4 เธอเริ่มจากร้อย
ร่างบางออกมาจากห้องน้ำในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้น มันเป็นเสื้อผ้าของคีตะ เพราะแบบนั้นถึงไม่มีความพอดีตัวเอาเสียเลย เสื้อยืดสีขาวตัวโคล่ง ไหล่ห้อยจนโชว์ลำคอและไหปลาร้าแสนงดงาม ส่วนกางเกงขาสั้น…จะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ ต้องม้วนพับของกางเกงเป็นทบๆ เธอยืนเก้กังมองชายหนุ่มที่กำลังทำอะไรสักอย่างอยู่กับคอมพิวเตอร์โน้ตบุคและมีเสียงดนตรีสังเคราะห์ที่เขาโปรดิวซ์ขึ้นมาเองบรรเลงอยู่
“พี่คีย์…”
“หืม?” เสียงอ่อนหวานของเธอเรียกร้องให้เขาต้องหันมามอง พอได้เห็นชุดที่เธอใส่ เขาก็อดยิ้มไม่ได้ “ไว้พรุ่งนี้พี่จะพาไปซื้อเสื้อผ้า”
“แต่ริสาไม่มีเงินนะ ริสาไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลย”
“ก็เอาเงินพี่ไง”
“พี่คีย์ก็ไม่มีเงินไม่ใช่เหรอ?”
“ก็พอมี แค่ซื้อเสื้อผ้าให้ริสาเอง…แค่นั้นมันไม่น่าจะต้องใช้เงินเยอะไม่ใช่เหรอ?”
“…” คาริสาเม้มปากสนิทแน่น ทำราวจะร้องไห้ออกมา ขณะเดียวกันก็เดินเข้าไปหยุดที่ตรงหน้าเขา “ริสาจะหางานทำ จะช่วยพี่คีย์หาเงิน”
“ริสาเนี่ยนะจะทำงาน? ทำเป็นหรือไง? ลูกคุณหนูแบบริสา…”
“ริสาไม่ใช่ลูกคุณหนูสักหน่อย! ริสาเรียนจบบริหารมานะ! ถึงจะไม่ชอบ…แต่ก็เรียนจนจบ! ต้องมีสักออฟฟิศที่รับริสาเข้าทำงานบ้างแหละ” เธอไม่ชอบที่ถูกเรียกว่าเป็นลูกคุณหนู มันฟังเหมือนว่าเธอทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน และมันคือสิ่งที่ผู้เป็นแม่ปรามาสเธอมาตลอด
“ทำสิ่งที่ริสาชอบเถอะ อยากเป็นนักเขียนไม่ใช่หรือไง? ถ้าไปทำงานออฟฟิศแล้วจะเอาเวลาที่ไหนมาเขียนหนังสือ?”
“ก็แบ่งเวลาแบบพี่คีย์ไง…ตอนกลางวันทำงานเพื่อหาเงิน ตอนกลางคืนก็ทำงานที่จะตามความฝัน หรือว่าริสาไปทำงานที่คาเฟ่เหมือนพี่คีย์ดี?”
“อย่าเลย งานที่คาเฟ่มันหนัก”
“แต่ริสาอยากหาเงินนี่”
“ก็เขียนหนังสือหาเงินสิ…เดี๋ยวนี้มันขายงานออนไลน์กันได้ไม่ใช่เหรอ? พี่เคยเห็นพวกเพื่อนๆอ่านนิยายออนไลน์กันน่ะ”
“เพื่อนพี่คีย์อ่านนิยายออนไลน์ด้วยเหรอ?”
“อืม พวกผู้หญิงน่ะ…”
“เพื่อนผู้หญิง?!”
“อะไร? จะหึงกันตั้งแต่ที่คบวันแรกเลยหรือไง?” พอเขาเห็นว่าเธอทำหน้าถมึงทึง ก็ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู
“เป็นแฟนกันแล้วนะ ก็ต้องหึงได้สิ พี่คีย์เป็นของริสา…ริสาก็เป็นของพี่คีย์ เราเป็นของกันและกันนะ”
“รู้ไหมว่าพูดอะไรออกมา?” เธอท้าทายเขาอีกแล้ว ท้าทายโดยที่ไม่รู้สักนิดว่าจะต้องเจอกับอะไร ยิ่งมาอยู่ด้วยกันสองต่อสอง แถมยังมีสถานะแฟน อีกทั้งบรรยากาศฝนตกฟ้าครึ้มที่ด้านนอกก็สุดแสนจะเป็นใจ
“รู้สิ…”
“รู้ว่าไง?”
“ก็รู้ว่าผู้หญิงคนไหนก็จะเข้าใกล้พี่คีย์ไม่ได้อีก เพราะพี่คีย์เป็นของริสาคนเดียว”
“หึ!”
“ยิ้มแบบนั้นหมายความว่าไงพี่คีย์?”
หมับ!
“อ๊ะ!” เพียงเสี้ยววินาที ร่างบางก็ถูกคว้าเอวให้ไปนั่งบนตักของชายหนุ่ม เขาจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวย…จ้องราวกับจะเขมือบกินเธอเสียเดี๋ยวนั้น
“ยั่วเหรอ?”
“พี่คีย์…”
“ถ้าอยากเป็นของพี่…ริสาต้องทำมากกว่าแค่โดนจูบ”
“คะ?”
“คิดว่าเป็นแฟนกัน เขาจะทำกันแค่จับมือกับจูบหรือไง? ยังไงคืนนี้ริสาก็ต้องนอนเตียงเดียวกับพี่…ไม่กลัวเหรอ?”
“ริสา…ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นเลย”
“แต่พี่คิด พี่เป็นผู้ชาย…แล้วริสาก็น่ารักมาก พี่อดใจไม่ไหวหรอก”
“…” ในตอนที่เขากำลังกลั่นแกล้งเธอด้วยสายตาและคำพูด คาริสาก็ตัวแข็งทื่อ เขาเป็นคนที่เธอคลั่งไคล้และหลงไหล แน่นอนว่าเธอไม่ได้กลัวเขาเลยสักนิด แต่ที่กลัว…มันเป็นเพราะเราทุกคนมักจะตื่นกลัวกับสิ่งที่ไม่เคยเจอเสมอ
“กลัวไหมว่าพี่อาจจะทำให้ริสา…”
“ไม่กลัว” เธอแทรกขึ้นมาก่อนที่เขาจะพูดจนจบประโยค
“ไม่กลัวจริงเหรอ? มันจะเจ็บ…และพี่อาจจะทิ้งริสาก็ได้”
“ริสารู้ว่าพี่คีย์ไม่ใช่คนแบบนั้น! พี่คีย์จะไม่ทิ้งริสา…แล้วถึงจะเจ็บริสาก็ทนได้” เธอตอบออกไปอย่างหนักแน่น
“เอาอะไรมามั่นใจ ริสารู้จักพี่ดีหรือไง?”
“รู้สิ ริสารู้ว่าพี่คีย์มีความรับผิดชอบ…พี่คีย์จะรับผิดชอบริสาแน่นอน…ริสาเฝ้ามองพี่คีย์มานานนะ เห็นหมดแหละว่าพี่คีย์เป็นคนยังไง”
“แล้วพี่เป็นคนยังไง?”
“พี่คีย์มุ่งมั่น ขยัน ตั้งใจทำงานแล้วก็เก่งด้วย ถึงวันนี้พี่คีย์จะยังไม่ดัง แต่สักวันพี่คีย์จะต้องเป็นดีเจที่ดังแน่ๆ เพราะพี่คีย์เข้มแข็งและอดทนที่จะตามความฝันของตัวเอง…”
“ไหนบอกว่าไม่ชอบเพลงที่พี่เล่นไง แล้วรู้ได้ไงว่าพี่จะดัง?”
“ถึงไม่ได้ชอบเพลงแต่ริสาชอบพี่ แค่นั้นก็มากพอแล้ว ริสาฟังเพลงของพี่ไม่รู้เรื่องหรอก แต่เวลาที่เห็นพี่อยู่บนเวที เวลาเห็นพี่ยิ้มให้คนที่กำลังฟังเพลงของพี่…ริสาชอบ พี่คีย์ดูมีความสุขกับสิ่งที่ทำ แล้วริสาก็อิจฉาพี่…ที่พี่ได้เดินอยู่บนเส้นทางที่ส่งตรงไปหาความฝัน พี่คีย์เป็นแรงบันดาลใจให้ริสาหนีออกจากบ้านเลยนะ”
“ฮะๆๆๆ พี่ควรดีใจไหมเนี่ยริสา?”
“ไม่ใช่ๆ ต้องบอกว่าพี่คีย์เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ริสาอยากจะฮึดสู้เพื่อความฝันของตัวเองต่างหาก”
“อืม…ถือว่าเป็นคำตอบที่ดี”
“เรามาวิ่งตามความฝันกันนะพี่คีย์…ริสาจะคอยสนับสนุนพี่คีย์ทุกอย่างเลย”
“…” คาริสาอาจจะเอ่ยออกมาด้วยความใสซื่อ แต่มันทำให้คีตะรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เพราะตั้งแต่ที่เขาเกิดมาไม่เคยมีใครมาชวนเขาวิ่งตามความฝัน และไม่เคยมีใครมาบอกว่าจะคอยสนับสนุนความฝันของเขา เธอเป็นคนแรก
“อ๊ะ!” คาริสาส่งเสียงร้องออกมาอีกครั้ง เมื่อคีตะจับเธอยกขึ้นอุ้มแล้วลุกจากโต๊ะทำงานมาที่เตียงนอนซึ่งอยู่ห่างกันเพียงไม่กี่ก้าว เขาวางเธอลงบนเตียงอย่างช้าๆ ทาบทับเธอไว้แล้วจ้องมองใบหน้าสวยไม่วางตา
“เราจะผ่านคืนนี้ไปได้ยังไง โดยที่พี่จะไม่ทำอะไรริสา ในเมื่อริสาเอาแต่ยั่วพี่แบบนี้”
“ระ…ริสาไม่ได้ยั่วนะ”
“นี่ก็ยั่วอยู่…เวลาที่มองพี่แบบนี้ เวลาที่ทำเสียงสั่นๆ มันแปลว่ายั่ว”
“พี่คีย์…”
“ไหนบอกว่าเราเป็นของกันและกันไง?”
“ก็ใช่…”
“ไหนบอกว่าไม่กลัว?”
“ก็ไม่ได้กลัว”
“แล้ว?”
“จะรักริสามากขึ้นไหม? ถ้าเรามีอะไรกัน…พี่คีย์จะรักริสามากกว่าเดิมใช่ไหม?”
“ไม่”
“…” แววตาของเธอฉายแววเศร้าหมองเมื่อเขาเอ่ยออกมาแบบนั้น
“จะไม่รักเพราะเรามีอะไรกันหรอก แต่จะรัก…เพราะอยากจะรัก มันง่ายกว่ากันเยอะ”
“แล้วอยากรักไหม?”
“อยากสิ…อยากมากที่สุดเลย”
“อื้อ!” จบคำนั้นเขาก็จูบเธอ จูบเธออย่างอ่อนโยน เคลือบคลอไปด้วยจังหวะดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ที่เปิดอยู่ และไม่อาจรู้ได้ว่าระหว่างท่วงทำนองที่บรรเลงกับรสจูบที่ยาวนานนี้…อะไรจะสิ้นสุดลงก่อนกัน
