ตอนที่ 2 หญิงชรา
กชกรเอื้อมมือไปหยิบนาฬิกาปลุกที่หัวเตียง อีกห้านาทีก็จะถึงเวลาที่เธอตั้งปลุกไว้ วันนี้เธอต้องไปสมัครงานที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี ตำแหน่งเภสัชกร
ร่างอวบขาวสูงราวหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรก้าวขาลงจากเตียงนอน แล้วรีบอาบน้ำแต่งตัว รู้สึกมึนศีรษะเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเธอร้องไห้อย่างหนัก หรือเป็นเพราะเธอฝันกันแน่
เธอเดินออกมาจากบ้านทรงโมเดิร์นชั้นครึ่ง แม่กับพ่อกำลังกวาดใบไม้ตรงลานหน้าบ้านที่เทลาดด้วยปูนเป็นทางเดินบางส่วน เมื่อคืนฝนตกหนักและมีลมกรรโชกแรงจึงทำให้ใบไม้ร่วงเกลื่อนพื้น เมื่อคืนในฝันของเธอฝนก็ตกหนักเช่นกัน หรือฝนตกหนักจนเธอเก็บไปปะติดปะต่อกันจนกลายเป็นความฝัน
“แม่คะ พ่อคะ กรไปสมัครงานก่อนนะคะ”
“ไปแต่เช้าจังลูก ยังไม่เจ็ดโมงเลย” ลัดดาเอ่ยถามลูกเพราะบ้านอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลที่ลูกจะไปสมัครงานมากนัก
“กรจะไปหาอะไรกินก่อนน่ะค่ะ และอยากได้คิวแรกด้วยค่ะแม่ อีกอย่างกลัวพี่กฤตไปทำงานสายด้วยค่ะ” กฤตภัทรผู้เป็นพี่ชายก็เดินตามหลังเธอออกมาเช่นกัน
“งั้นก็โชคดีจ้ะ ลูกพ่อเก่งอยู่แล้ว” นายแพทย์สมเกียรติที่อยู่ในวัยเกษียณบอกลูกสาวด้วยความมั่นใจว่าเธอต้องได้ทำงานใกล้บ้านแน่
ผู้เป็นแม่โบกมือให้ลูกทั้งสองเบา ๆ
ขับรถออกมาได้สักพักกชกรก็บอกพี่ชาย “พี่กฤตจอดแถวร้านก๋วยจั๊บญวนก่อนถึงโรงพยาบาลให้กรหน่อยนะคะ”
“จ้ะ แล้วกลับยังไง”
“ไม่นั่งรถสองแถว ก็วินมอไซด์ค่ะ” ถ้าอยากถึงเร็วแต่ต้องทนร้อนหน่อยก็นั่งมอเตอร์ไชด์รับจ้าง แต่ถ้านั่งรอรถสองแถวก็นานหน่อย เพราะรถออกทุก ๆ ครึ่งชั่วโมง
“อืม” กฤตภัตรไม่ได้ห่วงน้องสาวมากเพราะปกติเธอก็ใช้ชีวิตแบบนี้ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายแล้ว เธอคุ้นเคยกับเมืองอุดรฯ เป็นอย่างดี อีกอย่างเธอก็โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว
เขาจอดรถตามที่น้องสาวบอกแล้วทั้งสองก็โบกมือร่ำลากัน
กชกรเดินเท้าไปตามฟุตปาธอีกไม่ถึงร้อยเมตรก็จะถึงร้านขายก๋วยจั๊บและข้าวต้มที่เธอเคยกินเป็นประจำ
“กำไลแขนไหมจ๊ะหนู” เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นอยู่ริมฟุตปาธฝั่งขวามือที่เธอกำลังจะเดินผ่าน ด้วยความที่ชอบเรื่องเย็บปักถักร้อยอยู่แล้วกชกรจึงชะลอการเดินและหยุดยืนอยู่ตรงหน้ายายแก่คนหนึ่งที่กำลังนั่งขายของอยู่ เธอสวมงอบปิดบังใบหน้า ยายใช้ไม้คานหาบสิ่งที่ชาวบ้านเรียกว่า ‘กะยัง’ มาสองใบ ข้างหนึ่งเป็นเครื่องประดับจำพวกสร้อยข้อมือ กำไล แหวน ต่างหู อีกข้างเป็นพวกยาสมุนไพรและน้ำตาลอ้อย
กชกรก้มหยิบสร้อยข้อมือยืดหยุ่นที่ร้อยด้วยลูกปัดสีแดงเส้นหนึ่งขึ้นมา ตรงกลางเป็นหยกกระต่ายสีขาว มันดูสวยงามมากทั้งที่ราคาน่าจะไม่เกินหลักร้อย
กชกรโน้มตัวลงไปเพื่อถามราคาคนที่นั่งอยู่บนพื้น เธอมองเห็นใบหน้าของยายไม่ชัดนัก เพียงเสี้ยววินาทีเธอเห็นเหมือนปานดำรูปหัวใจที่กระดูกไหปลาร้าของยายเพราะยายสวมเสื้อคอกระเช้าด้านในส่วนตัวนอกเป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาว “เส้นนี้ราคาเท่าไรคะยาย”
ยายคนนั้นไม่ตอบแต่กลับยื่นมือมาจับมือเธอแล้วคลี่ฝ่ามือเธอออก หญิงชราถือวิสาสะดูลายมือให้เธอ กชกรได้แต่มองอย่างงง ๆ หญิงชราเงยหน้าขึ้นสบตากับกชกรแวบเดียว “ถึงเวลาที่หนูจะต้องกลับไปแก้ไขชะตาในอดีตแล้ว” พูดแค่นั้นหญิงชราก็ปล่อยมือเธอให้เป็นอิสระ
“แก้ไขชะตาอะไรหรือคะยาย” กชกรทำหน้าฉงน ยืดตัวยืนขึ้นเต็มความสูง คนเราสามารถกลับไปแก้ไขอดีตของตัวเองได้ด้วยหรือ ถ้าเป็นเช่นนั้นคนอื่นเขาก็คงทำกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วสิ
“ชะตาเหมือนเรื่องที่หนูฝันถึงเมื่อคืน” ยายพูดขึ้นอีก
กชกรอึ้งไปกับคำบอกเล่าของหญิงชราตรงหน้า “ยายรู้ได้ยังไงคะ” เธอยังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังสักคน แม้แต่คนในครอบครัว
“ฮ่า ๆ สามีหนูเขากำลังเรียกร้องให้หนูกลับไปหาเขา เขากำลังเดือดร้อนอย่างหนัก ถ้าหนูยังอยู่ที่นี่ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนหนูก็จะหาสามีไม่ได้เลย”
“ทำไมล่ะคะ” เธอมั่นใจว่าเธอเป็นคนเก่งและสวยมากทำไมเธอจะหาคู่ไม่ได้
“เพราะมันเป็นกรรมที่หนูเคยทำไว้กับสามีแต่ปางก่อน”
“หนูทำอะไรไว้หรือคะยาย” ทำไมยายคนนี้ถึงได้กุเรื่องขึ้นมาหลอกเธอเป็นตุเป็นตะได้
“นอกกายนอกใจสามี”
“นอกกายนอกใจสามีอย่างนั้นเหรอ?” กชกรยืนนิ่งงันอยู่เกือบนาที เธอยังไม่เข้าใจในสิ่งที่ยายพูด ช่างเถอะยายอาจจะพูดไปเรื่อยเพราะอายุแกก็น่าจะเจ็ดสิบแปดสิบปีแล้ว