บท
ตั้งค่า

หัวใจใช่ของเล่น (30%)

ไม่อยากจะเชื่อว่าเสาร์อาทิตย์นี้มหรรณพจะขลุกอยู่กับเธอตลอด ไล่ยังไงก็ไม่ไป แถมยังทำตัวน่าหมั่นไส้ เธอเดินไปไหนก็เดินตาม ถึงแม้จะอยู่ในห้องแคบๆ ที่แค่ปรายตามองก็รู้แล้ว ว่าเธอกำลังทำอะไร อยู่ตรงไหน แต่เขาก็ยังตามมาอยู่ใกล้ๆ นับวันยิ่งทำตัวประหลาดชวนให้ลากไปเช็กประสาทเข้าไปทุกที

เมื่อเลี่ยงไม่ได้ หนีหน้าเขาก็ไม่ได้ เพราะนอกจากเธอจะทำงานหนักมาทั้งสัปดาห์ เมื่อคืนยังถูกเขาสูบพลังจนแทบกระดิกนิ้วไม่ไหว ฉะนั้นที่ทำได้ก็คือหมกตัวอยู่แต่ในห้อง นอนกลางวันให้ร่างพังๆ ได้ชาร์ตพลังงาน และพยายามไม่สนใจแขกไม่ได้รับเชิญ ที่ชอบทำตัวมีปัญหาเรียกร้องความสนใจอยู่บ่อยครั้ง พอตกเย็นเธอก็ทำอาหารง่ายๆ โดยไม่ลืมเผื่อเขาด้วย ไม่ใช่ว่าเต็มใจแต่โดนคนบ้าอำนาจบังคับ

“ทำอะไรกินหืม…”

เสียงห้าวเจือแหบของคนที่ยืนซ้อนหลังกระซิบงึมงำชิดซีกแก้มนวลปลั่ง ก่อนจะขโมยจูบเร็วๆ จนนับครั้งไม่ถ้วน ครั้นคนหน้าร้อนจี๋จะเอนตัวหนีเขาก็รวบเอวคอดเอาไว้ แล้วแถมจุ๊บให้อีกหลายหน

“ว่างายยยย…ลูกหมูน้อย ถามทำไมไม่ตอบ”

เธอเกลียดเสียงยานคางกวนประสาทนั่นชะมัด

“ทำข้าวผัดแหนมคะ เอ่อ…คุณไปรอที่โต๊ะกินข้าวดีกว่านะคะ ทำแบบนี้ฉันไม่ถนัด”

คนที่ชักจะใจสั่นเพราะการคลอเคลียชวนหวามใจเอ่ยบอกเสียงสะท้าน พลางบุ้ยปากไปยังโต๊ะกินข้าวเล็กๆ ในพื้นที่ครัวแคบๆ ของแฟลตบุคลากรโรงพยาบาลรักษ์

“แบบนี้ มันแบบไหน”

จอมซึนสวนกลับอย่างซื่อๆ แต่ไม่ใสจนเธอชักหมั่นไส้

“ก็แบบที่คุณกำลังทำอยู่ไงคะ” คนขี้อายเอ่ยไม่เต็มเสียงมากนัก

“อืม…แบบไหนน้า…”

คนทำเป็นมึนแสร้งเอ่ยอย่างลอยๆ กระชับอ้อมแขนร้อยรัดเอวคอดมากยิ่งขึ้น วางคางได้รูปเกยตรงไหล่มน แล้วเอียงหน้าจูบซีกแก้มแดงก่ำหนักๆ

“แบบนี้”

ว่าแล้วก็เคลื่อนมือไปกุมมือที่กำลังจับตะหลิว แล้วช่วยเธอคนข้าวผัดอย่างหน้าตาเฉย

“หรือว่าแบบนี้”

คนเจ้าเล่ห์ยังคงก่อกวนการทำอาหารของเธอ จนปานระพีแทบทำข้าวผัดไหม้ กว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้น กว่าทั้งคู่จะได้มานั่งกินข้าว ก็เล่นเอาคนหน้าแดงเถือกถอนหายใจเฮือกใหญ่

“แพรยื่นมือมานี่หน่อย”

หลังจากเคี้ยวข้าวผัดแหนมที่เธอทำให้ด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย มหรรณพก็ออกคำสั่งเสียดื้อๆ ทำให้คนที่กำลังจัดการกับสลัดในจานของตัวเองเงยหน้าขึ้นมองอย่างงงๆ

“เมื่อกี้คุณว่าไงนะ?”

“ผมบอกว่า ยื่นมือมาหน่อย”

คราวนี้คนฟังทำท่าไม่ไว้ใจ จนเขาชักสีหน้าใส่ แล้วเอ่ยเสียงดุๆ

“บอกให้ยื่นมือมา!”

ที่สุดปานระพีก็จำใจยื่นมือเรียวออกไปหาเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ

“เอ้านี่…เอาไปใช้”

ชายหนุ่มเอ่ยง่ายๆ พร้อมกับยัดอะไรบางอย่างใส่มือเธอ ครั้นปานระพีแบมือออกดูก็ทำหน้าตื่น กะพริบตาปริบๆ นี่มันกุญแจเจ้าม้าลำพอง (เฟอร์รารี่) ที่เธอฝันอยากได้นี่นา

“Ferrari F8 Tributo”

“คุณให้ฉัน?”

“อ่าฮะ”

หูยยยยย สายเปย์ไปไหม นี่ไม่ใช่บาทสองบาท แต่คันละตั้งยี่สิบกว่าล้านเชียวนะ

“ให้ทำไมคะ?” เธอถามหน้าซื่อๆ

“รถเสียบ่อยไม่ใช่เหรอ”

เขารู้ได้ไง?

“ไม่เอาค่ะ”

“ทำไม” คราวนี้คนเอาแต่ใจสวนกลับเสียงห้วนจัด

“ขับไม่เป็นค่ะ” สาวเจ้าตอบทื่อๆ

“สอนให้ไหม แต่คิดค่าสอนนะ” คนอยากเสียทรัพย์เสนอตัวจนเข้าใกล้คำว่าอ่อย แววตาไม่น่าไว้ใจ

“ไม่ดีกว่าค่ะ คุณเอาคืนไปเถอะ” เธอทำท่าจะยื่นกุญแจรถคืนให้ แต่เขากลับส่ายหน้า สาดสายตาดุแกมบังคับ พร้อมขู่เป็นนัยๆ ว่าอย่าขัดใจเขา

“เอาไปใช้เหอะ อยากได้ไม่ใช่เหรอ เห็นหน้าจอมือถือมีรูปรถรุ่นนี้”

ปานระพีตาโต

เขาเห็นตอนไหน?

“อยากได้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะซื้อ หรือมีไว้ในครอบครองเสียหน่อย ก็แค่ฝันลมๆ แล้งๆ ไปงั้น”

เงินเดือนหมออย่างเธอต่อให้เก็บเป็นชาติก็ไม่รู้ว่าจะซื้อได้ไหม อีกอย่างถึงจะมีปัญญาขับ แต่ค่าน้ำมันคงบานเบอะ สุดท้ายก็ไม่พ้นต้องจอดทิ้งไว้ที่บ้าน

“ได้ไปแล้วก็อย่าขับเร็วนักล่ะ”

มหรรณพยกไหล่ รวบรัดเสียดื้อๆ เล่นเอาคนถูกมัดมือชกหน้าตึง ถลึงตาใส่

โอ๊ย! นี่เขาไม่เข้าใจหรือไง ว่าเธอไม่อยากได้ของเขา

“ได้ยินไหม บอกว่าอย่าขับรถเร็ว”

“คุณรู้ได้ไง ว่าแพรขับรถเร็ว แพรขับแค่แปดสิบเอง” คนบอกไม่ขับรถเร็วพูดแต่ไม่ยอมสบตา

การลืมตัวใช้สรรพนามสนิทสนมทำให้เขาอมยิ้ม แต่ไม่ลืมที่จะเอ่ยตอบโต้เสียงดุๆ

“แปดสิบบวกอีกเกือบห้าสิบน่ะสิ คิดว่าผมไม่รู้หรือไง ว่าใบสั่งจ่ายค่าปรับไปที่บ้านตั้งไม่รู้กี่ครั้ง”

หลังจากกล่าวจบมหรรณพก็เคี้ยวแตงกวาที่ฝานเป็นแว่นๆ เป็นเครื่องเคียงข้าวผัดแหนม ก่อนจะจ้องใบหน้างอง้ำของคนที่นั่งถือช้อนค้างไม่วางตา แล้วลอบอมยิ้ม

วาจารู้ทันนั้นทำให้อีกฝ่ายก้มหน้า เม้มปาก เหมือนเด็กแอบทำผิดแล้วถูกจับได้

แต่ชวนเอ็นดูเป็นบ้า!

“ไม่รู้ล่ะ ยังไงแพรก็ไม่เอา”

“ถ้าไม่เอาจะให้เด็กเอาไปปลูกผัก”

เธออ้าปากหวอ

เอารถคันละหลายล้านไปปลูกผักเนี่ยนะ นี่เขาประสาทหรือเปล่า!

“ไม่ก็เอาไปแยกชิ้นส่วน”

เสียงเข้มยังคงหยั่งเชิง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังดูไม่ทุกข์ร้อนเท่าที่ควร แถมยังไม่ยอมปริปากตกลงตามที่ต้องการ เขาก็เปลี่ยนมาใช้ไม้ตายปราบคนหัวดื้อ

“เอ๊ะ! หรือว่าจะไล่ไอ้คนที่จัดการเรื่องสั่งซื้อออกจากงานดีนะ โทษฐานที่มันทำอะไรไม่ถูกใจแพร” มหรรณพว่าพลางลูบปลายคางทำท่าครุ่นคิด

คนบ้า! พาลใหญ่แล้ว!

หญิงสาวเม้มปาก ถลึงตาใส่ แต่ไม่ยอมตอบโต้ บอกเป็นนัยว่า เขาจะเอาไปทำอะไรมันก็เรื่องของเขา แต่มีหรือคนชอบเอาชนะอย่างมหรรณพจะยอมรามือง่ายๆ

“คุณจำเลขาผมได้ใช่ไหม ไอ้วิชัยน่ะ มันนั่นแหละที่เป็นคนไปจัดการเรื่องรถให้ ถ้าผมไล่มันออกเมียกับลูกมันจะเป็นยังไงนะ ไหนจะพ่อแม่ที่แก่ชราของมันอีก”

โอ๊ย! จะทนไม่ไหวแล้วนะ! คนอะไรเอาแต่ใจชะมัด!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel