บทที่ 2 เธอ..ผู้ไม่เคยเชื่อฟัง
ระยะเวลาแค่เดือนเศษ ก็ทำให้พนักงานในนี้รู้จักเธอไปมากกว่าครึ่ง ด้วยความร่าเริงบวกกับนิสัยไม่ถือสาใคร ไม่เคยโกรธ และมีกาละเทศะต่อผู้ที่มีอายุมากกว่าอยู่เสมอๆ มันทำให้เธอดูน่ารักและมีเสน่ห์
" ทำไมวันนี้คนเยอะจังเลย "
เสียงใสบ่นอุบ เหลือบตามองกระดาษปึกใหญ่ที่ถูกเสียบเป็นตับๆ รอการสะสางโดยการดึงไปทีละใบ สลับกันกับคนชง
" เทเรน่า..."
" หืม "
" ฉันปวดฉี่ ขอตัวไปฉี่ก่อนได้ไหม อั้นไว้นานแล้ว "
" เร็วๆนะ ฉันทำคนเดียวไม่ทัน "
" โอเค.."
น้ำเสียงของทั้งคู่บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด ทำชายหนุ่มซึ่งเป็นพนักงานชายในบาร์อีกคนเผลอยิ้ม เขามองตามแผ่นหลังของเธอจนลับตาแล้วส่ายหน้า
แต่แล้ว ..
กลับต้องชะงัก เพราะถูกคนข้างๆตะเพิดใส่
" มองอะไรยะ! "
พร้อมหรี่ตามองแสร้งหาเรื่อง ทั้งคู่แยกเขี้ยวใส่กัน ก่อนต่างฝ่ายต่างหันไปสนใจงานของตัวเอง ต่อ ขี้เกียจจะเถียงกัน เพราะมันเป็นสิ่งที่ประโยชน์
ไศลาสาวร่างเล็ก อาจจะเล็กที่สุดในบรรดาพนักงานด้วยกันก็ว่าได้ เพราะพวกเขาเหล่านั้นไซส์ยุโรป กึ่งเดินกึ่งวิ่งมือกุมท้องมายังทางเดิน แล้วหยุดตรงหน้าห้องน้ำผู้หญิง ทว่าไม่ทันข้ามผ่านขอบประตู เสียงแว่วจากข้างในดังออกมาให้เธอต้องชะงักเสียก่อน
" เมื่อไหร่คุณโครทิสจะเรียกฉันสักทีนะ อุตส่าห์ดูแลตัวเอง หมดเงินไปก็หลายบาท สุดท้ายได้แค่นอนกับแขกที่มาหาเขาตลอดเลย ฉันล่ะเบื่อ "
" เฮอะ โธ่ๆ ช่างฝันหวาน ฝันไปไกลนะยะหล่อน ระดับคุณโครทิสน่ะ เขาถนัดแต่เปิดซิงสาวๆ สวยแต่เฟะข้างในอย่างหล่อนน่ะ คงได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ "
" แกก็ด้วยล่ะน่า"
" หนอย..ยัยนี่ "
ซึ่งทั้งน้ำเสียง และถ้อยคำวาจาเหล่านั้น มันคงไม่เหมาะสมกับเวลา หากเธอจะโผล่หน้าเข้าไป
" โอ้ย แล้วจะทำยังไงล่ะทีนี้ ฉี่จะราดอยู่แล้ว "
เมื่ออั้นไม่ไหว และทางข้างหน้ามันไม่ใช่สถานที่ของเธอ เธอจึงเลี่ยงไปทางอื่น ยอมเดินไปไกลอีกสักหน่อย เพื่อความสบายใจกว่า
" ชิ อยู่ยากจริงๆนะที่นี่ "
หลังจากทำธุระเสร็จ ออกมาล้างมือ ในขณะสายตาคมโตส่องไปยังกระจกบานใหญ่ตรงหน้า ตามนิสัยเคยชินคือการสำรวจตัวเองให้ดูดีก่อนจะเดินออกไป เสียงนี้กลับหวนกลับมากวนใจเธออีก
' ก็นอกจากว่า เธอจะทำเรื่องใหญ่ จนเขาเรียกไปฆ่าน่ะสิ! รับรอง...ได้เจอก่อนตายแน่'
' ระดับคุณโครทิสน่ะ เขาถนัดแต่เปิดซิงสาวๆ สวยแต่เฟะข้างในอย่างหล่อนน่ะ คงได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ '
ทว่าหญิงสาวกลับสะบัดหน้าหนีไล่ความคิดของตัวเอง
" จะบ้าหรือไศลา เหลวไหลน่า .."
กับหัวคิ้วขนดกที่ขมวดเข้าหาจนเป็นปม
เธอเดินอาดๆทุบกำปั้นของตัวเองมาตลอดทาง บ่งบอกในหัวกำลังใช้ความคิดหนัก หลายคำพูดวนเวียนเต็มไปหมด และเกือบจะใจลอยไปไกลแล้ว หากไม่เดินชนแผงอกของใครบางคนเข้า ที่อยู่ๆก็โผล่ออกมาจากหลืบมุมมืด
ปึก!
" โอ้ย! "
และคงมีแต่เธอที่ร้องเสียงหลงพร้อมกับเซถอยหลังแทบจะล้ม ถ้าไม่มีมือใหญ่คว้ามาดึงไว้เสียก่อน ในขณะเขายังคงยืนนิ่งไม่สะท้กสะท้านอยู่ที่เดิม ต่างกันแค่ช่วงบนที่โน้มลงรับร่างบางไว้เท่านั้น
" เดินยังไง? "
พร้อมถามเสียงเรียบ กับคิ้วหนาเลิกขึ้น
บุคคลไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต ครั้งแรกของเขาสามารถตราตรึงดวงตาคมโตของเธอให้อยู่กับที่ได้ เพียงแค่คำว่า
' เดินยังไง? '
มันคือคำถามบ่งบอกถึงความรำคาญที่แฝงมากับคำถาม ด้วยท่าทางที่นิ่งเฉย สีหน้าเขาเรียบสนิท ผู้ชายคนนี้.. ใช้ความเย็นชาเป็นเกราะคอยคุ้มกันตัวเองได้อย่างน่าทึ่งมาก เพียงแค่ดวงตาคู่นั้นมอง ถ้าเผลอไปสบตาด้วย ใครก็ตามที่กำลังจะกดขี่เขาด้วยคำพูด มักจะลืมเลือน..มีแต่แพ้กับแพ้ทั้งนั้น
แต่แล้ว...
ภาพมโนของไศลาเหล่านั้นกลับแตกสลายภายในพริบตา เมื่อถูกเขาปล่อยมือ และเธอล้มลงกับพื้นไม่เป็นท่า
พลั่ก!
" โอ้ย นี่คุณ..." ส่วนเขาหมุนตัวเตรียมจะเดินต่อ ทว่า..
" เดี๋ยว! "
" หืม.."
" คุณเดินชนฉันก่อนนะ! "
เพราะคำบอกเล่าราวกับท้าทายนี้ทำเขาต้องหยุดฟัง ทว่า เป็นฝีเท้าเท่านั้นที่ชะงัก หากแต่แผ่นหลังกว้างยังหันให้เธออยู่
" หึ.." กับเสียงแค่นหัวเราะในลำคอ
"ฉันเหรอ? "
และเหมือนกับทำให้ไศลาคิดผิด ที่เลือกยื้อเขาเอาไว้
" ชะ ใช่สิ คุณเดินออกมาจากมุมนั้น ส่วนฉันเดินมาทางตรง.. "
เธอเร่งอธิบาย ด้วยสีหน้าไม่ยอมอ่อนข้อให้ แต่เขากลับมองว่าเธอนั้นเจ้าเล่ห์ ทำเธอต้องหยุด ราวกับนึกอะไรออก
" เดี๋ยวนะ..ทางนั้น นั่นมันประตู ...ห้องวีไอพีไม่ใช่เหรอ? แย่แล้วไศลาเอ๊ย..." กับประโยคทิ้งท้ายกระซิบกับตัวเอง
" นี่คือเวลาทำงานไม่ใช่หรือ.."
" คะ? "
" เธอคงเป็นพนักงานใหม่ของที่นี่สินะ ถึงไม่รู้จักฉัน " เขาหรี่ตาถาม
" เปล่าสักหน่อย ฉันมาทำงานได้เดือนกว่าแล้วนะ "
" ก็แค่เดือนกว่า อย่าบอกนะว่ามาหาที่อู้"
" เอ๊ะ! .."
" ขอเตือนนะแม่สาวต่างด้าว หากฉันเจอเธอในสภาพนี้เป็นครั้งที่สอง สาบานได้เลย เธอจะไม่ได้ใส่ไอ้ป้ายเหล็กนี่ "
เขาไม่ขู่เปล่า กลับใช้นิ้วใหญ่จับบัตรพนักงานตรงหน้าอกข้างขวาของเธอ พร้อมเขย่ามันเบาๆ
" มิสไศลา พนักงานเสิร์ฟ .."
".....!!! "
เพราะมัวแต่อึ้ง จึงไม่มีโอกาสได้ตอบโต้เขาสักนิด เขากลับเดินเร็วออกไปเสียก่อน ปล่อยให้เธอยืนมองจนแผ่นหลังนั้นลับตาฝ่ายเดียว และปฏิเสธไม่ได้เลยว่า น้ำหอมที่โชยมาจากตัวเขานั้น มันช่างทำให้สมองเธอเบลอเหลือเกิน
" อะไรกันเนี่ย..."