โง่งม ที่ 3 เก็บคนเลวไว้ข้างตัว
โง่งม ที่ 3
เก็บคนเลวไว้ข้างตัว
เลวมาเลวกลับไม่โกง
“นี่เจ้าค่ะฮูหยิน เอกสารทั้งหมดที่ท่านต้องการ”
เหาอิงกุลีกุจอหอบเอกสารปึกใหญ่มาเต็มสองมือ จากนั้นจึงค่อยๆ วางลงบนโต๊ะอ่านตำรา ใบหน้าของนางยังมีรอยฟกช้ำม่วงเขียวจากการถูกตบอย่างเห็นได้ชัดเจน
‘ข้าสมควรถูกตบตีแล้ว’
ฮูหยินไต้หรงนั้นไม่ใช่คนนิสัยดุร้าย แต่ที่ต้องลงไม้ลงมือเพราะตัวนางเองไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง บังอาจพูดจาสามหาวหยาบคาย บังอาจรับสินบนจากอนุภรรยาเฉินเพื่อกลั่นแกล้งเจ้านายของตนเองราวกับคนโง่เขลา นางจึงถูกปราบจนราบคาบ เลิกจองหอง และเลิกคิดว่าตนอยู่เหนือกว่าผู้เป็นนาย
เจ้านายแบบนี้สิที่นางจะฝากชีวิต และร่วมหัวจมท้ายให้ถึงที่สุด เหาอิงชอบแววตามุ่งมั่นเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ปากคอเราะรายจิกกัดได้อย่างเจ็บแสบ เจ้าคิดเจ้าแค้น และ เจ้าแผนการ
น่าแปลกหลายเดือนมานี้เหตุใดฮูหยินจึงเก็บงำความสามารถเหล่านี้เอาไว้เสียมิดชิด แสดงออกเพียงด้านที่อ่อนแอ เจ้าน้ำตา และคอยก้มหน้ายอมแพ้ในโชคชะตา
หรือว่านี่จะเป็นหนึ่งในแผนการกันนะ...
ฮูหยินคงลองใจข้า แต่ข้ากลับทำให้ฮูหยินผิดหวัง ข้านี่ช่างน่าสมเพชเสียจริง มีเจ้านายที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจกลับมองไม่เห็นคุณค่า ดันเผลอคิดอยากไปเป็นสาวใช้ของอนุเฉินและอนุเยี่ย ทั้งที่อนุสองคนนั่นไม่มีสิ่งใดเทียบเท่าฮูหยินได้เลย
ความงาม มันสมอง และ ความร่ำรวย นี่คือสิ่งที่เจ้านายของนางมีพร้อม เจ้านายที่จะทำให้นางเชิดหน้าชูคอที่ได้รับใช้อย่างไม่อายใคร
เหาอิงครุ่นคิดขณะมองเถียนไต้หรงกำลังไล่สายตาอ่านเอกสารเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยิบเอกสารสำคัญออกจากม้วนกระดาษ แล้วแทรกเข้าไปในกองเอกสารเหล่านั้นอย่างกลมกลืน
“ได้เอกสารครบตามที่ข้าต้องการ”
อรินดาในร่างเถียนไต้หรงพยักหน้าน้อยๆ อย่างพึงพอใจ สิบวันมานี้นางเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ฝึกร่างกายให้คุ้นชินกับการรับประทานอาหารปริมาณมากขึ้นโดยไม่อาเจียนออก เน้นรับประทานเนื้อสัตว์ประเภทโปรตีนและผักที่มีประโยชน์ นอนหลับพักผ่อน ทำสมาธิให้สมองปลอดโปร่ง และดื่มโอสถราคาแพงระยับที่หมอจัดหามาให้วันละสามเวลา อีกทั้งยังบำรุงด้วยโสมพันปี และชิ้นส่วนของสัตว์หายากต่างๆ นำมาเคี่ยวต้มแล้วดื่มเพื่อเพิ่มปราณในร่างกาย ปรับสมดุลหยินหยาง
ลุกเดินขยับร่างกายให้เลือดลมสูบฉีด แกว่งแขนตามแบบฉบับที่ผู้สูงอายุในชาติก่อนนิยมเพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองบริเวณใต้รักแร้
ร่างกายของนางดีวันดีขึ้น ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล รู้สึกเหนื่อยน้อยลง หลับสนิทมากขึ้น ร่างกายเริ่มรู้สึกอยากอาหารโดยไม่ต้องฝืน
ซึ่งนับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี
“พ่อบ้านสงสัยอะไรหรือไม่”
“ไม่เลยเจ้าค่ะฮูหยิน ข้าบอกพ่อบ้านตามที่ท่านบอกทุกคำ พ่อบ้านจึงส่งเอกสารให้โดยไม่ซักถามอะไรเลยเจ้าค่ะ”
“ดีมาก”
ไต้หรงหยักยิ้มที่มุมปาก เอกสารเหล่านี้เป็นเอกสารการค้าทั้งหมดภายใต้การดูแลของตระกูลอู๋และตระกูลเถียน ซึ่งเก้าในสิบส่วนเป็นของตระกูลเถียน เพราะตระกูลอู๋เปรียบดั่งปลิงที่คอยเกาะกินสูบเลือดสูบเนื้อจากนางอย่างน่าสมเพช
หากไม่มีทรัพย์สินของตระกูลเถียน มีหรือที่พวกมันจะลอยหน้าชูคอใช้จ่ายมือเติบเช่นทุกวันนี้ได้
เอกสารการส่งมอบสินค้า เอกสารการรับเงิน และเอกสารการซื้อขายเหล่านี้ต้องได้รับการประทับตราจากผู้ถือครอง ซึ่งในเวลานี้ก็คือ ‘อู๋ซั่วกู่’ สามีปลากระโห้ของนางนั่นเอง
“ว่าแต่บอกพ่อบ้านไปเช่นนั้น ฮูหยินจะไม่ยิ่งดูแย่ในสายตาของพ่อบ้านและเหล่าสาวใช้หรือเจ้าคะ”
เหาอิงเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะเอกสารเหล่านี้ปกติแล้วพ่อบ้านจะเป็นผู้นำไปให้นายท่านซั่วกู่ประทับตรา ทว่าผู้เป็นเจ้านายสาวกลับสั่งให้นางไปขอเอกสารเหล่านี้โดยอ้างว่า
‘ได้โปรดเถอะเจ้าค่ะท่านพ่อบ้าน ได้โปรดช่วยฮูหยินของข้าสักครั้งเถอะนะเจ้าคะ นับจากนายท่านมีอนุภรรยาทั้งหกก็ไม่เคยมาหาฮูหยินที่เรือนอีกเลย ฮูหยินนอนร้องไห้ด้วยความคิดถึงนายท่านแทบทุกคืนจนซูบผอม จึงอยากอาศัยช่วงเวลาที่นำเอกสารเหล่านี้ไปให้นายท่านประทับตราเพื่อเป็นการผูกสัมพันธ์พูดคุยฉันสามีภรรยา และเพื่อที่จะได้เห็นหน้าสามีเพื่อคลายความคิดถึงเจ้าค่ะ’
คำพูดนี้เองที่ทำให้พ่อบ้านยอมมอบเอกสารทั้งหมดแก่นางโดยไม่อิดออด กระนั้นเหาอิงกลับขัดใจที่เห็นพ่อบ้านแค่นหัวเราะเหยียดหยันราวกับกำลังดูถูกดูแคลนเจ้านายของตน
“เช่นนั้นแหละดีแล้ว ให้ข้าเป็นคนโง่ที่น่าสมเพชในสายตาพวกมันไปเถิด เจ้าอย่าได้ร้อนใจไปเลยเหาอิง เอ้านี่รับไปเสียสิ...”
พูดพลางหันไปหยิบแหวนทองส่งให้สาวใช้ เหาอิงเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง รีบแบมือรับแหวนทองที่เจ้านายสาวหย่อนลงมา
“ทำงานให้ดี รูดปากให้สนิท เจ้าจะได้มากกว่านี้หากตาไวหูไวแต่ไม่ปากไว”
“จะ...เจ้าค่ะฮูหยิน ข้าจะตั้งใจทำงานและซื่อสัตย์ต่อนายหญิงยิ่งกว่าชีวิตเลยเจ้าค่ะ”
เหาอิงรีบเก็บแหวนราวกับกลัวเจ้านายจะทวงคืน ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอย่างประจบ
“อ้อ... หาสาวใช้ที่ทำงานส่วนกลางให้ข้าสักคนสิ หาคนที่โลภและปากหนัก บอกไปว่าหากทำงานดีข้ามีรางวัลให้อย่างงาม”
ระบบการจัดการสาวใช้และบ่าวในเรือนสกุลอู๋นั้นเหมือนกับเรือนทั่วๆ ไป คือมีสาวใช้ประจำแต่ละเรือนคอยดูแลใกล้ชิดนายของตน และมีสาวใช้ส่วนกลางที่รับหน้าที่ดูแลโดยรวมทั้งหมด
ซึ่งสาวใช้ส่วนกลางนี่แหละ ที่จะช่วยเป็นมือเป็นเท้าคอยปั่นป่วนเรือนสกุลอู๋ให้ร้อนเป็นไฟ
“ได้เลยเจ้าค่ะ ข้ามีสหายสนิทอยู่คนหนึ่ง รับรองว่าปากหนักและโลภเหมือนข้าเลยเจ้าค่ะ นางกับข้าเกิดและเติบโตมาด้วยกัน รับรองว่าไว้ใจได้เจ้าค่ะฮูหยิน”
“เช่นนั้นยิ่งดี”
เถียนไต้หรงหยักยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก สมองของนางกำลังครุ่นคิดว่าจะเริ่มแผนปั่นประสาทเหล่าอนุภรรยาทั้งหกอย่างไรดีจึงจะสนุก
อาจเป็นโชคดีก็ว่าได้ ที่ชาติก่อนนางคืออรินดาแม่ค้าขายข้าวมันไก่ที่ชื่นชอบการดูซีรีส์ อ่านนิยายทุกแนว ไม่ว่าจะเป็นนิยายรัก วาย สืบสวน ผี ฆาตกรรม หรือแม้แต่อิโรติก สมองจึงเต็มไปด้วยจินตนาการที่พลุ่งพล่าน ทำให้รู้สึกสนุกที่จะได้เริ่มลงมือทำอะไรเลวๆ เพื่อเป็นการแก้แค้นคนเหล่านี้
เลวมา! เลวกลับ! ไม่โกง!
“น่าจะได้เวลาแล้ว แต่งหน้าให้ข้าหน่อยสิ แต่งให้ดูโทรม ป่วย ราวกับใกล้จะตาย”
“เจ้าค่ะฮูหยิน”
เหาอิงรับคำแข็งขันโดยไม่ซักถาม พยายามหูตาไวแต่ปากไม่ไวเพื่อประจบเจ้านาย เถียนไต้หรงเพียงแค่เหลือบมองกิริยาท่าทางของสาวใช้แล้วไม่พูดอะไรออกมาอีก นั่นเพราะนางรู้ดีว่าเหาอิงนั้นเป็นหญิงเห็นแก่ตัว ขี้อิจฉา และชอบยกตนข่มคนอื่น แต่เป็นคนฉลาด ว่องไว ทำงานดี ซื่อสัตย์เหมือนสุนัข หากซื้อใจได้เมื่อไหร่ถึงขั้นยอมทำงานจนตัวตาย
คนแบบนี้แหละเหมาะที่จะช่วยนางทำเรื่องชั่วๆ หากหาสาวใช้ที่จิตใจดีกว่านี้ ก็เกรงว่าจะพามาแปดเปื้อนด่างพร้อย สู้ใช้คนที่มันเปื้อนและถูกย้อมด้วยสีเทาสีดำอยู่ก่อนแล้ว ย่อมใช้งานได้ถูกที่ถูกเวลา