7 กระแทกกับพี่จอนในไร่ข้าวโพด
หอมด่วนยังคงส่งกลิ่นหอมฟุ้งให้ผู้ชายเข้ามาหาไม่ขาด เธอก็อ่อยเรี่ยราดไปเรื่อย เพื่อให้ได้เงิน และรู้ว่าจะทำอย่างไรกับผู้ชายคนไหนบ้าง ถ้าหากว่าพวกเขารุกมา เธอก็ถอยแล้วอ่อยต่อแบบให้ความหวัง
การถูกเนื้อต้องตัวก็มีบ้าง แต่ไม่มากจนเกินไป แค่เพียงหอมปากหอมคอเท่านั้น ไม่ให้เกินเลยมากไปกว่านี้ เพราะร่องสวาทของเธอสงวนไว้กับผู้ชายที่ต้องการให้มีเซ็กซ์เท่านั้น ส่วนผู้ชายที่เปย์หอมด่วนจะเก็บเอาไว้เพื่อสร้างความสุขสบายให้แก่ชีวิต
“วันนี้ไปกินส้มตำที่บ้านฉันนะ มีไก่ย่างโอ่งสูตรพิเศษด้วย”
ต้อยเพื่อนที่เคยเรียนชั้นประถมด้วยกันชวนหอมด่วนให้ไปกินส้มตำกับไก่ย่างโอ่ง แน่นอนว่าจะต้องเป็นสูตรเด็ด ไม่อย่างนั้นเพื่อนคงไม่ชวนให้ไปกิน หอมด่วนก็เปรี้ยวปากอยากกินอะไรที่แซบ ๆ
“ใครทำไก่ย่างล่ะ”
“พี่จอน ญาติของเราเอง พี่จอน เขาได้สูตรมาจากแม่ก็ลองทำให้เรากิน เห็นว่าอร่อยก็เลยอยากจะให้เพื่อนได้กินบ้าง”
“ได้เลยต้อย เดี๋ยวเราไปกิน เราจะซื้อปลาดุกย่างไปแจมด้วย”
หลังจากนัดแนะเพื่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หอมด่วนจึงอาบน้ำ แต่งตัว แล้วซื้อปลาดุกเพื่อไปกินที่บ้านต้อย ซึ่งอยู่ห่างออกไป และรอบ ๆ บ้านของต้อยเป็นไร่ข้าวโพด ซึ่งสูงท่วมหัว ขณะนี้กำลังเป็นฟัก จวนแก่
เมื่อไปถึงบ้านต้อย พ่อแม่เธอไม่อยู่ มีแต่ต้อยกำลังตำส้มตำและย่างไก่ในโอ่ง พลางส่งเสียงร้องเพลงอย่างมีความสุข
“ต้อย ฉันมาแล้ว นี่ไง ปลาดุก 3 ตัว มีน้ำจิ้มด้วยนะ”
“เออ เอามาใส่จาน นี่ไก่สุกแล้ว เอาไปสับบนเขียง แล้วใส่จาน เราตำส้มตำเสร็จแล้ว ข้าวเหนียวก็นึ่งแล้ว รับรองวันนี้อร่อย”
ต้อยพูดพลางตักส้มตำใส่จาน นำมาวางบนแคร่ กลิ่นหอมยั่วน้ำลายเสียจนหอมด่วนกลืนน้ำลายดังเอื้อก
“เป็นตาแซบ น้ำลายสอออกมาเลย”
“เออ แซบแน่ ๆ พริกเกือบสิบเม็ด กินกันในติ่งสั่นไปเลย เธอสับไก่เสร็จแล้วก็เอามากินเลย ส่วนน้ำก็อยู่ในกระติก โอย อร่อย ไก่กำลังหอม ๆ เลย แหม กัดเนื้อแต่ละทีมันออกมาในปาก อร่อย”
ต้อยกินไก่ย่างด้วยความเอร็ดอร่อย หอมด่วนจึงกินตาม และตักส้มตำรสเด็ดกิน ความแซบและเผ็ดร้อน ทำเอาร้อนไปทั้งปาก
“อืม แซบหลาย แล้วนี่พี่จอนญาติเธอไปไหนล่ะ”
“อ๋อ พี่จอนเขายังอยู่ในไร่ เห็นว่ากำลังพักผ่อน พี่จอน กินและนอนที่กระท่อมนั่นแหละ”
“เหรอ แต่น่าจะกินด้วยกันนะ ถ้าไก่เย็นมันจะไม่อร่อย”
“เออ ถ้าอย่างนั้นเธอช่วยไปตามพี่จอนให้หน่อย ฉันว่าจะทำแกงอ่อมเพิ่มสักอย่าง แกงอ่อมปลาดุกนั่นแหละ”
ต้อยจับปลาดุกย่างมาสับใส่จาน แล้วหันไปจัดการเครื่องปรุงกับผักหลากชนิดที่อยู่ในถาด หอมด่วนจึงลุกขึ้น เตรียมไปตามผู้ชายชื่อจอน ซึ่งเธอไม่เคยเห็นหน้าคร่าตามาก่อน
วันนี้ลมพัดแรง จนใบไม้ปลิวกระจาย หอมด่วนต้องยกมือป้องดวงตามาตลอดทาง กระทั่งถึงกระท่อมกลางไร่ เธอเมียง ๆ มอง ๆ หาจอน ญาติของต้อย แต่ไม่เจอ
“เอ พี่จอนอยู่ที่ไหนนะ”
หอมด่วนด้อม ๆ มอง ๆ หาจอนด้วยความมุ่งมั่นจะชวนไปกินส้มตำรสแซบด้วยกัน รอบ ๆ กระท่อมมีแต่ต้นข้าวโพดกับต้นไม้น้อยใหญ่
เธอจึงมองไปที่กระท่อม ฝาเป็นปีกไม้ตีแปะเอาไว้ จึงมีร่องซึ่งเป็นช่องว่างระหว่างแผ่นกระดาน สามารถมองเข้าไปในกระท่อมได้เป็นอย่างดี
หอมด่วนจึงแนบดวงตากลมโตเข้าไป และเห็นผู้ชายคนหนึ่งสวมแค่เพียงผ้าขาวม้าผืนเดียว นอนอยู่บนเสื่อ และที่ทำให้หญิงสาวตาลุกก็คือ ลมพัดชายผ้าขาวม้าเลิกขึ้น ถ้าหากว่าผ้าเลิกเฉย ๆ ก็คงไม่ทำให้หอมด่วนตื่นเต้นขนาดนี้
แต่นี่มันมีความโอฬารของสากที่ซ่อนอยู่ ! ทำเอาหอมด่วนร้อนฉ่าไปทั้งตัว
ทันทีที่ผ้าขาวม้าถูกลมพัดเลิกขึ้น หอมด่วนเห็นสากใหญ่ แม้ว่าไม่แข็งตัว แต่ความใหญ่ของมัน ทำให้เธอตื่นเต้นจนตรึงเท้าอยู่กับที่ และใจเต้นแรง
“โอ้โห ! พี่จอนหรือนี่ หน้าตาหล่อใช้ได้ แล้วสากเขานั่น น่าขย่มชะมัดเลย เอาไงดี เรียกเขาไหม เรียกเลย ในเมื่อเราเลือกแล้วก็ต้องเดินหน้าให้เต็มที่ พี่จอน พี่จอน”
หญิงสาวตัดสินใจเรียกชื่อจอนแล้วก้าวขึ้นไปบนกระท่อม และยืนตรงปลายเท้า สายตาจับจ้องอยู่ที่สากของเขา มันน่าจัดชะมัดเลย
เสียงเรียกของเธอทำให้จอนสะดุ้ง เมื่อลืมตาขึ้นเห็นสาวสวยหุ่นอวบขาว สวมเสื้อคอกระเช้ากับผ้าถุงแบบโสร่งสีสดถึงกับตกใจ
“ห๊า ! ใคร ใคร เธอเป็นใคร”
จอนมัวแต่ตกใจ โดยลืมที่จะเอามือปิดผ้าขาวม้าที่เลิกขึ้นสูง หอมด่วนจึงจ้องตรงหว่างขาเขาด้วยสายตาจับจ้อง จนจอนก้มมองตาม เขาตกใจสุดขีด เมื่อเห็นสากโผล่ออกมาอวดสาวสวย
“เฮ้ย ! ผ้าขาวม้าเลิกได้ยังไง เธอ เธอเลิกผ้าผมขึ้นรึ”
จอนกล่าวหาหอมด่วน หาว่าเลิกผ้าขาวขึ้น แต่เธอส่ายหน้าไปมา
“บ้าเหรอ ใครจะกล้าเลิกผ้าขาวม้าเพื่อดูสากของผู้ชาย ฉันขึ้นมาบนกระท่อมก็เห็นมันเป็นอย่างนี้อยู่ก่อนแล้ว”
หอมด่วนเสียงดังอย่างไม่พอใจ ผู้ชายคนนั้นรีบลุกขึ้นนั่งแล้วดึงผ้าขาวม้าปิดสากของตัวเองเอาไว้
“งั้น ผมขอโทษก็แล้วกัน ว่าแต่เธอเป็นใคร แล้วรู้จักชื่อผมได้ไง”
“ฉันชื่อหอมด่วน เป็นเพื่อนต้อย ต้อยให้มาเรียกพี่ไปกินส้มตำกับไก่ย่าง หอมด่วนเรียกตั้งนานก็ไม่ตื่นสักที ฉันก็เลยขึ้นมาดูบนนี้แหละแล้วก็เห็นไอ้สากนี้”
“น่าอายจริง ๆ อ้าว เธอ.....”
ชายหนุ่มร้องเสียงหลง เมื่อหอมด่วนเสียหลักแล้วล้มลงทับตัวเขา จนเขาต้องลงไปนอนบนเสื่ออีกครั้ง และหอมด่วนคร่อมทับบนตัวเขา แบบพังพาบ ปากเธอประกบจูบกับปากเขาอย่างพอดิบพอดี
“อุ๊ย ! พี่จอน หอมด่วน หอมด่วนขอโทษจ้า”
เธอพูดจบบดขยี้ปากจอนเบา ๆ ซึ่งเขาสัมผัสกับความอวบเขาและแน่นตึงของเนื้อตัวเต็ม ๆ จึงจูบปากแบบบดขยี้แล้วกอดรัด พร้อมกับขยำเรือนร่างอย่างเน้น ๆ จนหญิงสาวร้อนผ่าวไปทั้งตัว บัดนี้ความต้องการของสองหนุ่มสาวเต็มที่แล้ว
เขาทั้งสองมีความต้องการทางกามารมณ์โดยที่ไม่มีความรักมาก่อน แต่สามารถที่จะมีเซ็กซ์กันได้ แค่เพียงทำตามความต้องการของหัวใจเท่านั้น
“อา หอมด่วน ผม ผม มะ ไม่ไหวแล้ว ขอเถอะนะ”
จอนพูดเสียงตะกุกตะกัก ซึ่งหอมด่วนก็ขยับเนื้อตัวไปมาบนตัวเขา เน้นขยี้เนินสวาทให้บดลงบนสากเขาอย่างเน้น ๆ
“อา พี่จอนจ๋า หอมด่วนอยากจ้ะ”