ความใส่ใจ
หลี่ซือเทียนเดินวนไปวนมาบนระเบียง ความคิดเกี่ยวกับหลิวรุ่ยหลันทำให้เขานอนไม่หลับ ยิ่งคิดถึงเธอ เขายิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ปกติ เขาไม่อยากเชื่อว่าผู้หญิงสาวที่ดูสมบูรณ์แบบอย่างเธอจะเลือกใช้ชีวิตอยู่ที่นี่โดยไม่มีเหตุผลบางอย่าง มันทำให้เขายิ่งอยากรู้ว่าเบื้องหลังของเธอคืออะไร ยิ่งคิดเกี่ยวกับแม่บ้านสาวสวยของเขาด้วยแล้ว...
ในมโนภาพของหลี่ซือเทียน ภาพผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏขึ้นมาเลือนๆ ทั้งที่เขาเคยคิดว่าเขารักผู้หญิงคนนั้นมาก “หวังเฉินหน่า” คือชื่อของหล่อน สาวไฮโซผู้เลอโฉม สดใสมีชีวิตชีวาจนเขาหลงรักแต่แรกพบเมื่อหกปีที่แล้ว
“หลิวรุ่ยหลัน” กับ “หวังเฉินหน่า” ช่างมีบางสิ่งบางอย่างคล้ายคลึงกันเหลือเกิน?
ชายหนุ่มหลับตาลง ภาพอดีตสาวคนรักหายไป แต่กลับปรากฏภาพของหญิงสาวอีกคนขึ้นมาแทน และดูจะกระจ่างชัด จะมีใครเสียอีก ถ้าไม่ใช่แม่บ้านสาวสวยของเขา หลิวรุ่ยหลัน...
วันหนึ่งหลิวรุ่ยหลันก็เริ่มรู้สึกตัวว่านายจ้างหนุ่มเจ้าของไร่อยู่ติดบ้านมากขึ้น และยังมีมากกว่านั้นคือ เขามักลอบมองเธอด้วยสายตาพิจารณายามที่คิดว่าเธอไม่รู้ตัว ซึ่งทำให้หญิงสาวอึดอัดและระมัดระวังตัวขึ้น เธอพยายามระมัดระวังในทุกการกระทำของเธอและพยายามไม่ให้เผลอทำอะไรแย่ๆ ออกไปโดยไม่รู้ตัว เธอรู้สึกถึงแรงกดดันที่เกิดขึ้นในแต่ละวันที่ผ่านไป
หลิวรุ่ยหลันเดินออกมาจากแปลงผักด้วยความเหนื่อยล้าเหงื่อที่ไหลซึมตามหน้าผากเป็นเครื่องยืนยันถึงความหนักหนาของงานในแต่ละวัน เธอคิดว่าคงจะได้พักแล้ว แต่ทันใดนั้น หลี่ซือเทียนก็ปรากฏตัวพร้อมอุปกรณ์ทำงานในมือ ใบหน้าของเขายังคงนิ่งเฉย แต่แววตาดูอ่อนลงเล็กน้อย
"มาช่วยเก็บพืชผลด้วยกันก่อน" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่มีความนุ่มนวลเจือปนอยู่เล็กน้อย โดยไม่ต้องรอคำตอบใดๆ เขาก็เดินเข้ามาร่วมทำงานกับเธอทันที
หลิวรุ่ยหลันรู้สึกประหลาดใจที่เห็นเขาลงมือช่วยเธอทำงานเองแบบนี้ เธอเคยเห็นเขาเป็นคนที่เคร่งขรึมและไม่ค่อยเปิดใจ แต่วันนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเริ่มลดความแข็งกระด้างลงมาเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ
บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยเสียงลมพัดและใบไม้ที่ปลิวตามลม แต่ความเงียบงั้นนี้กลับไม่ทำให้หลิวรุ่ยหลันรู้สึกอึดอัดอย่างที่เคย หลังจากที่ทำงานร่วมกันไปได้สักพัก หลี่ซือเทียนก็เริ่มพูดคุยเบาๆ เกี่ยวกับงานในไร่
"เธอทำได้ดีมากนะรุ่ยหลัน ดูเหมือนจะคล่องขึ้นเรื่อยๆ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายกว่าเดิม
หลิวรุ่ยหลันหัวเราะเบาๆ "ฉันก็แค่พยายามที่จะไม่ทำให้คุณผิดหวังค่ะ" เธอพูดอย่างถ่อมตัว แต่ในใจเธอกลับรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา เธอเริ่มรู้สึกว่าเขาไม่ได้มองเธอเพียงแค่แม่บ้านคนหนึ่งอีกต่อไป
หลิวรุ่ยหลันรู้สึกอ่อนเพลียจากการทำงานหนักตลอดทั้งสัปดาห์ ร่างกายเริ่มส่งสัญญาณว่าไม่ไหวแล้ว แต่เธอยังคงพยายามฝืนทำงานต่อไป
จนกระทั่งในเย็นวันหนึ่ง เธอเริ่มรู้สึกหนาวและปวดหัวอย่างรุนแรง หลี่ซือเทียนเดินเข้ามาหาเธอทันที เมื่อเห็นสีหน้าที่ซีดเซียวของเธอ เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่แฝงด้วยความอ่อนโยน
"รุ่ยหลันดูไม่ค่อยดีเลยนะ ผมว่าคุณควรพักผ่อนบ้าง" หลิวรุ่ยหลันพยายามฝืนยิ้ม แม้ในใจรู้ดีว่าร่างกายของเธอกำลังประท้วงอย่างหนัก เธอไม่อยากให้เขารู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอ
"ฉันยังไหวค่ะ" เธอตอบไปเพียงเพื่อไม่ให้ตัวเองดูอ่อนแอ แต่ในใจกลับรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แฝงอยู่ในคำพูดของเขา หลี่ซือเทียนเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมาตรงๆ แต่วันนี้แววตาของเขาบอกได้ชัดเจนว่าเขาห่วงใยเธอมากแค่ไหน
"ไม่ต้องฝืนนะรุ่ยหลัน วันหลังถ้าคุณรู้สึกเหนื่อย คุณสามารถบอกกับผมได้ นอนพักนะ เดี๋ยวผมจะต้มน้ำขิงให้คุณ"
คำพูดของเขาทำให้หลิวรุ่ยหลันหยุดชะงัก เธอไม่คิดเลยว่าหลี่ซือเทียนจะใส่ใจเธอถึงขนาดนี้
การที่เขาอาสาดูแลเธออย่างเต็มใจ ทำให้หัวใจของเธออ่อนละมุนลงอย่างที่เธอเองก็ไม่ทันรู้ตัว
เมื่อเขาหายไปที่ครัว หลิวรุ่ยหลันมองตามหลังเขา ความรู้สึกบางอย่างเริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจเธอ ความเย็นชาที่เธอเคยเห็นในตัวเขาเมื่อแรกเจอกลับเริ่มละลายไป กลายเป็นความอบอุ่นที่ไม่เคยคาดคิด
เมื่อซือเทียนกลับมาพร้อมถ้วยน้ำขิงอุ่นๆ ในมือ เขาวางมันลงเบาๆ ข้างเตียงเธอ "ดื่มเถอะ น้ำขิงนี้จะช่วยให้อาการของคุณดีขึ้น" เสียงของเขานุ่มนวลกว่าที่เคย
หัวใจของหลิวรุ่ยหลันนั้นเต้นแรงโดยไม่รู้ตัว ขณะที่เธอยกถ้วยน้ำขิงขึ้นจิบ
"ขอบคุณนะคะ คุณดูแลคนป่วยเก่งกว่าที่ฉันคิดไว้เสียอีก" เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่เริ่มกลับมาบนใบหน้า
หลี่ซือเทียนเพียงตอบเบาๆ "มันก็ไม่ยากหรอก...เมื่อเป็นคนที่เราใส่ใจ" คำพูดของเขาทำให้หลิวรุ่ยหลันรู้สึกเหมือนหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ คำว่า "ใส่ใจ" ที่ออกมาจากปากของเขา