ระบำ
"ท่านป้าเฉวียน นี่มันมากไป"เฉวียนเยว่ยัดถุงทองใส่ในมือ
"เจ้าก็เจ้าข้าก็ข้า เราสองคนล้วนพึ่งพาได้มากได้น้อยก็ต้องจัดสรร ที่หอโอชารสมีวันนี้เพราะเจ้า พวกนางจึงมีงานมีเงินใช้อีกทั้งผู้คนต้องการฟังเสียงบรรเลงกู้เจิ้งของเจ้าจึงแวะมาที่นี่มาหน่อย"ชี้ไปยังเหล่าคณิกา
หวาหวายิ้ม รับเอาถุงทองไว้ในมือ แบ่งออกเป็นสามส่วนเท่าๆ กัน จับเอาส่วนหนึ่งในกอง
"ส่วนหนึ่งแลกเป็นเงินแบ่งให้พวกนาง อีกส่วนถือว่าข้าให้เป็นค่าเช่าในการทำการค้า"
"การค้า? "
"ท่านป้าเฉวียน ถือเสียว่าหวาหวามาเช่าพื้นที่ของท่าน เพื่อทำการค้า ขายศิลปะการบรรเลงเพลงกู้เจิ้ง"
"แม่นางหวาหวาน้ำใจงามยิ่งนัก"
บ้านป่า
"ท่านพ่อ ท่านไม่ให้ท่านแม่ไปทำงานได้ไหม"เทียนห่าวย่อกายกอดร่างกระจ้อยไว้ในอ้อมกอด
"อาตูของพ่อ แม่เจ้านางเลือกแล้ว เราสองคนแค่เพียงมองนางจากตรงนี้ เอาอย่างนี้ อาตูน้อยเราสองคนมาช่วยกันเอาใจหวาหวากันดีกว่า วันนี้ข้าพาเจ้าไปเดินตลาดเราไปเลือกของที่ดีสักอย่างให้กับหวาหวากัน เจ้าช่วยออกความคิดว่านางชอบของแบบไหน"อาตูกอดรอบลำคอของเทียนห่าว
"ไปกันเลยท่านพ่อ"
ร้านรวงคลาคล่ำสองข้างทาง อาตูวิ่งลัดเลาะข้างทาง
"ท่านพ่อ มาทางนี้มีต้องมีของชอบของท่านแม่แน่ๆ เลย"อาตูดึงมือเทียนห่าวยังร้านที่ขายเครื่องประดับประเภทสายสร้อย
เทียนห่าวยิ้มลูบคลำสร้อยเส้นหนึ่ง งดงามวิบวับก่อนหน้านั้นหวาหวา เบื่อข้าวของเหล่านี้ แต่ยามนี้นางจะเบื่อเหมือนก่อนหน้านั้นไหมในเมื่อนางไม่เหลือสิ่งใดติดตัว
"สวยไหม"เอ่ยปากถามอาตูน้อย
"สวยที่สุดท่านแม่ต้องชอบแน่ๆ เลย"พยักหน้า
"เถ้าแก่เอาอันนี้"
"ของสิ่งนั้นเป็นของข้า"อิวอันเดินมาคว้าสายสร้อยเอาไว้
"ไม่ได้นะ ข้ากับท่านพ่อตกลงใจจะเอาไปมอบให้ท่านแม่"อาตูส่งเสียงเจื้อยแจ้วด้วยความไม่พอใจ
เถ้าแก่ก้มหน้าประสานมือ
"พระสนมของสิ่งนี้สองพ่อลูกตกลงใจจะซื้อแล้ว"
"ข้าให้ในราคาสามเท่าของราคาที่ท่านขาย"อิวอันพยักหน้าให้สาวใช้นำเงินไปวางตรงหน้าเถ้าแก่ เทียนห่าวหลบหน้าอิวอันอุ้มอาตูเดินจากมา
"ท่านพ่อทำไมท่านยอมนางง่ายดาย ทั้งๆ ที่ของสิ่งนั้นเหมาะสมกับท่านแม่มาก"อาตูน้อยขมวดคิ้ว
เทียนหาวซ่อนบางอย่างไว้ในใจ
"ช่างเถอะ อาจมีบางอย่างที่เหมาะสมกับท่านแม่ของเจ้ามากกว่านี้ นางถือว่ามีเงิน ก็ปล่อยนางซื้อของในราคาแพงต่อไป"
เสียงฝีเท้าม้า
"หลีกทาง หลีกทาง หลีกทางงงง"เสียงตะโกนก่อนที่จะทันเห็นตัว
เทียนห่าวผงะหงายด้วยไม่ทันระวังตัว ปล่อยร่างของอาตูน้อยยืนอยู่กลางถนน กำลังจะเข้าไปอุ้มอาตูน้อยออกมาจากตรงนั้น ทว่า...
"หลีกทางง ฝ่าบาทกำลังเสด็จผ่านมาทางนี้"ทหารและองครักษ์นับสิบในมือมีทวนยาวเฟื้อยตั้งแถวสองข้างทางระหว่างขบวนเสด็จ อาตูยืนนิ่งกลางถนน ม้าตัวสีดำสนิทควบมาตรงหน้าด้วยความเร็วก่อนที่ไท่หลิ่งหงฮ่องเต้จะดึงบังเหียนหยุดม้า ตรงหน้าของอาตูพอดิบพอดี
"หยุดดด"อาตูหลับตาปี๋ เทียนห่าวตะลึงตาค้างไม่กล้าแม้แต่จะแสดงตัวว่ามาด้วยซ้ำแอบมองห่างๆ
"หลบไป บังอาจใครกันปล่อยให้เด็กมาขว้างขบวนเสด็จ" องครักษ์ดึงแขนอาตูอย่างแรง ร่างบอบบางของหวาหวาที่มีผ้าแพรสีดำปิดบังใบหน้าย่อกายลงกอดรอบลำตัวลูกชายไว้ ไท่หลิ่งหงอดที่จะมองตามร่างงามเสียไม่ได้รู้สึกขัดใจกับผ้าแพรที่ปิดบังใบหน้า หวาหวาก้มหน้าซ่อนแววตางดงามเสีย
"ใต้เท้าโปรดเมตตา ลูกชายของข้าน้อยยังเด็กนัก จึงวิ่งเล่นสนุกสนานไม่รู้ว่ามีขบวนเสด็จ" เป่ยชุนหวังอ๋องก้าวขายาวๆ เข้ามาพยุงหวาหวาให้ลุกขึ้น ไท่หลิ่งหงขมวดคิ้วเข้าหากัน
"หวาหวา เจ้าลุกขึ้น ผู้ไม่รู้ยอมไม่ผิด ใครกันจะถือสาแค่เพียงเรื่องเล็กน้อยเพียงนี้ หากจะลงทัณฑ์ข้าขอรับไว้แทน ได้ใช่ไหมฝ่าบาท"ประโยคสุดท้ายหันไปหาไท่หลิ่งหง ไท่หลิ่งหง แสร้งมองไปเสียทางอื่น ดวงหน้างดงามดั่งอิสตรีแสร้งเป็นว่าไม่ใส่ใจคำพูดของเป่ยชุนหวังอ๋อง
