หวนคืนมาเกิดใหม่ในร่างลูกสาวมาเฟีย

68.0K · จบแล้ว
นิษฐา01
31
บท
9.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

รมิดา คนรักของเลโอมาเฟียหนุ่มที่กำลังอยู่ในช่วงรับอำนาจต่อจากคุณปู่ (ตระกูลเล) เขาและเธอรักกันมาก่อนแล้ว เนื่องจากปมในวัยเด็กของเลโอเติบโตมาอย่างไม่มีความสุขนัก โตขึ้นจึงขวานขวายหาอำนาจอย่างเอาเป็นเอาตาย เหตุผลเดียวคืออยากมีอำนาจเพื่อปกป้องคนที่รัก แม้ว่าเขาจะรักกับรมิดา แต่เพื่ออำนาจที่อยู่ในมือต้องจำใจแต่งงานกับ ฮันนี่ หญิงสาวตระกูลมั่งคั่ง โดยให้ รมิดาเป็นเพียงภรรยาลับ ๆ จากนั้นเขาลงมือทำทุกอย่างเพื่อจะได้ปกป้องคนที่รักเพียงลำพัง โดยไม่ให้รมิดาได้รู้ จนวันหนึ่งฮันนี่ได้วางแผนให้เลโอไล่รมิดาที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดออกจากบ้านกลางดึก ในช่วงเวลานั้นกลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น มีเด็กสาวอายุ 17 ย่างเข้า 18 ปี ได้กระโดดตึกฆ่าตัวตายทับร่างของรมิดาจนเสียชีวิต รอดแค่เด็ก ในท้อง ภายหลังได้ทราบมาว่า คนที่ทำให้คนรักของชายหนุ่มต้องตาย เธอชื่อ คาริสา ลูกสาวตระกูลลี่ เป็นตระกูลมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลอันดับหนึ่งในประเทศ ตำรวจสรุปคดีไว้ว่ามันคืออุบัติเหตุ อีกอย่างเด็กสาวที่กระโดดตึกลงมานั้นอายุยังไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ จึงไม่มีความผิด แม้จะเป็นมาเฟีย แต่อำนาจยังด้อยกว่าตระกูลลี่อยู่ดี เนื่องจากความโกรธแค้นที่ คาริสาทำให้ภรรยาสุดที่รักต้องตาย เลโอจึงวางแผนที่จะหมั้นและแต่งงานกับคาริสาเพื่อแก้แค้นให้รมิดา เพราะกฎหมายทำอะไรคาริสาไม่ได้ เขานี่แหละที่จะพิพากษาเธอเอง แต่หารู้ไม่ว่า คนที่เขาจะแก้แค้นนั้น คือภรรยาของตัวเองที่ได้เสียชีวิตไปแล้ว เข้ามาอยู่ในร่างของลูกสาวมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลนี้..... คล้าย ๆ ว่าทุกอย่างจะจบลงด้วยดี เธอต้องไปพัวพันเรื่องราวเมื่อ 27 ปีก่อน เรื่องราวความรักของทั้งสองคนจะลงเอยเช่นไร ติดตามได้ในเรื่อง หวนคืนมาเกิดใหม่ ในร่างลูกสาวมาเฟีย

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักประธานแก้แค้นมาเฟียเศรษฐีคนในใจแฟนเก่าผู้สืบทอดวัยรุ่น

บทที่ 1 หัวอกคนเป็นแม่

เวลา 23.00 น.

ท่ามกลางความมืดที่เงียบสงบ มีหญิงสาวคนหนึ่ง ชื่อว่า รมิดา ก้าวเดินเป็นจังหวะช้า ๆ อย่างคนหมดอาลัย มือเล็กกำลังกำเสื้อคลุมแน่นห่อเข้าหาตัวเพื่อผ่อนคลายความหนาว

“หนาวจัง” ปากเล็กพึมพำเบา ๆ จากนั้นยกมือบางขึ้นมาถูกันไปมาอีกครั้ง

อากาศที่หนาวขนาดนี้แต่เธอต้องออกมาเดินข้างนอกคนเดียว นั่นเป็นเพราะว่า ‘เลโอ’ ชายหนุ่มดีกรีนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง แถมมีธุรกิจ

สีเทาคือคาสิโนที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ อีกทั้งตระกูลของเขาเป็นมาเฟีย

ผู้ทรงอิทธิพลรองจากตระกูลลี่

รมิดาเป็นคนรักของเลโอ หญิงสาวได้แต่งงานกับเขา เดิมทีคิดว่าชีวิตต่อจากนี้จะได้มีความสุขเหมือนกับคนทั่ว ๆ ไปแล้ว

ทว่าการได้เป็นภรรยาของเลโอนั้นก็ไม่ได้ราบรื่นนัก เพราะการที่

รมิดาเข้าไปอยู่ในตระกูลของชายหนุ่มมีฐานะเป็นเพียงภรรยาน้อย ส่วนภรรยาหลวงต้องเป็นผู้หญิงตระกูลดังแน่นอนอยู่แล้ว ถึงจะเหมาะสมและคู่ควรกัน

อย่างที่เขาว่าไว้ ‘คนที่ต้องการอำนาจ ย่อมไม่เห็นแก่ตัณหาเรื่องผู้หญิง’ เพราะการที่เธอกลัวว่าเลโอจะลำบากใจ ด้วยความรัก หญิงสาวจึงยอมทิ้งศักด์ศรีของผู้หญิงเป็นภรรยาน้อยของเลโอ ทั้ง ๆ ที่รักกับเขามาก่อนแท้ ๆ นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาเสียจริง

แม้จะได้ครองใจของเลโอเอาไว้ แต่การที่เธอใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านหลังนั้น มันเหมือนนรกสำหรับรมิดา

ทุก ๆ วัน คนตัวเล็กจะถูกภรรยาหลวงของเขากลั่นแกล้งสารพัด จนวันนี้เธอทนไม่ไหวตอบโต้กลับไปบ้าง แต่กลับถูกลงโทษโดนไล่ออกจากบ้านตระกูลเล

ตอนนี้คนตัวเล็กได้แต่ทอดสายตามองไปข้างหน้า นัยน์ตาสีน้ำผึ้งหุบต่ำลง ทอประกายความเศร้าอย่างเข้มข้น เพราะเธอเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีที่ไป

เลโอ เป็นรักแรกและรักสุดท้ายสำหรับเธอ นั่นเป็นสิ่งที่รมิดาทนมาจนถึงทุกวันนี้ แต่วันนี้เป็นวันที่เธออยากจบชีวิตลง เพราะเขาเป็นคนที่ไล่เธอออกมาจากบ้าน

ทันทีที่ความคิดฆ่าตัวตายได้แล่นเข้ามาในหัว เพียงชั่วพริบตาสิ่งมีชีวิตอีกคนที่อยู่ภายในท้องกลับดิ้นขึ้นมา

ใช่….นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุผล…ที่เธอยอมทน….เพราะตอนนี้ท้องแก่ใกล้คลอดแล้ว คงจะเดินไปไหนได้ไม่ไกลเท่าไหร่ โชคดีที่หญิงสาวเก็บเงินติดตัวเอาไว้ จึงเพียงพอที่จะเช่าโรงแรมนอนได้หนึ่งคืน หากผ่านไปหนึ่งคืน เวลานั้น เลโอคงจะหายโกรธ มารับเธอกลับบ้านไป

เดินมาเพียงไม่นานก็มาถึงถนนกว้าง รอบข้างรายล้อมไปด้วยตึกสูง สายตากลมโตกวาดมองไปรอบ ๆ พร้อมกับอ่านป้ายด้านหน้าของตึก

ไปด้วย

เพียงชั่วพริบตา….. รมิดาเห็นร่างหนึ่งกำลังร่วงหล่นมาจากด้านบน

ตุบ!

เสียงร่วงหล่นบางอย่าง หล่นลงมาทับร่างของรมิดา พอดี มันไม่ใช่สิ่งของแต่อย่างใด แต่มันคือร่างของมนุษย์

“กรี๊ดด!!” เสียงกรีดร้องของผู้คนที่อยู่แถวนั้นดังระงม

ต่างจากรมิดาที่ได้แต่นอนแน่นิ่ง ไม่สามารถเปล่งเสียงใด ๆ ออกมา ได้แต่พยายามเอามือเรียวเล็กคลื่อนไปกุมท้องเอาไว้ สิ่งที่นึกได้ตอนนี้คือเป็นห่วงลูกในท้อง

ใบหน้าสวยค่อย ๆ ปรือตามอง ว่าเขาคือใครที่ตัดสินใจจบชีวิตลง โดยการที่พ่วงเอาชีวิตของหญิงสาวและลูกไปแบบนี้ ในช่วงเวลาหนึ่งรมิดาได้แต่เห็นใบหน้าของเด็กสาวคนหนึ่งอย่างเลือนลาง เรียวปากสีหวานค่อย ๆ เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาลง ลมหายใจค่อย ๆ ขาดห้วง

“ชะ…ช่วย…ลูก…ของฉัน…ที” น้ำตาแห่งความเสียใจร่วงหล่นไหลออกมาราวกับสายน้ำ เพราะตอนนี้รมิดารู้ดีว่า ตัวเองคงไม่รอด ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ปิดลงพร้อมกับสติที่ดับวูบไป

ส่วนเด็กสาวอีกคนได้แต่มองหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายนิ่ง ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยคำใด ๆ ออกมา ดวงตากลมโตก็ปิดลงไปเช่นกัน

“โทรเรียกรถพยาบาลเร็ว” เสียงของหญิงวัยกลางคนที่อยู่แถวนั้นเอ่ยบอกผู้เป็นสามีให้โทรเรียกรถพยาบาล พร้อม ๆ กับผู้คนมากมายหลายตา

ต่างเข้ามามุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“น่าสงสารจัง ผู้หญิงท้องแก่คนนั้นเดินมาดี ๆ แท้ ๆ กลับถูกเด็กที่คิดจะฆ่าตัวตายร่วงใส่ซะงั้น” เสียงหญิงผู้มุงดูเหตุการณ์พูดกับคนที่อยู่ด้านข้าง

“นั่นสิ ฉันล่ะสงสาร เป็นแม่คนแล้ว ไม่รู้จะได้มีโอกาสได้เห็นหน้าลูกตัวเองไหม ฉันภาวนาให้รอดมาดูหน้าลูกแล้วกัน ”

“แต่เด็กสาวคนนั้น เป็นอะไรทำไมถึงได้จบชีวิตลง ยังเป็นนักเรียนอยู่แท้ๆ เชียว”

เวลาผ่านไปไม่นาน รถพยาบาลก็ได้มายังสถานที่เกิดเหตุ

ร่างเล็กของรมิดาและเด็กสาวอายุเพียง 17 ปี ถูกนำขึ้นรถพร้อม ๆ กัน รมิดาค่อย ๆ กลับมามีสติอีกครั้ง ทว่าความรู้สึกเจ็บหน่วงบริเวณท้อง ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

‘อย่าพึ่งจากแม่ไปไหนนะลูก’ หญิงสาวได้แต่พูดในใจ เอื้อมมือเล็กมากุมบริเวณท้องอย่างยากลำบาก

ในช่วงเวลาเดียวกันก็ได้ยินเสียงดังแว่วมา

“เวลาเสียชีวิต 00.00 น.”

แสดงว่าเด็กสาวที่กระโดดตึกลงมานั้นได้เสียชีวิตแล้ว

อึก! ช่วงเวลาหายใจขาดเป็นห้วง ๆ กลับมาอีกครั้ง

ภายในรถเริ่มมีเสียงดังเอะอะโวยวายอย่างต่อเนื่อง รมิดาที่อ่อนแอไร้เรี่ยวแรงที่จะเอ่ย แต่เธอก็พยายามเปล่งเสียงออกมาให้ดังที่สุด เคลื่อนมือจากบริเวณท้อง แล้วจับแขนคนข้าง ๆ เอาไว้แน่น

“หะ…หาก…ฉันเป็นอะไร…ให้ช่วยลูกของฉัน…ก่อน”

“เข้มแข็งเอาไว้คุณแม่ ใกล้ถึงโรงพยาบาลแล้ว” พยาบาลได้แต่มองใบหน้าที่มีคราบเลือดเกาะอย่างสงสารจับใจ พร้อมกับบีบมือรมิดาเพื่อส่งกำลังใจ ไม่ให้ยอมแพ้

ณ โรงพยาบาล

คนตัวเล็กถูกพาตัวมายังห้องฉุกเฉิน และเข้าห้องผ่าตัดโดยเร็วที่สุด อาการของเธอค่อนข้างแย่ลงเรื่อย ๆ

ทันทีที่ได้ถูกนำตัวเข้ามา สายยางออกซิเจนถูกสวมเข้ามาใบหน้าสวย พร้อมกับสายยางช่วยชีวิตห้อยเต็มไปหมด

“ญาติคนไข้อยู่ไหน” เสียงแพทย์เฉพาะทางคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

“กำลังพยายามติดต่ออยู่ค่ะ แต่ยังไม่มีใครรับสาย เท่าที่ดูจากโทรศัพท์ในมือถือ คนไข้มีแค่เบอร์เดียวที่ได้บันทึกเอาไว้ค่ะ”

“หากช้าจะไม่ทันแล้วนะ ต้องเลือกว่าจะรักษาแม่ หรือลูกเอาไว้ คนไข้ตรงหน้าจะไม่ไหวแล้ว”

รมิดามีสติเลือนรางได้ยินอยู่บ้าง นี่เธอจะไม่มีโอกาสได้เจอหน้าลูกจริง ๆ หรือ

ถึงอย่างไร คนเป็นแม่ก็ต้องเลือกชีวิตของลูกมาก่อนอยู่แล้ว

ในช่วงเวลาที่ร่างกายเจ็บปวด ยังไม่เท่ากับใจตอนนี้ มันเบาหวิวไปหมด

เลโอไม่อยากรับสายเธองั้นเหรอ….คุณมันใจร้ายเกินไปแล้ว เลโอ

“ชะ…ช่วย…ลูกฉันค่ะ…”

คนตัวเล็กพยายามเปล่งเสียงออกมา เพื่อเร่งการรักษา

การตัดสินใจที่เลือกในครั้งนี้ ไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย

หากชาติหน้ามีจริง….ขอให้เกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย มีพ่อแม่และครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนคนอื่นเขา

ได้มีคนรัก…ที่รักเธอแค่คนเดียว และมีโอกาสเจอหน้าลูก ได้มีโอกาสจับฝ่ามือเล็ก ๆ ตอนลูกเกิดมา อีกอย่างที่วาดหวังคือได้มีโอกาสเฝ้ามองดูลูกเติบโตโดยมีชีวิตที่ดี…….

เลโอ….ดาล่วงหน้าไปก่อนนะคะ….สิ่งเดียวที่ดาจะเหลือไว้ให้คือลูกของคุณค่ะ

เสียงร้องขออยู่ภายในใจ ทว่าไม่มีใครได้ยิน…

หยดน้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับมือเล็กที่ร่วงหล่นอยู่บนเตียง ร่างกายไม่ขยับเขยื้อนใด ๆ ชีพจรก็แน่นิ่งไปแล้ว นั่นหมายความว่า

รมิดา ได้เสียชีวิตลง…..

ทว่า….

เฮือก! เสียงสูดลมหายใจเข้าของรมิดากลับมาอีกครั้ง…

นี่เธอยังไม่ตายหรอกหรือ….

“ริสา ลูกรักของแม่ ฮือ…” เสียงร้องไห้โฮของหญิงอายุประมาณ 45 ปีดังก้องอยู่ใกล้ ๆ ใบหูของเธอ พร้อม ๆ กับมือของคนด้านข้าง กุมมือรมิดาเอาไว้แน่น

คนตัวเล็กได้แต่งุนงง เธอมีแม่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน….

แม้อยากจะลืมตาขึ้นเพื่อดูเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่กลับทำไม่ได้ คงเป็นเพราะร่างกายที่เสียเลือดมากและเหนื่อยจนเกินไป เธอจึงได้นอนอย่าง เงียบ ๆ เพื่อพักผ่อน ก่อนที่จะนอนพัก ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นพูดว่า

“คุณหมอคะ ลูกของฉันยังไม่ตาย มือยังอุ่นอยู่ ชีพจรกลับมาแล้วค่ะ”