ตอนที่ 3 สงครามห้องยา
เธอยิ้มหวานส่งให้หมอภาสที่ยืนแข็งทื่อและทำตัวไม่ถูกกับอารมณ์ของอลิศที่เปลี่ยนไปรวดเร็วแต่เมื่อนิศาเดินเข้ามาและอลิศหันไปทักทายเธอเขาจึงรีบขยับแว่นเพื่อปรับอารมณ์อีกครั้ง
“พี่นิศา ไม่เฝ้าห้องยาเหรอคะมาทำอะไรที่นี่คะ”
“ไม่ใช่ธุระของเด็กฝึกงานที่จะมาถาม”
“อ้อ อลิศไม่ได้จะถามแบบนั้นค่ะ ก็ก่อนหน้านี้มันเคยมีปัญหาว่ายาที่พวกอลิศจัดเอาไว้ก่อนส่งไปไม่มีปัญหาแต่พอส่งไปถึงเค้าน์เตอร์กลับถูกสับเปลี่ยน อลิศก็เลยกลัวโดนแกล้งอีกน่ะค่ะ หมอภาสเองก็พึ่งเตือนว่าผิดพลาดสามครั้งในหนึ่งสัปดาห์ อลิศไม่อยากให้มันผิดพลาดบ่อย โดยเฉพาะเคสผู้ป่วยของคุณหมอภาส ไม่ต้องห่วงนะคะคุณหมอจากนี้อลิศจะดูแลเรื่องยาให้คุณหมอด้วยตัวเองค่ะ จะได้ไม่ผิดพลาด”
“นี่เธอ….”
“ขอตัวก่อนนะคะผู้ป่วยคงรอยาแล้ว รออลิศนะคะหมอภาส”
อลิศรีบหันไปและเบ้ปากเพราะความเมื่อยที่พยายามยิ้มนั้นทันทีพร้อมกับรีบเดินหนีไปทันทีก่อนที่ใครระหว่างสองคนนี้จะพูดอะไรขึ้นมา
แต่ก็ไม่มีเพราะหมอภาสเองกำลังตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าแต่นิศาพยายามเก็บอาการเพราะกลัวว่าหมอภาสจะมองเธอไม่ดี
“หมอภาสคะ อย่าไปฟังนะคะเด็กนั่นพูดจาเรื่อยเปื่อย”
“คุณมีธุระอะไรที่นี่งั้นเหรอคุณนิศา”
“เอ่อ…นิศาแค่…”
“ผมขอตัวก่อนนะ”
“หมอภาสคะ คือว่าวันอาทิตย์นี้คุณหมอพอจะ…”
“ไม่ว่างผมเข้าเวรทั้งวัน ขอตัวก่อน”
“เอ่อ….พี่ภาสคะ….”
หมอภาสยืนนิ่งและหายใจเข้าจนไหล่ยกก่อนจะหันมามองหน้าเภสัชกรสาวอีกครั้ง
“อยู่ที่โรงพยาบาลผมเป็นแพทย์ กรุณาเรียกให้ถูกหากยังแยกแยะไม่ได้ก็อยู่ในที่ที่ตัวเองรับผิดชอบและพยายามอย่าให้มีเรื่องผิดพลาดบ่อย ๆ ผมไม่อยากเขียนรายงานหรอกนะ”
“แต่ว่าเรื่อง…”
“ผมบอกไปแล้วไงว่าไม่อยากฟังคำแก้ตัว ไปแก้ไขเสียให้ถูกต้องที่สำคัญเภสัชอย่างคุณไม่ได้มีหน้าที่อยู่ตรงนี้ ขอตัวก่อน”
หมอภาสเดินกลับไปที่ห้องแล้วโดยไม่ได้ใส่ใจนิศาอีก เธอยืนตัวสั่นเพราะความโกรธและมองแผ่นหลังที่เย็นชานั้นจนเขาเปิดเข้าไปในห้องตรวจอีกครั้ง
"นังเด็กฝึกงานนั่น!! เพราะแกคนเดียวทำให้พี่ภาสตำหนิฉัน"
อลิศเดินเข้ามาในห้องคลังยา ดูเหมือนว่านิวจะยังไม่กลับมาเธอจึงเอารายชื่อยาที่หมอเขียนมาให้และรีบจัดเพื่อจะนำส่งไปยังห้องตรวจเพราะเธอดันปากไวพูดไปแล้วว่าจะนำไปส่งด้วยตัวเองในเวลาสิบนาที
“ให้ตายเถอะ ถ้าไม่ใช่เพราะยัยป้านิศานั่นโผล่ไปก่อนคงไม่ต้องปากไวรับปากเอาไปเองแบบนี้ อลิศเอ้ย!!”
เธอจัดยาอย่างระมัดระวังแม้ว่าลายมือคุณหมอจะอ่านยากไปหน่อยแต่เพราะเธออยู่กับเรื่องแบบนี้มานานเพราะที่บ้านเธอเป็นโรงงานผลิตเครื่องมือแพทย์และส่งออกเกี่ยวกับเวชภัณฑ์เหล่านี้ดังนั้นเธอจึงเลือกเรียนสาขานี้ ไม่นานเธอก็จัดยาจนเสร็จและกำลังเดินออกจากห้องยาแต่ก็ต้องเจอกับนิศาที่เดินเข้ามา
“นั่นเธอจะเอาไปไหน”
“เอาไปให้คุณหมอค่ะ”
“เอามานี่ฉันจะไปเอง”
“ไม่ได้ค่ะพี่นิศา เพื่อป้องกันความผิดพลาดไม่ให้เกิดขึ้นอีกอลิศจะเอาไปให้คุณหมอเองค่ะแล้วถ้าหากว่ามันผิดอลิศจะได้ถูกตำหนิด้วยตัวเองพี่นิศาจะได้…”
“บอกให้เอามานี่”
เธอดึงถาดยาออกไปจากมือของอลิศทันทีแต่อลิศเองก็ไม่ยอมเพราะเธอรู้อยู่แล้วว่านิศาโกรธมาจากข้างนอกและไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่
“พวกคุณทำอะไรกัน!!”
นิศาหันไปและรีบปล่อยมือทันที อลิศที่แย่งถาดยากับเธออยู่ไม่ทันระวังเธอจึงล้มไปชนคนที่ตะโกนอยู่ข้างหลังทันที
“โอ๊ย!!…ขอโทษค่ะ”
“หมอภาส มีธุระอะไรที่ห้องยาคะ”
นิศาถามด้วยน้ำเสียงตกใจและรีบตั้งสติในขณะที่อลิศกำลังก้มตรวจเช็กยาที่จัดเอาไว้เมื่อครู่นี้ว่าอยู่ครบหรือไม่ หมอภาสที่โกรธจัดเมื่อเห็นพวกเธอทะเลาะกันยังคงตะเบ็งเสียงทำให้อลิศตกใจเพราะลืมไปเลยว่าเขาเข้ามาอยู่ในนี้แล้ว
“ผมถามว่า เกิดอะไรขึ้น!!”
“พี่ภาสคะ ไม่มีอะไรค่ะ”
“ญานิศา!! ผมบอกแล้วว่าที่นี่…”
“ตายจริง!! ยาแก้แพ้อีกตัวตกไปไหนแล้วล่ะเนี่ย แย่จังเลยคงตกตอน….เอ่อ…ขอโทษค่ะ”
“อยู่นี่!! วันหลัง ก็หัดระวังเอาไว้บ้างนะ”
สายตาของนิศาที่มองมาที่อลิศยังคงไม่เป็นมิตรเหมือนเดิมเมื่อส่งถุงยาที่ถือในมือให้อลิศ เธอรับมาและยิ้มให้นิศาด้วยความดีใจและโล่งใจ
“เฮ้อ โล่งอกไปที ขอบคุณนะคะพี่นิศา แต่ถ้าพี่นิศาไม่มาแย่งถาดยานี้เพื่อจะเอาไปให้หมอภาสเองมันก็ไม่มีปัญหาแบบนี้หรอกค่ะ”
นิศาแทบอยากจะฉีกตัวของอลิศกินตรงหน้าหากว่าหมอภาสไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น
“ฉันไม่ได้จะแย่ง ก็แค่…ไม่อยากให้มันผิดพลาดอีก…ก็เลยจะเอามาตรวจแต่เธอ…”
“แต่เมื่อกี้พี่ไม่ได้พูดแบบนี้ พี่บอกว่าพี่จะเอาไปให้….”
“พอที!! คุณจัดยาเสร็จหรือยัง”
“เสร็จแล้วค่ะ”
“ตามมา”
“ค่ะคุณหมอ….พี่นิศาคะ คุณหมอเรียกแล้วขอตัวก่อนนะคะ”
นิศายังกำหมัดแน่นและยืนตัวสั่นอยู่เมื่ออลิศเดินตามหมอภาสออกไปเธอปิดประตูและทำท่าโล่งใจที่ออกมาจากในห้องนั้นได้และมองไปที่ถาดยาที่จัดเสร็จแล้วจนเดินชนหลังของหมอภาสอีกครั้งเพราะเธอไม่นึกว่าเขาจะหยุดเดิน
“คุณจะก้มดูอะไรนักหนา เดินไม่มองทางแบบนี้ไงถึงได้มีเรื่อง”
“ขอโทษค่ะ ก็แค่ดูให้แน่ใจเท่านั้นไม่อยากให้ผิดพลาดอีกนี่คะ”
“เอามานี่ ไม่ต้องตรวจแล้ว”
“งั้นอลิศขอตัว…”
“เธอก็ตามมาด้วย”
อลิศทำหน้างงแต่ก็ตามเขาเข้าไปที่ห้องด้วย ไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะโดนอะไรอีกเพราะเขาเข้าไปจังหวะที่เธอกำลังมีเรื่องกับนิศาอยู่พอดี
“เกิดอะไรขึ้น”
“คะ?”
“ผมรู้ว่าคุณเข้าใจที่ผมถาม เล่ามา”
“ก็…อย่างที่คุณหมอเห็นคะ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น”
“หมายความว่ายังไง”
“อลิศจัดยาเสร็จก็จะนำมาส่งแต่ว่าพี่นิศาบอกว่าจะเอามาให้คุณหมอเองแล้วเธอก็เข้ามาแย่งถาดยาและคุณหมอก็เข้ามาเห็นค่ะ”
“เกิดเรื่องแบบนี้บ่อยแค่ไหน”
“ไม่เคยค่ะ วันนี้เป็นวันแรก”
“นี่คือยาที่คุณจัดมาตามที่ผมเขียนงั้นเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
เขานั่งตรวจดูยาที่เธอจัดมาในถาดซึ่งถูกต้องแต่มีอยู่ตัวหนึ่งที่เขาดึงขึ้นมา
“นี่มันยาแก้แพ้อากาศ ไม่ใช่ยาแก้ผดผื่นคัน”
“ว่ายังไงนะคะ ขออลิศดูหน่อยสิคะ”
เขายื่นยาที่ผิดพลาดนั้นมาดูใกล้ ๆ และอลิศเองก็แน่ใจว่าตอนที่เธอจัดยาทุกอย่างตามเอกสารที่หมอภาสให้เธอจัดไม่พลาดเพราะเธอรู้ว่ายาแต่ละอย่างใช้ไม่เหมือนกันแม้ว่าจะมีสีเดียวกันก็ตาม
“เป็นไปไม่ได้”
“มีอะไรจะแก้ตัวอีกไหม ผมคิดว่าเด็กฝึกงานไม่ควรจะมาทำงานให้ห้องปฏิบัติการที่ต้องใช้ความชำนาญการสูงแบบนี้นะ ผมจะย้ายพวกคุณไปอีกแผนกหนึ่งน่าจะเหมาะกว่า ผมไม่อยากมานั่งระแวงเรื่องนี้อีก ชีวิตผู้ป่วยมันสำคัญกว่าการที่จะเอามาเสี่ยงกับเรื่องนี้”
“คุณหมอคะ”
“คุณกลับไปเถอะ ยานี้ผมไม่ได้จะเอาให้ผู้ป่วยหรอก ผมก็แค่จะทดสอบคุณเท่านั้น”
“คุณหมอหมายความว่ายังไงคะ นี่คุณหมออยากจะทดสอบเหรอคะ คิดว่าพวกอลิศเป็นตัวถ่วงเป็นคนไม่มีความรู้และพัฒนาไม่ได้ แต่ไม่ได้ฟังเหตุผลเลยงั้นเหรอคะ คุณเองต่างหากที่เอาแต่ดูถูกเด็กฝึกงานจนหลับตาและไม่มองปัญหาที่เกิดขึ้นจริง ๆ”
“นักศึกษา!!”
เขาตะคอกเธออีกครั้ง อลิศยอมเงียบแต่สีหน้าดื้อดึงนั้นไม่มีทีท่าว่าจะยอมเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
“ยาแก้แพ้ชุดนี้ ถุงนี้ไม่ใช่ยาที่อลิศหยิบมาค่ะถ้าคุณหมอพร้อมที่จะฟังอลิศก็จะอธิบายให้คุณหมอฟังค่ะ”