หัวใจตายของแอฟริกา (100%)
“แหม…คนอะไรดุเหมือนหมาเลยวุ้ย” เจ้าของเสียงกลั้วหัวเราะสัพยอกด้วยสีหน้าแต้มยิ้มยียวน ทำเอาสาวแสบต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับโทสะ
“หยุดพล่าม จากนั้นก็หันหลังแล้วเดินไปจากที่นี่ซะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน” อดีตนายทหารสาวใจเด็ดกดเสียงต่ำขับไล่ ตบท้ายด้วยการข่มขู่อย่างกลายๆ โดยมีเจ้าแรมโบ้แยกเขี้ยวช่วยนายสาวของมันอีกแรง เรียกรอยยิ้มให้ผุดขึ้นที่มุมปากเซ็กซี่ ทั้งคนและหมาร้ายพอกัน
“รู้ไหมคนสวย ว่าผู้หญิงแข็งกระด้าง ร้ายกาจ และดุเหมือนหมาอย่างคุณ มันน่าจับ ‘ปล้ำ’ ทำเมียชะมัด” แทนที่จะกริ่งเกรงกับวาจาข่มขู่เจ้าพ่อค้าอาวุธสงครามกลับลอยหน้ายอกย้อน เพราะนึกมันเขี้ยวแม่สาวห้าวจนร่ำๆ ว่าจะกระโจนเข้าปราบพยศคุณเธอด้วยกระบวนท่าลีลารักเร่าร้อนเสียเดี๋ยวนี้
“คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย!” พาฝันตะเบ็งเสียงก่นด่าอย่างเหลืออด คำประณามที่หลุดออกมาจากริมฝีปากน่าจูบส่งผลให้นัยน์ตาสีน้ำตาลทองพลันเข้มขึ้นทันควัน
“จะลอง ‘เมกเลิฟ’ กันดูไหมล่ะยาหยี จะได้รู้ว่าผมเนี่ยลูกผู้ชาย ‘ทั้งแท่ง’ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะว่าฐานบัญชาการรบของผมมันยิ่งกว่าหนึ่งร้อยกองพันทหารราบเสียอีก แถมมันยังพร้อมรบกับคนสวยเรียกเลือดอย่างคุณตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงซะด้วย แบบว่า…ครั้งเดียวคงไม่จบถ้าพี่ได้ ‘ยกซด’ น้องนาง” เจ้าของร่างสูงใหญ่ไหล่กว้างว่าพลางเดินย่างสามขุมเข้าหาด้วยมาดพญาราชสีห์ คราแรกนั้นเขาคิดว่าเธอจะลนลานถอยหลังกรูดแต่กลับผิดถนัดเพราะสาวเจ้าถือปืนยืนปักหลักรับมือด้วยท่าทางอวดดีจนน่าหมั่นไส้
“ปากหมา!” นอกจากจะไม่แสดงท่าทีหวาดหวั่นแล้วสาวแสบยังแผดเสียงตวาดลั่น ใบหน้าสวยหวานเคล้าเซ็กซี่แดงซ่านด้วยความกระดากอายระคนโมโหกับวาจาสุดห่ามที่อีกฝ่ายพ่นออกมา
“ปากดีแบบนี้มันน่าจับ ‘ฟัด’ ท่า ‘หมาๆ’ เสียให้เข็ด” เสียงห้าวเข่นเขี้ยว วินาทีถัดมาเจคอบก็เคลื่อนเข้าตบปืนให้กระเด็นจากมือเรียว หญิงสาวเบิกตากว้างและหลุดอุทานออกมา ทันใดนั้นเขาก็กระชากร่างเย้ายวนเข้าปะทะแผงอกกว้าง แล้วร้อยรัดเอวคอดกิ่วด้วยวงแขนแกร่งในชั่วพริบตา
“ก็ลองดูสิ ฉันจะตัดไอ้จ้อนคนหื่นกามอย่างคุณให้กลายเป็นขันทีไปเลย” คนตัวเล็กขู่ฟ่อพลางดิ้นรนฮึดฮัด นัยน์ตากลมโตดุวับ ขณะเริ่มหอบหายใจฟืดฟาดเพราะชักคุมสติไม่อยู่
“โหดๆ แบบนี้แหละผมชอบ” เจ้าของน้ำเสียงเซ็กซี่จงใจก้มลงมากระซิบชิดใบหูน้อย ลมหายใจผ่าวร้อนเจือด้วยกลิ่นบุหรี่จางๆ ส่งผลให้คนถูกกระทำถึงกับขนลุกเกรียวกราวตลอดร่าง แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือหัวใจดวงน้อยกำลังเต้นโครมครามอย่างมิอาจห้ามได้ วินาทีถัดมาร่างเพรียวระหงก็ต้องสะดุ้งเฮือก ดวงตาสีคาราเมลเหลือกถลน เมื่อปลายจมูกคมสันเคลื่อนมาแตะปลายจมูกเชิดรั้น ปากหยักหมายจะยื่นมาเชยชิมกลีบปากอิ่มสีระเรื่อหากแต่เธอเอียงตัวหลบได้ทันท่วงที แล้วแหกปากแผดเสียงโวยลั่น
“ไอ้บ้าเอ๊ย! อย่านะโว้ย!” ท้ายประโยคอดีตนายทหารสาวร้องห้ามปรามเสียงหลง พร้อมดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการแกร่งอย่างบ้าคลั่งแต่ไม่เป็นผล พาฝันรู้สึกเจ็บใจให้ตัวเองเหลือคณาเพราะขนาดมีปืนในมือยังเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายเข้าถึงเนื้อถึงตัวได้อย่างง่ายดาย ทว่ายังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้ต่อกรกันไปมากกว่านั้นเสียงรถก็ดังขึ้นเสียก่อน
บรืน!
“ซวยแล้วไหมล่ะ” ทันทีที่รู้ว่าผู้มาเยือนเป็นใครหญิงสาวก็ทำหน้ายุ่งเหยิง แล้วรีบขืนกายออกจากวงแขนกำยำล่ำสันสุดแรงเกิด ก่อนจะดันร่างใหญ่ไปทางกระโจม “คุณเข้าไปหลบข้างในก่อน”
“ทำไมผมต้องหลบด้วย” นอกจากจะไม่ให้ความร่วมมือแล้วเขายังขี้สงสัยจนน่าโมโห
“อย่าเพิ่งสงสัยได้ไหม เดี๋ยวก็โดนพวกมันส่งไปลงนรกหรอก” พาฝันเอ็ดอย่างระอา ขณะที่สายตายังไม่ละไปจากรถจิ๊บที่วิ่งฝ่าสันทรายจนฝุ่นตลบ
“คนหน้าตาดีแถมลีลาเด็ดอย่างผมเหมาะกับสวรรค์มากกว่านรกจ้ะยาหยี” เจคอบยืดอกบอก นัยน์ตาสีน้ำตาลทองพราวระยับจนน่าหมั่นไส้
“พูดมาก! หลบไปได้แล้วไป๊” ขาดคำยัยตัวร้ายก็จัดการดึงผ้าใบที่ใช้ปูนอนขึ้น แล้วถีบส่งพ่อคนช่างสำบัดสำนวนอย่างไม่ไว้หน้า เรียกเสียงอุทานให้กระเด็นออกมาจากปากของผู้ที่ลงไปจูบผืนทรายเป็นหนที่สองในรอบวัน แต่เธอกลับทำเพียงยักไหล่พลางดึงผ้าใบคลุมเขาไว้ ก่อนจะกล่าวเสียงเข้ม
“หลบอยู่ในนั้นอย่าเพิ่งออกมาล่ะ ไม่งั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน” ขาดคำสาวแสบก็เดินออกมาจากบริเวณหน้ากระโจมเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจของพวกอันธพาลซึ่งกำลังจะมาถึง แล้วชักปืนอีกกระบอกออกมาลั่นไกทันทีที่พวกมันพากันกระโดดลงจากรถ
ปัง!
“พวกแกมาที่นี่ทำไมไม่ทราบ” น้ำเสียงห้วนจัดถูกเค้นออกมาจากลำคอระหง ขณะที่นัยน์ตาเย็นชาจ้องหน้าผู้มาใหม่เขม็งอย่างไม่นึกหวั่นเกรงว่าพวกมันจะมีสามคน
“เรามาหาคน” หลังจากกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากชายฉกรรจ์หุ่นเตี้ยล่ำก็เอ่ยเสียงกระด้างติดจะสั่น พลางสอดส่ายสายตามองไปรอบๆ ซึ่งหญิงสาวก็พอรู้ว่ามันจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่มีผู้มาเยือนในแถบนี้ พวกมันทำเรื่องผิดกฎหมาย ทั้งค้าของเถื่อน อาวุธสงคราม กัญชา เฮโรอีน และโคเคน ฉะนั้นมันจึงไม่ต่างจากวัวสันหลังหวะที่กลัวตำรวจสากลจะตามดมกลิ่นเจอ
“ถ้าสมองพวกแกไม่ฝ่อ คงจะจำได้ว่าฉันอยู่ที่นี่กับหมา และถ้าใครมันกล้าเข้ามาป้วนเปี้ยนฉันก็จะยิงกะบาลมันเหมือน ‘หมา’ ข้างถนนอย่างไม่ไว้หน้า” พาฝันเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบทว่าแววตากลับดุดันเอาเรื่อง เพราะไม่ชอบให้ใครมาบุกรุกในที่ส่วนตัว โดยเฉพาะไอ้พวกสุนัขรับใช้
“แต่คนของเราบอกว่ามีคนมาที่นี่” ชายหน้าเหี้ยมเอ่ยแย้งอย่างค่อนข้างมั่นใจ
“เฮ้ย! บอกว่าไม่มีก็ไม่มีสิวะ” แม่สาวห้าวสวนกลับทันควัน
“ถ้ามั่นใจว่าไม่มีก็ต้องยอมให้เราค้น”
“ไม่ให้ค้นโว้ย แล้วก็ไสหัวไปซะ ก่อนที่ลูกปืนฉันจะเจาะกะโหลกพวกแกเรียงตัว” หญิงสาวปฏิเสธด้วยท่าทางขึงขัง แล้วเค้นเสียงกระด้างขับไล่ ก่อนที่เจ้าแรมโบ้ซึ่งเพิ่งวิ่งมาจากไปปลดทุกข์จะแยกเขี้ยวข่มขู่อีกแรง
“อยู่กับหมาแก่ๆ ไม่เหงาบ้างเหรอคนสวย หรือว่า ‘ช่วยตัวเอง’ จ๊ะน้องสาว” ประโยคในตอนท้ายที่หลุดออกมาจากปากชายชั่วทำให้ดวงตาสีคาราเมลวาวโรจน์ขึ้นในบัดดล
“หุบปากสวะของแก แล้วไสหัวไปซะ ก่อนจะถูกฉันกระทืบให้จมทราย” แม่สาวขาโหดตะเบ็งเสียงไล่ตะเพิด พร้อมเล็งปืนไปยังอีกฝ่ายอย่างแน่วแน่ ซึ่งพวกมันก็รู้ดีว่าเธอใจเด็ด บ้าดีเดือด และถึงลูกถึงคนมากแค่ไหน กิตติศัพท์ความโหดของพาฝันดังกระฉ่อนทั่วทั้งผืนทรายตั้งแต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไม่กี่วัน จนใครต่อใครต่างโจษจันว่าอย่าไปแหยมกับเธอเข้า เพราะอาจจะไม่มีโอกาสได้จองแม้กระทั่งโลงศพ
“ไปก็ได้วะ เฮ้ย…ไปกันเถอะพวกเรา” ชายหน้าเหี้ยมผู้เป็นหัวโจกไหวไหล่เล็กน้อยทั้งที่รู้สึกหวาดกลัวสาวเจ้าจนฉี่จะราด ก่อนจะตะโกนชักชวนลูกกระจ๊อกอีกสองคนด้วยเสียงสั่นๆ จากนั้นพวกมันก็พากันลนลานกระโดดขึ้นรถ แล้วออกตัวอย่างแรงจนฝุ่นทรายฟุ้งกระจายไปหมด