนที่เขาเคยเจอ
เขาโน้มตัวลง…เกือบจะใกล้ริมฝีปากเธอ
แต่ทว่าหยุดไว้แค่นั้น เขาไม่ใช่คนใจร้อน และนี่ไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาจะล้อเล่นด้วย ทั้งที่เขาไม่เคยที่รู้สึกแบบนี้มาก่อน ถ้าเป็นแต่ก่อน เธอคงไม่ได้นอนนิ่งๆ แบบนี้
เธอคงโดนเขาจับตอกไปแล้ว โดยไม่ร้อนใจแบบนี้
เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกช้าๆ ละอองไอน้ำอุ่นบางเบา ลอยออกมาจากภายในห้องน้ำ สะท้อนแสงสลัวจากเตาผิงและโคมไฟหัวเตียงให้พร่าเลือน
เขาเดินออกมาช้าๆ หยาดน้ำยังเกาะพราวอยู่ตามเส้นผมสีเข้มที่เปียกชื้น ละอองน้ำไหลช้าๆ จากแนวกราม สู่ไหล่กว้าง ลำตัวแน่นตึงที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแข็งแรงและสมส่วน ผิวกายเขาเป็นสีแทนดูอบอุ่น…แต่ในแววตานั้น กลับคล้ายมีไฟบางอย่างที่เย็นยะเยือกอย่างประหลาด
เขาเปลือยเปล่าที่สมบูรณ์แบบด้วยซิกแพคที่ออกกำลังกายอย่างหนักชวนให้หลงใหล
น้ำผึ้งค่อยๆ ลืมตาขึ้นในจังหวะนั้น สติยังพร่าเลือนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่ร่างกายของเธอกลับตอบสนองก่อนจิตใจจะทันตื่นเต็มที่ เธอมองเขา และไม่อาจละสายตาได้เลย
แสงสลัวของห้องขับเรือนร่างเขาให้ดูราวกับรูปสลักหินอ่อนจากเทพเจ้า ทุกสัดส่วนของเขาดูเหมือนถูกออกแบบมาเพื่อทดสอบหัวใจของผู้หญิงที่บังเอิญตื่นมาเห็น เธออดไม่ได้ที่จะลอบกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น กล้ามเนื้อช่วงท้องของเขาขยับเล็กน้อย ขณะเขาหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กขึ้นเช็ดผม หยาดน้ำบนผิวเขาสะท้อนแสงจนดูแทบจะเรืองรองหลังจากเขาเดินออกมาจากเรนชาวเวอร์แล้ว หัวใจของเธอเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว แรงดึงดูดบางอย่าง มันไม่ใช่แค่ทางกาย มันคืออารมณ์ ความลึกลับ และพลังอำนาจที่เขาแผ่ออกมาอย่างไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด
เขาก้าวเดินออกมาจากห้องน้ำสวมผ้าขนหนูปิดบังท่อนล่างไว้อย่างหลวมๆ เขาเดินมายังเตียงนอนอีกครั้ง เตียงนี้เขาไม่เคยให้ผู้หญิงคนไหนขึ้นมานอนแม้แต่ครั้งเดียว เธอเป็นผู้หญิงคนแรกและคนเดียวที่เขาอุ้มมานอนบนเตียงแห่งนี้ เวลาที่เขาจะมีเซ็กส์กับสาวๆ เขาจะเลือกห้องนอนรับแขกเพียงเท่านั้น
เขานอนลงบนเตียงกว้างทอดสายตามองเธอจากด้านหลัง
ความคิดหนึ่งมันแล่นขึ้นมาในหัวตอนนี้ มันคือความรู้สึก อยากจูบ อยากกอด อยากสัมผัส และที่สำคัญอยากมีเซ็กส์ แต่ทว่าทำไมรู้สึกอ่อนไหว ไม่กล้าที่จะเริ่มมีเซ็กส์กับเธอก่อน เขานอนหงายมองเพดานพยายามข่มตาลงเพื่อให้หลับ
แต่ทว่า…
เธอกลับลุกตะแคงข้างดันเขานอนลงใต้เรือนร่างของเขา สีหน้าของเขากลับไม่ดูแตกตื่นหรือตกใจแต่อย่างใด ใบหน้าของเขากลับมีรอยยิ้มกับการกระทำของเธอที่ดูอุกอาจ
“คุณทำให้ผมทึ่งนะเนี่ย ที่หลอกล่อผมให้จนมุมได้” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาจ้องใบหน้างดงามไร้ที่ติ แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง แต่ทว่าเธอยกริมฝีปากเล็กน้อยเหมือนแม่เสือสาวที่รอเวลาที่จะล่าในยามค่ำคืน
“ถ้าฉันอยากได้อะไรแล้ว สิ่งที่ฉันอยากได้ไม่เคยหลุดไปจากมือของฉัน” เธอเอ่ยบอกแล้วขึ้นคร่อมบนร่างหนาที่อุดมไปด้วยซิกแพค ทำให้กระโปรงเดรสที่เธอสวมใส่ล่นขึ้น เขามองไปยังขาที่ขาวเนียนละเอียดของเธอ
“แสดงว่าคุณไม่ได้หลับสินะ” เขาถามเธอด้วยรอยยิ้ม จ้องมองนัยน์ตาหวานฉ่ำราวกับน้ำผึ้งที่หอมหวาน
“จะเข้าถ้ำเสือมันก็ต้องใช้เล่ห์กลให้เสือตายใจ” เธอเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงกระเส่าเหมือนท้าทายเขา เขาโอบเธอลงมานอนข้างล่างในทันที มือเรียวของเธอปลดปมผ้าขนหนูที่เขาสวมใส่ออก
สายตาของเธอจ้องมองไปยังแกนกลางลำตัวที่ห่อหุ้มด้วยผ้าขนหนูเมื่อครู่ ทำให้เธอเบิกตากลมโต และลอบกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอย่างอยากเย็น
เธอไม่เคยเห็นของใครที่ใหญ่โตขนาดนี้มาก่อน นี่ไม่ใช่สี่สิบเก้าหรือห้าสิบสี่ แต่เป็นห้าสิบหกเลยทีเดียว และที่สำคัญมันยังไม่แข็งตัวด้วยซ้ำ
“เห็นของผมรู้สึกกลัวขึ้นมาเหรอ” เขาถามเธอด้วยรอยยิ้ม มองใบหน้าของเธอที่ดูตื่นกลัว และดูตกใจที่เห็นดุ้นของเขา
“เปล่าสักหน่อย แค่ไม่เคยเห็น” เธอบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แต่คำหลังเบาเสียงจนไม่ได้ยิน เขาเผยรอยยิ้มจ้องในตาของเธอ
“คืนนี้ผมจะทำให้คุณร้องครางจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างนอกจากผม” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระเส่าแผ่วเบากระเส่าเย้ายวน เขาจูบที่ขบกัดที่ซอกคอหนักๆ แล้วเต้านมบนร่มผ้า ไล่ลงมาที่หน้าท้องแบนราบ มือหนาถกกระโปรงเดรสของเธอขึ้น เห็นว่ากลีบร่องของเธอไร้ขนดกดำ เขาไม่รอช้าใช้ริมฝีปากเลียที่กลีบร่องของเธอ
“อื้อ…อ้า…อ้า…เยส…อ้า…โอ้ว…วู้ว…” เธอร้องครางกระเส่าด้วยความหวาดเสียวซ่าน เรียวขาของเธอมีมือเรียวประคองข้างหนึ่ง แต่เมื่อหนาของเขาจับเรียวขาของเธอถ่างออกให้ดูดเสียได้ถนัด “โอ้ว…เยส…เยส…อ๊าย…โอ้ว…อร๊าย…ซี๊ด…เยส…” เธอร้องครางกระเส่าด้วยความหวาดเสียว ขณะที่เขาดูดเลีย ขบกัด และดูดดื่มไม่หยุด อีกทั้งยังใช้ปากขยี้วนไม่พัก เธอเด้งกลีบร่องใส่ปากของเขาด้วยเช่นกันอย่างอดไม่ได้
“โอ้ว…โอ้ว…เยส…เยส…อื้อ…อ่า…อร๊าย…” เธอร้องครางกระเส่าด้วยความเสียวแบบที่ไม่เคยเสียวมาก่อนแบบนี้ แค่ลิ้นของเขามันก็ทำให้เธอแทบเสร็จอยู่แล้ว เธอยังสัมผัสถึงน้ำกามที่ไหลออกมาไม่หยุด เขานั้นดูดเลียและดูดดื่มราวกับเป็นน้ำอมฤตที่ล้ำค่า มันทำให้เขาหยุดดื่มไม่ได้เลย
