บทส่งท้าย จบบริบูรณ์
สิงหราชเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องคลอดหลังจากที่พาอัจฉรียาพรมาส่งถึงมือหมอสักชั่วโมงที่ผ่านมา แต่จนป่านนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลอดจนเขาร้อนใจ
“ทำไมยังไม่คลอดล่ะครับคุณแม่”
“โอ๊ย ลูกเขยครับ การคลอดลูกนี่มันไม่ได้มาถึงแล้วเบ่งอกมาเลยนะครับไอ้ลูกเขย” ผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนเหน็บลูกเขยอย่างหมั่นไส้
“ใจเย็นๆ ตาสิงโต พยาบาลก็บอกอยู่ว่าปากมดลูกยังเปิดไม่พอ รออีกสักครู่”
“แต่อิ่มอุ่นเจ็บท้องผมห่วงเมียห่วงลูก จะเป็นอะไรมากไหม”
“มันก็ปกติคนเจ็บท้องคลอดว่ะไอ้ลูกเขย”
“แต่ผมเห็นเมียเจ็บผมเจ็บด้วย” คุณอัคคีหันมาสบตากับภรรยา เขาคิดว่าตนเองอาการหนักแล้ว เจอลูกเขยอาการหนักกว่ารักเมียหวงเมียห่วงเมียเกินใคร
“คุณสามีจะเข้าห้องคลอดด้วยไหมคะ ตอนนี้ภรรยาคุณจะได้เวลาคลอดแล้ว หากจะเข้าไปช่วยให้กำลังใจภรรยาก็ตามพยาบาลไปเปลี่ยนชุดนะคะ” คุณหมอสาวที่สิงหราชระบุความต้องการให้ทำคลอดภรรยาของตนบอกด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
“ครับ เข้าด้วยครับ” ไม่ต้องรอให้ใครบอกซ้ำสิงหราชก็ตามพยาบาลไปเปลี่ยนชุดทันที...
“อิ่มอุ่นจ๋า ค่อยๆ เบ่งนะคะคนดี พี่สิงโตอยู่ข้างๆ ไม่ต้องกลัว..” สิงหราชบอกภรรยาแต่ตัวเองนั้นเหงื่อแตกพลั่กๆ ทั้งที่ในห้องคลอดนั้นเย็นเฉียบ...
“ค่ะ พี่สิงโตอย่าไปไหนนะคะ”
“ครับ..”
“คุณแม่ค่อยๆ เบ่งนะคะ เอาล่ะคะหายใจเข้าลึกๆ เบ่งค่ะ..” คุณหมอสาวบอกเบาๆ อัจฉรียาพรทำตามอย่างเคร่งครัดความเจ็บปวดบีบรัดราวร่างจะแหลกสลายแล้วเหมือนกับว่ามันถูกฉีกเป็นชิ้นๆ อีกระรอกก่อนที่ความเจ็บปวดนั้นจะหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อเธอได้ยินเสียงร้องโวยวายของสิ่งเล็กๆ แดงๆ ในมือของคุณหมอสาว..
แว๊ อุแว๊ๆๆ วี๊ดดด แว๊... เสียงหวีดร้องโวยวายของสิ่งที่เรียกว่าทารกดังก้องไปทั้งห้อง สองสามีภรรยาจดจ้องมองร่างเล็กๆ ไม่วางตาน้ำตาอุ่นๆ ไหลออกมอาบแก้มคนทั้งคู่โดยไม่ได้นัดหมาย...
“ลูก ลูกของเรา..”
“น้องเพศหญิงร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีค่ะ น้ำหนักสามพันเก้าร้อยกรัม.. คุณแม่อุ้มลูกแบบนี้นะคะแล้วให้เด็กได้ดูดนมจากอกของคุณแม่เป็นครั้งแรกค่ะ...” สิงหราชเช็ดน้ำตาออกจากแก้มภรรยาอย่างอ่อนโยนแล้วพยุงให้เธออุ้มลูก ชายหนุ่มมองภรรยากับลูกน้อยในอ้อมแขนอย่างแสนรักและภาคภูมิใจ..
“น้องเสือดาว แม่เสือน้อยของพ่อ..”
น้องเสือดาว หรือเด็กหญิง สุตาภัทร แก้วตาดวงใจตัวน้อยๆ ที่ปู่ย่าตายายต่างหลงใหลรักใคร่ดังดวงใจ น้องเสือดาวตัวน้อยเลี้ยงง่ายแต่บทจะดื้อรั้นเอาแต่ใจก็เอาเรื่องอยู่ไม่น้อย เด็กหญิงตัวอวบสมบูรณ์ขาวผ่องแก้มยุ้ยผมหยิกหย็อยเหมือนแม่ในวัยเด็กไม่ผิดเพี้ยน แต่ใบหน้าละม้ายผู้เป็นพ่อทำให้ใบหน้าเด็กหญิงมีเค้าความงามแบบสวยคมโดยเฉพาะดวงตากลมโตคมกริบที่ยามออดอ้อนก็ทำเอาคนมองใจละลาย แต่เวลายามเด็กหญิงร้ายไม่ต่างอะไรจากเสือน้อยจอมดื้อรั้น...
“อิ่มอุ่นจ๋า มานอนเถอะลูกหลับแล้ว” สิงหราชตบก้นลูกสาวเบาๆ เพื่อกล่อมให้แม่เสือดาวตัวน้อยหลับใหล เด็กหญิงนอนคว่ำหน้าแล้วเอียงแก้มยุ้ยออกด้านข้าง ริมฝีปากเล็กๆ ห่อเป็นวงน้อยๆ ทำท่าดูดจุบจับๆ เหมือนว่ากำลังดูดนมอยู่ทำให้ผู้เป็นพ่อยิ้มขบขันแล้วก้มลงหอมแก้มยุ้ยนั้นอย่างมันเขี้ยว
ตอนนี้น้องเสือดาวอายุหกเดือนแล้วกำลังซนกำลังดื้อและชอบเรียกร้องความสนใจให้ทุกคนเอาอกเอาใจตัว พอไม่ได้ดังใจก็จะบีบน้ำตาร้องไห้โยเย แต่เพียงแค่คุณแม่ปลอบและทำหน้าตาและเสียงขึงขังเท่านั้นเด็กหญิงจะหยุดทันที ในบ้านนี้น้องเสือดาวเกรงใจคุณแม่อิ่มอุ่นที่สุด ก็ใครจะไม่เกรงขนาดเขายังเกรง... สิงหราชยิ้มกับตัวเองแล้วเดินกลับมาหาภรรยาที่กำลังจดอะไรยิกๆ ลงบนสมุดโน้ต
“หยุดได้แล้วครับคนสวย พักผ่อนได้แล้วงานค่อยทำพรุ่งนี้”
“ไม่ได้ค่ะ ออเดอร์นี้สำคัญมาก อิ่มอุ่นจดรายละเอียดกันลืมไว้ก่อน.. โอเค เสร็จแล้ว เย่” หญิงสาวหันมาจุ๊บคางสามีเบาๆ แล้วปิดสมุดโน้ตลุกขึ้นบิดตัวไปมาเบาๆ สองสามที
“เมื่อยมั้ยมาพี่นวดให้” บอกอย่างใจดีแต่เสือร้ายก็เป็นเสือร้ายอยู่วันยังค่ำ
“ก็ดีค่ะ อิ่มอุ่นปวดหลังและปวดหัวกับแม่เสือน้อยของพี่สิงโตทั้งวัน” พูดพลางล้มตัวลงนอนคว่ำกับเตียงหนุ่มหลับตาพริ้มรอบริการจากสามี...
“อุ๊ย พี่สิงโต อื้อ ไหนว่าจะนวดให้อิ่มอุ่นไงคะ คนเจ้าเล่ห์” หญิงสาวอุทานเบาๆ เมื่อรับรู้ได้ถึงร่างเปล่าเปลือยของสามีที่แนบลงมากับร่างสาว..
“ขอนาบก่อนก็แล้วกันเมียจ๋า เสร็จแล้วพี่จะนวดให้”
“อ๊ายย พี่สิงโตคนบ้า คนหื่น..” อัจฉรียาพรหวีดร้องเบาๆ กับคำพูดห่ามๆ ชวนเสียวไส้ของสามีแล้วก็หมดโอกาสต่อล้อต่อเถียงเมื่อเรียวปากร้อนผ่าวบดเคล้าลงมาอย่างอ่อนโยนในคราวแรกก่อนจะทวีความร้อนแรงมากขึ้น ไม่นานเธอก็เปลือยเปล่าและหลงเพริดไปกับบทรักอันเร่าร้อนของสามีที่บรรจงมอบให้
และกว่าเธอจะได้รับการนวดผ่อนคลายจากสามีอัจฉรียาพรก็หลับใหลไปกับอกกว้างของเขาอย่างหมดเรี่ยวแรง แม่เสือน้อยของเธอก็หลบลึกหลับยาวยันเช้าไม่ตื่นขึ้นมารบกวนการนวดของคุณพ่อสุดหล่อเลยแม้แต่น้อย...
หนึ่งปีผ่านไป...
เด็กหญิงตัวน้อยวัยขวบเศษสามคนกำลังเดินเตาะแตะๆ ไปทั่วสนามหญ้านุ่ม ทั้งหยอกเย้ากันสนุกสนาน น้องเสือดาว น้องไหม น้องมด เข้ากันได้เป็นอย่างดีหนูน้อยทั้งสามเล่นกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยไม่แย่งของเล่นกันทำให้บรรดาพ่อแม่ชื่นชมลูกสาวตัวน้อยที่เป็นเด็กดี
“จะอยู่กันกี่วันล่ะพ่อช้าง” แม่เลี้ยงเกศราหันไปถามลูกเขยที่พาลูกสาวมาเยี่ยมให้นางได้อุ้มหลานแฝดด้วย
“อยู่สักอาทิตย์หนึ่งครับคุณแม่ นิกกี้เขาบ่นคิดถึงคุณแม่คุณพ่ออยากอยู่หลายๆ วัน”
“ดีแล้วอยู่นานๆ หน่อยพ่ออยากกอดหลานหลายๆ วัน”
“มาคราวนี้เห็นทีจะได้ข่าวดีด้วยใช่ไหมจ๊ะ” คุณอโนมาถามปานชนกหน้าแดงก่ำพยักหน้าช้าๆ
“หา.. อะไรนะ เมียนายท้องอีกแล้วเหรอ” สิงหราชหน้าตื่นทั้งดีใจและหมั่นไส้เพื่อนรัก
“ก็คนมันน้ำยาดี เปิดปุ๊บติดปั๊บคราวนี้กะว่าจะได้แฝดชายโว้ย” ได้ทีครูซก็เบ่งทับถม สิงหราชหันมามองภรรยาทันที
“ไม่ต้องมามองเลยค่ะ เราไปดูลูกๆ กันเถอะค่ะพี่นก คุณพ่อคุณแม่ ปล่อยให้พวกขี้อวดคุยกันไป” อัจฉรียาพรพูดขึ้นค้อนสามีหนึ่งทีแล้วเดินออกไปหาลูกๆ แหม.. มาอีหรอบนี้คืนนี้เธอจะได้พักไหม หญิงสาวคิดไปหน้าแดงไป...
“หน้าแดงอะไรน่ะอิ่มอุ่น..”
“บ้า.. พี่นกอย่าล้อสิคะ” ปานชนกหัวเราะเบาๆ แล้วก้มลงอุ้มน้องเสือดาวที่อยู่มือมาหอมแก้มหนักๆ อย่างมันเขี้ยว น้องเสือดาวเกิดทีหลังลูกๆ ของเธอเดือนเศษ แต่เนื้อตัวโตและอ้วนท้วนสมบูรณ์กว่ามาก
“ผมว่าเราก็ไปหาหลานๆ กันเถอะพี่อิน อยู่แถวนี้เบื่อคนไม่มีน้ำยา..” คุณอัคคีที่ไม่ว่าผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังอดแขวะลูกเขยไม่ได้ แม้จะรักและภูมิใจในตัวลูกเขยแค่ไหนก็ตาม
ทุกคนเดินออกไปที่สนามหญ้าสิงหราชกับครุซก็คุยเกทับกันใหญ่โตเหมือนเด็กๆ แม่บัวที่ยกของว่างออกมาพร้อมกับชัช ฉัตรและวาริส ซึ่งมาเยี่ยมเพื่อนสาวและหลานๆ เห็นแล้วก็พากันหัวเราะอย่างระอาใจกับคุณพ่อจอมเบ่งทั้งสอง แล้วปล่อยให้สองหนุ่มถกเถียงกันต่อไปและก็ไปรวมกลุ่มกับบรรดาคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายเล่นกับหลานๆ ที่สนามหญ้าร่มรื่น
ฉัตรกับวาริสลงทุนเป็นม้าให้เด็กๆ ขี่หลังในขณะที่ชัชพาน้องเสือดาวขี่คอวิ่งไปรอบๆ อย่างสนุกสนาน เสียงหัวเราะชอบใจของเด็กๆ ดังก้อง รอยยิ้มแห่งความรักและความสุขระบายทั้งดวงหน้าของพวกเขา
ความสุขความอบอุ่นด้วยรักโอบล้อมพวกเขาไว้อย่างหนาแน่นและไม่มีวันจืดจาง...
จบบริบูรณ์
