ตอนที่ 12 พ๊อ1
พริมายืนนิ่งอยู่หน้าประตูห้องทำงานของประธานบริษัท ใบหน้าเฉยชาของเธอไม่บ่งบอกความรู้สึกใด หญิงสาวสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกเข้าปอดลึก ๆ เพราะเกรงว่าด้านในจะมีแต่มลพิษ
มือบางผลักบานประตูให้เปิดกว้างแล้วก้าวเท้าเข้าไปในห้องด้วยจังหวะมั่นคง เธอปรายตามองแม่เลี้ยงที่นั่งเชิดหน้าอยู่บนโซฟาเล็กน้อย ก่อนละความสนใจ เเล้วมองตรงไปข้างหน้า
หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่มีร่างชายวัยกลางคนรูปร่างภูมิฐานนั่งอยู่บนเก้าอี้ รัศมีกดดันของผู้มีอำนาจแผ่ออกมาจาง ๆ ดวงตาคมเข้มดุดันจ้องมองหญิงสาวร่างเล็กที่ปล่อยให้เขารอร่วมสิบนาทีอย่างไม่วางตา คาดหวังให้อีกฝ่ายเกรงกลัว แต่สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงใบหน้าเฉยชาต่อทุกสิ่งไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้ ดวงตากลมโตนัยน์ตาหวานเหมือนผู้เป็นมารดาจ้องตอบกลับมาที่เขาอย่างไม่หวั่นเกรง
เดชา เลิศลักษณ์ ถอนหายใจออกมายาว ๆ พร้อมคิดว่า ถึงเธอจะไม่เกรงอำนาจที่เขาเป็นถึงประธานบริษัท แต่อย่างน้อยก็ควรจะกลัวเขาในฐานะบิดาไม่ใช่หรือ? ลูกสาวนอกสมรสของเขาคนนี้นับวันยิ่งต่อต้านหนักข้อขึ้นทุกวัน เห็นทีต้องทำทุกอย่างให้เด็ดขาด ปล่อยไว้นานประเดี๋ยวจะคุมไม่อยู่
“ได้ยินว่าแกลาพักร้อนหนึ่งเดือนงั้นเหรอ” เขาเลือกที่จะเป็นฝ่ายพูดก่อน เพราะถ้ารอให้บุตรสาวทักคงจะอีกนาน
“ค่ะ คุณพ่อมีอะไรหรือเปล่าคะ” พริมาถามกลับ
“เปล่า ทำงานหนัก ๆ หยุดพักผ่อนบ้างก็ดี ร่างกายจะได้ไม่ประท้วงจนเจ็บป่วย”
“ค่ะ”
“แล้วหยุดยาวแบบนี้วางแผนจะไปเที่ยวไหนหรือยัง”
“ยังค่ะ แต่ก็มีคิด ๆ ไว้บ้าง” เธอตอบตามจริง
“คุณคะ เข้าเรื่องเถอะค่ะ” คุณอรวรรณที่ไม่อยากฟังบทสนทนาระหว่างพ่อและลูกสาวเอ่ยขัดขึ้นทันที พลางมองไปที่สามีอย่างสื่อความหมาย พริมาเห็นท่าทางคนทั้งสองแล้วพลันรู้สึกไม่สบายใจ
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“แกอายุยี่สิบสี่แล้วใช่ไหม ฉันว่าจะแนะนำให้แกรู้จักกับตาฉัตร เขาเป็นลูกชายเพื่อนพ่อเอง หน้าตาหล่อเหลาการศึกษาดีครอบครัวมีฐานะ ถือว่าเหมาะสมกับแกเลยทีเดียว”
“เดี๋ยวนะคะ!” เธอยกมือหยุดคนเป็นพ่อ แล้วถามอย่างคนไม่แน่ใจว่า “นี่คุณพ่อกำลัง... จับคู่ให้พริมเหรอคะ?”
“ใช่แล้วละจ้ะ หนูพริมก็โตแล้วไม่เห็นพาใครมาแนะนำให้รู้จักสักที เราสองคนกลัวว่าหนูจะไปคว้าคนไม่รู้หัวนอนปลายเท้ามาเป็นคู่ชีวิต กลัวจะถูกหลอกน่ะจ้ะ เราเลยจะจับคู่แนะนำให้หนูพริมกับตาฉัตรรู้จักกันซะเลย อย่างไรทางนั้นก็ไม่มีใคร และเราก็รู้ภาษีเขาดี” คุณอรวรรณชิงตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มทอดสายตาอ่อนโยนมองพริมาจนเธอรู้สึกขนลุก
“ก็อย่างที่คุณอรว่า ฉันอยากเห็นแกได้คนดี ๆ มาเป็นคู่ชีวิตเลยจะจัดการเรื่องนี้ให้”
พริมารู้สึกว่าตัวเองตามพ่อของเธอกับแม่เลี้ยงไม่ทัน หญิงสาวสะบัดศีรษะเล็กน้อยแล้วทบทวนสิ่งที่ได้ยินอีกครั้ง หญิงสาวหัวเราะหยันตัวเอง เธอตวัดสายตาไม่ยินยอมมองทั้งพ่อและแม่เลี้ยงอย่างคนไม่พอใจ
“พริมว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของพริมนะคะ ชีวิตของ
พริม พริมจัดการเองดีกว่า ไม่รบกวนคุณพ่อกับคุณป้าหรอกค่ะ อีกอย่าง ถึงพริมจะไม่ได้พาใครมาแนะนำให้รู้จัก ใช่ว่าพริมจะไม่มีแฟนนะคะ”
“อะไรนะ! เธอมีแฟนแล้ว เป็นใคร ชื่ออะไร?” คุณอรวรรณถามเสียงหลงพร้อมมองคาดคั้นเอาคำตอบ คุณเดชาก็มองด้วยสายตาเช่นเดียวกัน พริมาถอนหายใจอย่างนึกรำคาญ ปากก็พูดว่า
“จะเป็นใครก็ช่างเถอะค่ะ รู้แค่ว่าพริมกับเขารักกันมากก็พอ”
“ได้ยังไง ในเมื่อเป็นคนรักหนูพริมก็ต้องพามาแนะนำให้คุณพ่อของหนูรู้จักสิ จะปิดบังไปทำไม อ๊ะ! หรือที่ว่าไม่บอกเป็นเพราะเอ่อ... คนรักของหนูพริมเป็นคนไม่มีหัวนอนปลายเท้า” ได้ยินคนดูถูกสุดที่รักของเธอทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักกันต่อหน้าแบบนี้ ความไม่พอใจที่มีเริ่มกลายเป็นความโกรธ
“ไอ้เรื่องพามาแนะนำตัวพริมพามาแน่ค่ะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ และถึงเขาจะจนจะรวยก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ สำคัญที่เรารักกันก็พอ เพราะฉะนั้นไม่เดือดร้อนให้คุณพ่อคุณป้ามาห่วงพริมในเรื่องนี้หรอกนะคะ”
“เหลวไหล!” คำตอบเสียงดังฟังชัดของบุตรสาวช่างขัดใจพ่ออย่างเขาจริง ๆ จนรวยไม่สำคัญหรือ? เรื่องเพ้อฝัน! หากไม่มีเงินจะใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้อย่างไร บุตรสาวคนนี้เลอะเลือนใหญ่แล้ว เอาละ เขาตัดสินใจแล้ว
“เลิกกับมันซะ พ่อต้องการให้แกคบกับคนที่พ่อเลือกให้”
พริมาหันขวับมองหน้าคนเป็นบิดาอย่างนึกไม่ถึง ทั้งยังไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน นี่มันพ่อดี ๆ ที่ไหนเขาทำกัน สั่งให้ลูกสาวเลิกกับคนรักทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้รู้จักฝ่ายชายเลยแม้แต่เสี้ยวเดียว!
“ไม่ค่ะ! เรื่องอื่นพริมยอมได้ แต่เรื่องนี้พริมไม่ยอม” เธอตอบเสียงแข็งยืนกรานไม่มีทางทำตามคำสั่งของบิดา
ปัง! เสียงตบโต๊ะดังก้องห้องแต่พริมาไม่สนใจ เธอใช้สายตาแข็งกร้าวมองบิดาอย่างไม่ยินยอม คุณเดชาที่เห็นท่าทางแข็งข้อรวมถึงคำตอบที่ตนไม่ต้องการฟังจากบุตรสาวพลันโมโห ตวาดกลับบอกความต้องการของตนเสียงดัง กระทั่งคำแทนตัวว่า พ่อ ยังเปลี่ยนเป็น ฉัน
“ไม่ได้! แกเป็นลูกฉัน ฉันสั่งอะไรแกก็ต้องทำ!”
“แล้วไงคะ พริมเป็นลูกพ่อแล้วยังไง ต้องทำตามที่คุณพ่อสั่งทุกอย่างเลยงั้นเหรอคะ นี่มันชีวิตพริมนะคะ ตลอดเวลาที่ผ่านมาพริมยังทำตามคำสั่งพ่อไม่มากพออีกเหรอคะ จะเอาอะไรกับ
พริมนักหนา”
อรวรรณที่เห็นพ่อลูกทะเลาะกันรู้สึกดีใจอย่างยิ่ง นานแล้วที่เธอไม่เห็นฉากแบบนี้ บอกตามตรงว่าเธอค่อนข้างมีความสุข แม้ใจจะดี๊ด๊าแค่ไหน ภายนอกก็ยังเปี่ยมไปด้วยเมตตา แทรกพูดอธิบายเพื่อหวังให้สถานการณ์แย่ลง เอ๊ย ดีขึ้น!