ตอนที่ 2 ผู้จัดการส่วนตัวคนที่ 12
ตอนที่ 2 ผู้จัดการส่วนตัวคนที่ 12
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องรองประธานดังขึ้น สองหนุ่มหันไปมองที่หน้าประตูพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ทันทีที่บานประตูเปิดออก ก็ปรากฏร่างอรชรร่างหนึ่ง หญิงสาวผอมเพรียว ใบหน้ารูปไข่ คิ้วถูกตกแต่งอย่างสวยงามรับกับใบหน้า ดวงตาโตหวานถูกตกแต่งด้วยสีสันสวยงามบางเบาเป็นธรรมชาติ แต่กระนั้นแววตาของเจ้าของกลับฉายแววมั่นใจตามแบบฉบับสาวมั่น จมูกโด่งปลายเชิดรั้นแบบถือดี รับกับริมฝีปากอวบอิ่มได้รูปกระจับสวยสีส้มอมแดง
ผมสีน้ำตาลอ่อนยาวสยายดัดลอนใหญ่ช่วงปลายยาวถึงกลางหลัง ไล่ตามองรูปร่างยิ่งทำให้เขาแทบน้ำลายหก เห็นตัวผอมบางแบบนั้น แต่หน้าอกของหล่อนอวบอิ่มเบียดกันจนชิดภายใต้เสื้อแขนยาวคอวีสีดำที่คอกว้างจนโชว์ไหปลาร้าทั้งสองข้าง กระโปรงสั้นทรงสอบที่แนบชิดลำตัวสั้นเลยเข่ามาเป็นคืบลายกราฟิกสีขาวดำโชว์ขาขาวเรียวยาวราวลำเทียน
ร่างงามบนรองเท้าส้นสูงสามนิ้วสีดำ เดินก้าวย่างอย่างมั่นใจเข้ามาหยุดยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะของท่านรองประธานเจ้าของห้อง
“สวัสดีค่ะ ท่านรอง สวัสดีค่ะ คุณธีร์”
มิลิน หญิงสาววัย 27 ปี กล่าวทักทายเจ้าของห้องและไม่ลืมหันไปทักทายคนที่อยู่ข้างเธอ ที่ตอนนี้ตกตะลึงมองเธอตาค้างไปแล้ว
“นั่งก่อนจ้ะลิน นี่ไง ผู้จัดการส่วนตัวของนาย เธอชื่อมิลิน รู้จักกันไว้ซะ เดี๋ยวลินเริ่มงานพรุ่งนี้ได้เลยนะ พี่ส่งตารางงานทั้งหมดของนายธีร์ให้แล้ว ถ้าดาราของลินดื้อ รีบโทรหาพี่เลยนะ เดี๋ยวพี่จัดการให้”
ดาราหนุ่มรูปหล่อยังตกอยู่ในอาการตะลึงตาค้างไม่หาย เขาจ้องมองเธอราวกับจะสแกนให้เห็นไปจนถึงกระดูก เขารู้สึกว่าเธอคนนี้คุ้นตามาก ราวกับเคยเจอกันที่ไหนมาก่อน หรืออาจจะเคยเจอตามงานปาร์ตี้ก็ได้ สาวสวยเปรี้ยวเฉี่ยวขนาดนี้ อาจเคยเป็นคู่นอนคนใดคนหนึ่งของเขาก็เป็นได้ แต่คิดอีกที มันจะเป็นไปได้อย่างไร สวยจัดขนาดเธอ ที่เป็นดาราได้สบายๆแบบนี้ ไม่มีทางที่เขาจะจำไม่ได้หากได้เคยเสพสมความงามบนเรือนร่างนี้
“เห้ย ตะลึงเลยหรอวะ อย่าลืมข้อห้ามของฉันเด็ดขาด เข้าใจไหม”
“โห สวยแบบนี้นี่เอง พี่ถึงหวง บอกมาตรงๆ ก็ได้ว่าเป็นเด็กพี่ ผมไม่บอกใครหรอก”
ร่างบางหันขวับมาถลึงตาใส่พ่อหนุ่มรูปหล่อทันที หน็อยแน่ หาว่าเธอเป็นเด็กเสี่ยงั้นหรือ คนอย่างเธอไม่มีทางปล่อยตัวปล่อยใจให้ใครง่ายๆ อีกแล้ว ยกเว้น… แต่ช่างเถอะ ยังไงมันก็กลายเป็นอดีตที่ไม่น่าจดจำไปแล้ว
“บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิวะ”
“คร้าบๆ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่”
“แต่งตัวสวยจังครับ ลินไปไหนต่อหรอ”
ท่านรองหันมาพูดจาเสียงอ่อนเสียงหวานกับสาวเจ้า
“นัดเพื่อนไว้ค่ะ พอดีมีปาร์ตี้นิดหน่อย”
นั่นไง สายปาร์ตี้จริงๆด้วย ต้องเคยเจอกันที่ไหนสักที่แน่ๆ
“กลับยังไง จะเมาหรือเปล่า ให้พี่ไปรับไหม ไม่อยากให้ขับรถเอง มันอันตราย”
โห้ยยยย เสียงอ่อนเสียงหวานจริงวุ้ย หวงนักก็ไปนั่งเฝ้าเลยไหมพี่ ดาราหนุ่มคิดค่อนขอดรุ่นพี่ที่เคารพในใจ
“คืนนี้นอนบ้านเพื่อนค่ะ อ้อ เดี๋ยวพรุ่งนี้ ตี 5 จะโทรไปปลุกนะคะ พร้อมขึ้นรถตอน 6 โมงนะคะคุณธีร์”
หญิงสาวตอบท่านรองหนุ่มแล้วหันมานัดหมายเวลากับดาราหนุ่มที่ต้องอยู่ในการดูแลของเธอทันที
“อีกเรื่องนึง ขอกุญแจคอนโดสำรองด้วยค่ะคุณธีร์ ถ้าคุณไม่ตื่นตามเวลา หรือโทรไม่รับ ฉันจะได้เข้าไปปลุกคุณได้”
“ผมไม่เคยให้กุญแจคอนโดกับผู้จัดการคนไหน”
“ก็เพราะแบบนี้ไงคะ ถึงไม่มีใครจัดการเรื่องเวลาให้คุณได้ เพราะแค่โทรไปแล้วคุณไม่รับ เคาะห้องไม่เปิด ก็ไม่มีใครทำอะไรคุณได้แล้ว เพราะชั้นนั้นทั้งชั้นมีแค่ 4 ห้อง และมีแค่ห้องคุณห้องเดียวที่มีคนอยู่ เลยไม่ต้องกลัวรบกวนห้องข้างเคียง”
รู้ดีจริงนะแม่คุณ ชายหนุ่มค่อนขอดผู้จัดการสาวสวยเขี้ยวลากดินในใจ พลางส่งกุญแจคอนโดชุดจริงของตนเองให้ไป ส่วนชุดสำรองเขามีไว้ในรถอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
“หึ เขี้ยวขนาดนี้ ขนกระเป๋ามาอยู่ห้องผมเลยดีไหม จะได้ไม่ต้องโทรปลุกให้เสียเวลา”
“ดีเหมือนกันค่ะ ถ้าวินัยของคุณไม่พัฒนาขึ้น ฉันเข้าไปหายใจรดต้นคอคุณแน่”
โถ แม่สาวน้อย ถ้ามาอยู่กับเขาถึงห้อง ใครจะหายใจรดต้นคอใครกันแน่ คอยดูกันไหม
หนุ่มสาวจ้องตากันนิ่งโดยที่แทบมีประกายไฟวิ่งระหว่างสายตาของคนทั้งคู่ ชินดนัยจึงรีบห้ามทัพด้วยคำพูดที่ดูเหมือนจะตอกย้ำซุป'ตาร์หนุ่มรูปหล่อเข้าไปอีก
“ทำตัวให้มันดีๆล่ะ ฉันบอกนายแล้ว ว่าต่อไปนี้เตรียมโบกมือลาอิสระของนายไปได้เลย”
เขาก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่ามันจะสักแค่ไหนกันเชียว ผู้หญิงสาวสวยเปรี้ยวจี๊ดขนาดนี้ จะต้านทานเสน่ห์เขาได้อย่างไร เข้มๆ มาดแข็งๆแบบนี้ จะทำให้หลอมละลายเลย ถ้าเธอจะย้ายเข้ามาอยู่กับเขา เขาก็ไม่กลัวหรอกนะ ไม่มีใครควบคุมเขาได้หรอก ถ้าหากว่าเขาไม่ยินยอมให้ควบคุมเอง