ตอนที่ 1 ที่บ้านสอนมาแบบไหน
โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง / ห้องจัดยา
“นี่มันสองอาทิตย์แล้วนะ!! ถ้าพวกคุณยังจัดยาผิด ๆ ถูก ๆ ให้ผู้ป่วยแบบนี้ผมคงต้องพิจารณาเรื่องคุณสมบัติการผ่านงานของเด็กฝึกงานชุดนี้สักหน่อยแล้วนะคุณหนิง”
“ขอโทษจริง ๆ ค่ะคุณหมอภาส แต่ว่ายาชุดนี้….”
“ผมต้องการให้แก้ไขไม่ใช่แก้ตัว อีกสามนาทีหากผู้ป่วยของผมยังไม่ได้รับการแก้ไขผมจะส่งชื่อคุณเข้าห้องพิจารณาด้วย”
“แต่คุณหมอคะ”
“ผมไม่ได้ขอความคิดเห็นจากคุณ นักศึกษา…เอาเวลาจะแก้ตัวรีบไปจัดการแก้ปัญหาก่อนเสียเถอะ”
"อริศรา" หันไปมองตามรองศาสตราจารย์และอาจารย์แพทย์แผนกศัลยกรรมสมองที่ย่ำเท้าด้วยความหงุดหงิดออกไปจากห้องคลังยาที่พวกเธอมีหน้าที่ดูแลอยู่ พวกเธอเป็นเพียงนักศึกษาปีสี่ที่มาฝึกงานในโรงพยาบาลนี้ได้สองสัปดาห์แล้ว
“พี่ขอโทษจริง ๆ นะที่ต้องมาโดนอาจาย์หมอภาสดุเอาทั้ง ๆ ที่…”
“พี่หนิงรีบเปลี่ยนยาก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวจะถูกดุอีก”
“จริงด้วยสิ พี่รีบไปเปลี่ยนก่อนนะ”
“อริศรา" หรืออลิศ และ "อุษมา" หรือนิว ถอนหายใจยาวและนั่งลงที่โต๊ะจัดยาอีกครั้งเมื่อทุกอย่างสงบลงไป แม้ว่างานจัดยานี้จะไม่ใช่หน้าที่ของพวกเธอโดยตรงเพียงแค่มาช่วยยกของไปให้เจ้าหน้าที่ด้านนอกเท่านั้นแต่วันนี้พวกเธอดันเจอกับคุณหมอที่ดุที่สุดที่ไม่อยากเจอ “คุณหมอภาณุวัฒน์” หรืออาจารย์หมอภาสที่พวกเธอเรียกกัน
“ซวยอะไรแบบนี้วะเนี่ย ความผิดของยัยจอยกับยัยแพนแท้ ๆ ที่มาจัดยาเอาไว้ทำไมฉันต้องมาซวยแทนสองคนนั้นด้วย”
“จะอ้าปากเถียงก็ยังไม่ให้โอกาสได้อธิบายเลย ช่างเถอะ เขาเป็นหมอนี่ว่าแต่แกไปสืบให้ฉันหรือยังว่าหมอกิตเขา ออกเวรตอนกี่โมงอ่ะนิว”
“แหม ๆๆ รีบเลยนะทำไมแกไม่เดินเอาไปให้ในห้องเขาเลยล่ะ”
“ทำแบบนั้นก็รบกวนเขาแย่สิ ถึงเขาจะเป็นเพื่อนของพี่รวิศ แต่ฉันมาที่นี่ในฐานะเด็กฝึกงานนะ”
“อลิศเอ๊ย มีโอกาสตั้งมากมายดันไม่คว้าเอาไว้ ฉันไปดูมาแล้วหมอกิตเลิกงานตอนหกโมงเย็น แกก็ไปที่ห้องพักของเขาก็ได้ เอานี่ไปด้วยรายงานการจ่ายยาของหมอกิตวันนี้ ข้ออ้างไง”
“แก…ฉันว่างานเภสัชนี่ไม่เหมาะกับฉันเลยว่ะฉันไม่ค่อยชอบเลย”
“แกไม่ชอบก็ไม่แปลกหรอกอลิศจากประสบการณ์ที่เรามาเจอกับอีตาหมอโหด ดุเถื่อนอย่างหมอภาสคนนั้น…เป็นฉันก็คงท้อแหละ แต่ดูเหมือนว่าคนที่นี่เขาจะชินแล้วนะ แกดูสิงานแทบจะไม่ผิดพลาดและดูเป็นระเบียบมากเลยนะ”
“ก็นับเป็นข้อดีของหมอดุ ๆ ละนะแต่ฉันไม่ขอร่วมงานกับคนแบบนี้ดีกว่าไม่รู้ว่าวันไหนจะลุกมางับหัวฉันเอา ไปกินข้าวเที่ยงกันเถอะ โดนด่ามาก ๆ เริ่มหิวแล้ว”
“ไปกัน ๆ ยังอยากจะเรียกสองคนนั้นมาด่าอีกรอบเลย หมั่นไส้ ทิ้งบอมบ์ก้อนใหญ่ไว้ก่อนจะย้ายไปแผนกอื่นเฉยเลย”
“พวกเธอคงโดนมาหลายรอบแล้วก็เลยขอย้ายแผนกสินะ หน้าตาสวย ๆ แบบนั้นอ้อนคนจัดแผนกไม่ยากหรอก เห็นว่าแพนเป็นน้องสาวของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลนี้ไม่ใช่เหรอ”
“ก็เป็นน้องของนักเทคนิคการแพทย์น่ะแต่คนที่น่าหมั่นไส้กว่าแพนก็….พี่นิศาที่ห้องยานั่นต่างหาก ดูสิเดินเชิดอย่างกับลูกสาวของเจ้าของโรงพยาบาลเลยล่ะ”
“เชิดแบบไหน ทำให้ดูสิ ฮ่า ๆ นิว แกทำเหมือนเกินไปแล้ว”
นิวทำท่าเดินให้อลิศดูระหว่างที่เดินออกจากห้องเพื่อจะไปที่ห้องอาหารและทานข้าวเที่ยง เมื่ออลิศที่กำลังหันไปเพื่อจะเดินต่อกลับหันไปชนคนที่ไม่ควรพบเข้าอีกครั้ง วันนี้คงเป็นวันซวยของพวกเธอจริง ๆ เขาพึ่งจะดุพวกเธอไปในห้องนั้น ในตอนนี้ที่พวกเธอกำลังปรับอารมณ์ได้กลับต้องมาเจอเขาอีก
“ขะ..ขอโทษค่ะคุณหมอ”
“หัวเราะอะไรกันเสียงดัง พวกคุณกำลังรบกวนผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ นะ”
“ขอโทษค่ะอลิศไม่ได้ตั้งใจ วันหลังจะ….”
“พวกคุณทำได้แต่ขอโทษแต่ไม่เคยคิดจะปรับปรุงตัวกันบ้างเลยหรือยังไง วัน ๆ เอาแต่พูดคำนี้”
อลิศรู้สึกหัวร้อนขึ้นมาทันที ตอนในห้องนั้นก็ครั้งหนึ่งแล้วทั้ง ๆ ที่พวกเธอไม่ใช่คนผิดและในตอนนี้ก็อีกครั้งที่เขาเดินมาแล้วชนเธอเอง อลิศกำหมัดแน่นแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเขา แต่ให้ตายเหอะใบหน้าใต้แว่นตานั่นทำไมถึงได้หล่อขนาดนั้นนะ แทนที่จะโกรธมากกว่านี้แต่กลับต้องตะลึงกับใบหน้ารูปหล่อแต่ปากเสียนี่เสียได้
“อลิศ ไปกันเถอะ”
“ไม่!! คุณหมอคะ ถ้าอย่างนั้นคุณช่วยบอกพวกหนูทีค่ะว่านอกจากคำว่าขอโทษ คุณอยากได้ยินคำไหนอีก!!”
“อลิศ!!”
เธอพูดออกไปด้วยความโมโหและท้าทายเพราะเธอยังโกรธเรื่องที่เขาด่าเธอในห้องเมื่อครู่นี้ทั้ง ๆ ที่มันไม่ใช่ความผิดของเธอเลย
“อะไรนะ…เธอพูดว่าอะไร”
นิวพยายามดึงแขนอลิศเพื่อให้เธอใจเย็น ๆ แม้ว่าอลิศโดยปกติจะเป็นคนร่าเริงยิ้มง่ายและเป็นมิตรกับทุกคนแต่อย่าได้หาเรื่องเธอก่อนเพราะเธอเองก็กัดไม่ปล่อยเหมือนกัน
“ฉันพูดว่า นอกจากคำว่าขอโทษแล้ว คุณหมอยังต้องการอะไรอีก เห็น ๆ กันอยู่ว่ามันเป็นทางแยก คุณหมอเองก็เดินไม่ระวังเช่นกันแต่ฉันก็ยอมที่จะขอโทษเพราะให้เกียรติคุณ แล้วคุณหมอล่ะคะนอกจากจะไม่ยินดีรับคำขอโทษแล้วยังพูดจาไม่น่าฟังแบบนี้ีอีก ที่บ้านสอนมาแบบไหนเหรอคะถึงได้เอาแต่แว้ง..”
“อลิศ!! พอแล้ว คุณหมอคะขอโทษนะคะพวกเราขอตัวก่อน”
“ปล่อย นิวฉันบอกให้ปล่อย!!”
แต่นิวลากเธอเดินไปแล้ว หมอภาสที่กำลังอ้าปากฟังที่อลิศพูดมาและกำลังประมวลผลอยู่ถึงกับอึ้งเพราะเขาไม่เคยเห็นใครที่ยืนด่าเขาแบบซึ่ง ๆ หน้าอย่างนี้มานานแล้ว
“อะไรกันล่ะเนี่ย…”
“หมอภาส….ไม่รอผมเลย อ้าว…ทำไมทำหน้าเหมือนถูกช็อตแบบนั้นล่ะ เป็นอะไร”
หมอ “ศุภกิตต์” หรือหมอกิตเดินมากอดไหล่เขาอย่างเป็นกันเอง แน่นอนเพราะพวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกันและมาทำงานที่นี่พร้อมกันอีกด้วย
“เป็นอะไรทำไมยืนแข็งทื่อแบบนี้ล่ะ ไปกินข้าวกันเถอะ ตอนบ่ายมีประชุมอีก”
“ไปสิ”
หมอภาสยังคงมองไปที่สองร่างที่พากันเดินไปยังห้องอาหาร แต่เขากับหมอกิตจะไปห้องอาหารสำหรับบุคลากรของโรงพยาบาลอีกที่หนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ห้องสำหรับประชุม
ห้องอาหาร
“ปึง!!”
“แกใจเย็น ๆ ก่อนสิอลิศ เรายังต้องเจอเขาอีกสามเดือนเลยนะแกอย่าไปมีเรื่องกับเขาสิ”
“ก็แกดูปากมันสิ ไอ้…”
“เพื่อนจ๋า ๆๆ พ่อก่อน ๆ โอยจะเป็นลม อย่าได้เผลอเรียกเขาแบบนี้ข้างนอกเชียวนะ”
“โมโหโว้ย!!”
คนในห้องอาหารเริ่มหันมามองตามเสียงที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ ของอลิศและเพื่อนอีกสองคนก็เดินเข้ามาไถ่ถามเธอ
“อลิศ นิว เกิดอะไรขึ้นน่ะทำไมโวยวายแบบนั้นแกไปโกรธใครมา”
“แพน ยัยจอยมานี่เลยมานั่งเลย”
“โอ๊ยอะไรนิว ทำไม มีอะไรเกิดอะไรขึ้นเล่ามาสิ”
“พวกแกน่ะสิ ที่พวกฉันต้องมาซวยแบบนี้น่ะไม่ใช่เพราะพวกแกหรอกเหรอ ก่อนจะกลับบ้านเมื่อวานพวกแกจัดยาเอาไว้ผิด ฉันกับอลิศไปรับช่วงต่อเลยโดนด่ายกชุดเลย”
“ยา…ยาอะไรเมื่อวานนี้พวกฉันไม่ได้จัดยาเลยนะแกเข้าใจผิดหรือเปล่า”
“อะไรนะ แพน แกบอกว่าพวกแกไม่ได้จัดงั้นเหรอ แล้วใครจัดล่ะอีตาหมอโหดนั่นถึงได้ตามมาด่าฉันกับอลิศเละเทะเลยพึ่งโดนเมื่อตอนเช้านี่เอง”
แพนและจอยหันมามองหน้ากันอย่างเข้าใจสถานการณ์และหันมาบอกเพื่อนสาวทั้งสองอีกครั้ง
“ฉันว่าพวกแกโดนรับน้องจากคลังยาแล้วล่ะ พวกฉันเคยโดนมาก่อนเหมือนกัน”