ตอนที่ 1 เพียงร้อยราตรี[1]
“ฮึก!” เสียงกลั้นสะอื้นของสาวใช้ผู้ภักดี นามอินฉี ที่กำลังนั่งเฝ้าหน้าโลงศพอย่างเดียวดาย ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบในงานพิธีศพของฮูหยินใหญ่ตระกูลจวง
ไร้เงาจวงจิ้งเหยาผู้เป็นสามี มิหนำซ้ำยังไม่มีแม้กระทั่งผู้คนในตระกูลมาเคารพศพ
ดวงตาที่ฉ่ำไปด้วยน้ำมองไปยังโลงศพด้วยความเศร้าโศก นายหญิงของนางไม่สมควรต้องมาจบชีวิตเช่นนี้
ย้อนกลับไปเมื่อหลายวันก่อน จวงหวั่นอี้ฮูหยินเอกตระกูลจวง ถูกใส่ร้ายหาว่าทำให้อนุสี่แท้งลูก และนั่นทำให้จวงจิ้งเหยาผู้เป็นสามีโกรธมาก จนถึงขั้นลงมือตบตี
เป็นเหตุให้ฮูหยินน้อยหวั่นต้องแท้งบุตร ที่เจ้าตัวก็พึ่งจะรู้ว่ามีอยู่ในครรภ์
เพราะคุณชายจวงเอาแต่สนใจเป็นห่วงเป็นใยอนุคนงาม จนไม่ดูดำดูดีผู้เป็นภรรยา เลยทำให้ไม่รู้ว่า ที่แท้แล้วได้พลั้งมือสังหารเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง
ความเศร้าโศก และความท้อแท้สิ้นหวังบวกกับอาการเสียเลือดมาก นอนซมอีกไม่กี่วัน จวงหวั่นอี้ก็สิ้นใจ
ยิ่งคิดเสียงสะอึกสะอื้นของอินฉีก็ยิ่งดังขึ้น
“ฮึก! โธ่ คุณหนูของบ่าว หากชาติหน้ามีจริง ท่านอย่าได้อ่อนแอเยี่ยงนี้อีกนะเจ้าคะ ฮือๆ”
เสียงร่ำไห้และคำอธิษฐานของสาวใช้ดังไปถึงนอกประตูจวน
บนเส้นทางหน้าประตูสองบานใหญ่ ลมหนาวพัดโชยเอื่อยผ่านร่างโปร่งใสของหญิงงามนางหนึ่ง ที่กำลังยื่นร่ำไห้อย่างเศร้าโศกไม่แพ้คนด้านใน
“พี่อิ่นไม่ต้องห่วง หากข้าได้เกิดใหม่ ข้าจะไม่อ่อนแอเยี่ยงนี้อีก”
วิญญาณของจวงหวั่นอี้ยืนมองบานประตูด้วยความเจ็บปวด
นางไม่ควรหลงรักจวงจิ้งเหยา หากวันนั้นนางเชื่อฟังบิดามารดา ชีวิตคงไม่ต้องมาลำบากเช่นนี้
เคราะห์กรรมและความอกตัญญูของนาง ก็สมแล้วที่ต้องมารับกรรม
“เจ้าอยากจะกลับไปแก้ไขมันหรือไม่?”
เสียงแหบแห้งหนาวเย็นดังขึ้นทางเบื้องหลัง ทำให้วิญญาณของหวั่นอี้ตกใจจนต้องรีบหันกลับไปมอง
ไม่รู้ว่าบุรุษสวมชุดคลุมสีดำมายืนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อใด
ดวงตาสีแดงแลดูเฉยชาไร้อารมณ์คู่นั้นไม่ได้มองมาที่นาง แต่มองไปยังบานประตู
“ท่านมาเอาวิญญาณข้าหรือ?”
“ข้าถามว่าเจ้าอยากจะกลับไปแก้ไขมันหรือไม่!” ไม่เพียงไม่ตอบ น้ำเสียงเหยียบเย็นยังถามกลับมาอีกครั้ง
ในเมื่อตายแล้วจวงหวั่นอี้ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว
“ข้ายังมีอีกหลายเรื่องที่อยากแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องของท่านพ่อ ท่านแม่”
นางตอบได้เพียงแค่นั้น วิญญาณก็เหมือนถูกกระชากอย่างแรง
“เจ้ามีเวลาเพียงร้อยราตรีเท่านั้น”
และนั่นคือเสียงสุดท้ายที่นางได้ยิน
พรึบ!
ร่างบอบบางสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ
“คุณหนู เป็นอะไรไปเจ้าคะ?”
“พี่อิน?”
“เจ้าคะ?”
“ฮึก! พี่อิน” หวั่นอี้รีบลุกลงจากเตียงถลาเข้าไปกอดสาวใช้เอาไว้แน่น
“พี่อิน ฮือๆ”
“คุณหนู! เป็นอะไรไปเจ้าคะ อย่าทำบ่าวตกใจสิเจ้าคะ!”
อินฉีเอ่ยถามหน้าตาตื่น ทั้งตกใจทั้งเป็นห่วง ที่จู่ๆ เจ้านายก็ร้องไห้วิ่งเข้ามากอด
หวั่นอี้รีบเช็ดน้ำตา ปรับอารมณ์ตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะตอบออกไปด้วยความเก้อกระดาก
“ขะ..ข้าไม่เป็นอะไร แค่ฝันร้ายก็เลยตกใจไปหน่อย”
“โถ.. คุณหนูของบ่าว ไม่ต้องกลัวนะเจ้าคะ มันก็แค่ฝันร้าย”
อินฉีตบลงบนหลังฝ่ามือเรียวงามเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบประโลม
ด้วยความที่อินฉีแก่กว่าผู้เป็นนายห้าปี จึงทำให้ดูเหมือนพี่สาวคนโตมากกว่าสาวใช้ และยิ่งต้องมาดูแลหวั่นอี้ ที่มีนิสัยอ่อนแอ ขี้กลัว ด้วยแล้ว