บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1

ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ

หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือ

เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของหนังสือเท่านั้น

นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น

ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล

และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา

อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ

……….

นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารอะไรนักหนา

ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์

ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง

ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง

*เราเตือนท่านแล้ว

สายบัว

กับเพื่อนผัวทั้งสาม (4P)

เชียงราย พุทธศักราช 2563

เสียงรถกระบะที่เล่นมาจอดหน้าบ้านเช่าหลังเล็กท้ายซอยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ทำให้

‘สายบัว’ หญิงสาววัยยี่สิบกว่าๆ ต้องละมือจากปลาทอดที่กำลังลอยอยู่ในกระทะน้ำมันร้อนเดือดพล่าน เดินออกมามองที่หน้าบ้าน เห็นรถกระบะสีดำคันหนึ่งวิ่งมาจอดนิ่งอยู่ที่หน้าประตูรั้วสังกะสี

“บัว… เสียงใครมา… ”

‘ชาติ’ ชายหนุ่มวัยสามสิบปีสามีของสายบัวที่กำลังนั่งอยู่บนรถเข็นคนพิการ ร้องถามเมียรัก

“ไม่รู้จักจ้ะพี่… ผู้ชายทั้งนั้นเลยพี่ ตัวใหญ่ๆ ทั้งนั้น มากันสามคน แต่ดูจากท่าทางน่าจะเป็นเพื่อนๆ ของพี่”

แม่ลูกอ่อนเดา…

หันมาตอบสามีแล้วรีบเดินออกไปยังหน้าบ้าน เข้าไปสอบถามชายแปลกหน้ากลุ่มนั้นจนได้ความว่าที่แท้แขกผู้มาเยือนก็คือเพื่อนเก่าของชาติที่เคยทำงานก่อสร้างมาด้วยกัน

ก่อนที่ชาติจะโชคร้ายได้รับอุบัติเหตุพลัดตกจากนั่งร้านจนหลังหัก กลายเป็นคนพิการมาถึงวันนี้อุบัติเหตุในครั้งนั้นทำให้ชาติต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นมานานเป็นปี

“เฮ้ย… ไอ้ดำ ไอ้หมี ไอ้คมน์… ”

ชาติตะโกนทักทายเพื่อนเก่า เสียงดังราวกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง ว่าวันนี้พวกมันจะมาเยือนถึงบ้านที่เชียงราย

“นี่กูตาฝาดไปหรือเปล่าวะ… ”

ชาติแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เพราะว่าตลอดปีกว่าที่มันพาครอบครัวกลับมาอยู่บนบ้านนอก ก็ไม่เคยมีเพื่อนฝูงแวะมาหาสักครั้ง ซึ่งอาจเป็นด้วยระยะทางที่ไกลและกันดารมาก เพราะว่าบ้านของชาติอยู่ในหุบเขาของหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย

“เป็นไงบ้างวะเพื่อน… ”

ดำตบไหล่ทักทายเพื่อน

“ก็อย่างที่มึงเห็นนี่แหละว่ะ… กูตกนั่งร้านหลังหักต้องดามเหล็กไว้… ยังดีที่พอเดินได้บ้างใกล้ๆ… แต่ทำงานหนักไม่ได้แล้ว”

ชาติกล่าวอย่างยอมรับสภาพตัวเอง…

“อย่าท้อนะโว้ย… ”

เพื่อนๆ เข้ามาตบไหล่ให้กำลังใจกันยกใหญ่

“กูมีของฝากมาด้วย… ”

เพื่อนที่ชื่อ ‘ดำ’ เดินออกไปยกของฝากที่หลังรถกระบะเอามาให้เพื่อน

“เสียดายจัง… มาถึงช้าไปหน่อย นี่ใกล้ค่ำแล้วพวกกูคงอยู่ได้ไม่นาน”

อีกคนที่ชื่อ ‘หมี’ กล่าว

“ตอนนี้เย็นมากแล้ว… ฝนครึ้มเหมือนจะตกแล้วว่ะ พวกมึงนอนค้างคืนที่นี่ก็ได้นะ”

ชาติชักชวนเพื่อนๆ ห่วงว่าการขับรถกลับตอนค่ำนั้นอันตรายนัก สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับเส้นทางระหว่างหุบเขาอันคดเคี้ยว

“จะรบกวนหรือเปล่า… ”

เพื่อนชื่อ ‘คมน์’ กล่าวด้วยท่าทางเกรงใจ

“ในบ้านมีห้องว่าง… นานๆ พวกมึงจะมาโว้ย… โอกาสดีแบบนี้ใช่ว่าจะมีบ่อยๆ คืนนี้กูนึกอยากชนแก้วกันให้หายอยาก”

ชาติกล่าวอย่างนึกครึ้มอกครึ้มใจ เหมือนคนเหงาที่ได้เจอเพื่อนเก่า อาจเป็นเพราะว่ายังไม่เคยมีเพื่อนๆ คนไหนแวะมาหาเลยสักครั้ง นับตั้งแต่ชาติได้รับอุบัติเหตุจนต้องพาเมียกลับมาอยู่บ้านนอก ตอนนั้นสายบัวกำลังตั้งท้องได้สองเดือน

“ว่าแต่มึงดื่มไหวนะโว้ย”

คมน์ถามเพื่อน

“ไหวสิวะไอ้เหี้ย… กูพิการขา… แต่ไม่ได้พิการใจนะโว้ย”

สรรพนามเก่าๆ ที่คุ้นเคยใช้เรียกขาน คำพูดจาสนิทสนมไปจนถึงหยาบโลนของหมู่เพื่อนถูกขุดขึ้นมาใช้อีกครั้ง ชาติตอบเพื่อนอย่างมีอารมณ์ขัน

นี่แหละนิสัยของชาติที่เพื่อนๆ รู้จักดี ชาติชอบสนุกสนานเฮฮา พูดจาเสียงดัง คำพูดที่ได้ยินเรียกเสียงหัวเราะดังลั่นไปทั้งบ้าน ก่อนที่วงเหล้าเล็กๆ จะถูกเนรมิตขึ้นที่ม้าหินอ่อนภายใต้ต้นมะม่วงหลังครัว

“มึงมีลูกกี่คนแล้ววะชาติ… ”

คมน์ถามด้วยความสงสัย…

อย่าว่าสัปดน แต่มันอดไม่ได้จริงๆ ที่จะเหลือบมองไปทรวงอกของแม่ลูกอ่อน

คมน์นึกอิจฉาชาติที่ได้เมียสวยหยาดบาดใจเช่นนี้ ทรวดทรงสุดอะร้าอร่าม… จะมองตรงไหนก็งดงามไม่มีที่ติ ทำเอาใจเต้นระทึก มันนึกเปรียบผู้หญิงคนนี้เหมือนดอกไม้งามที่โดนเก็บซ่อนเอาไว้ในป่าลึก

‘โอ้ว… ’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel