ตอนที่ 4
ปลิวพยายามคิดบวกกับชีวิต อาการ ‘ไม่สู้’ ที่เป็นปัญหาทำให้ผู้ชายคนนี้ปรับเปลี่ยนทัศนะคติในการดำเนินชีวิตเสียใหม่ ปลิวกลายเป็นผู้ชายขยัน ทุกวันนี้ปลิวเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงทั้งงานสวนและงานในไร่อ้อยของกำนันเรืองฤทธิ์ผู้เป็นบิดา
ปลิวย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ... ว่าเขาจะไม่มีวันสูญเสียความนับถือตัวเองให้กับเรื่องบนเตียงที่ล้มเหลวโดยเด็ดขาด
“ไปอาบน้ำเถอะจ้ะพี่”
แรมจันทร์บอกสามี แล้วลุกขึ้นจากเตียงนอน คว้าผ้าถุงลายดอกพิกุลขึ้นมากระโจมอก หารู้ไม่ว่าในเวลาเดียวกันนั้นยังมีสายตาคู่หนึ่งแอบมองมาจากอีกห้องซึ่งอยู่ติดกัน
“เอ็งจะไปไหน”
ปลิวถามเมื่อภรรยาทำท่าว่าจะก้าวออกไปจากห้องนอน
“ฉันจะไปอาบน้ำที่คลองหลังบ้านจ้ะพี่”
แรมจันทร์ตอบ
“ทำไมเอ็งชอบไปอาบน้ำที่นั่น”
ปลิวขมวดคิ้ว นึกสงสัย
“ก็น้ำใสเย็นสบาย... บรรยากาศก็ดี... พี่ห่วงอะไรหรือจ๊ะ”
แรมจันทร์เหลียวกลับมามองสามีที่ยังนอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงนอน
“แต่นี่มันค่ำแล้วนะ”
ปลิวท้วงเสียงแผ่ว ด้วยความเป็นห่วงเมียรัก
“คลองหลังบ้านไม่มีอะไรน่ากลัว... ตั้งแต่มาอยู่กับพี่ปลิวที่นี่สองปีกว่าฉันก็ลงเล่นน้ำในคลองมาตลอด”
แรมจันทร์มีความเป็นตัวเองสูง หล่อนให้เหตุผลแล้วก้าวออกมาจากห้องนอน มุ่งหน้าไปยังลำธารหลังบ้านที่เคยลงเล่นน้ำเป็นประจำ
กลางดึกของคืนเดียวกันนั้น
แสงจันทร์ฉาบกระทบระลอกน้ำในคลองกว้าง แลเห็นเป็นริ้วสีเงินยวงระยับเคลื่อนไปกับแรงลมขยับลอนคลื่น ท่ามกลางสีดำของรัตติกาลและสีเหลืองนวลของแสงจันทร์ซึ่งตัดกันชัดเจน
ร่างขาวผ่องของแรมจันทร์ในชุดผ้าถุงกระโจมอก ลอยอยู่เหนือผิวน้ำอันเย็นยะเยือก หล่อนกำลังหลอมรวมร่างกายเป็นหนึ่งเดียวกับสายน้ำ ทำตัวเหมือนปลาโลมาขี้เหงาที่หลบเร้นจากฝูงเพื่อออกมาหาความสำราญเพียงลำพัง
แม้ปลิวจะเตือนหลายครั้งด้วยความเป็นห่วงที่แรมจันทร์ชอบออกมาว่ายน้ำกลางดึกเพียงลำพัง แต่หล่อนก็ไม่ฟัง
แรมจันทร์รู้สึกว่าการได้ออกมาทอดร่างลอยอยู่เหนือผิวน้ำ มันรู้สึกถึงอิสรภาพในชีวิตอย่างแท้จริง
แรมจันทร์ปลดเปลื้องผ้าถุงออกจากกาย พาเรือนร่างอวบขาวราวกับหยวก แหวกว่ายข้ามไปยังอีกฟากฝั่ง ราวกับต้องการจะหนีออกไปให้ไกลจากชีวิตอันซ้ำซากจำเจ ลึกๆ ในใจหล่อนอยากหลุดพ้นไปจากชีวิตในแต่ละวันซึ่งหมดไปกับงานบ้านอันน่าเบื่อหน่าย
บางครั้งแรมจันทร์เคยคิดอยากออกไปตามหาความฝัน หล่อนอยากเข้าไปหางานทำในกรุงเทพฯ ไม่ใช่ใช้ชีวิตวันๆ อยู่ในสวนลิ้นจี่และป่าอ้อยของชนบทบ้านนอกอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้
‘ดูท่าทางเอ็งเบื่อชีวิตแบบนี้’
เป็นคำพูดของปลิวที่กล่าวกับแรมจันทร์เมื่อนานมาแล้ว ตั้งแต่ตอนที่หล่อนตัดสินใจผูกข้อมือกับเขาแล้วมาอยู่ในบ้านของกำนันเรืองในฐานะ ‘สะใภ้’
ปลิวรู้ว่าแรมจันทร์มีความเป็นตัวเองสูง เรื่องไหนที่ตามใจได้เขาก็จะไม่ขัด อย่างเช่นเรื่องที่แรมจันทร์ชอบออกมาว่ายน้ำกลางคืนเพียงลำพัง
‘ทำไมเอ็งชอบเล่นน้ำเสียเหลือเกิน’
ปลิวเคยถามเมื่อนานมาแล้ว
‘ชาติก่อนฉันคงเป็นปลามั้ง... หรือไม่ก็เงือก’
แรมจันทร์ทำทีตอบขำๆ แต่หล่อนก็รู้สึกผูกพันกับสายน้ำจริงๆ
จึงไม่แปลกที่บ่อยครั้งผู้หญิงคนนี้มักจะออกมาเล่นน้ำ และสถานที่แห่งเดียวที่หล่อนชอบออกมาปลดปล่อยอารมณ์ ก็คือลำธารที่เชื่อมต่อกับคลองบริเวณหลังบ้าน
แรมจันทร์สนุกกับการแอบมาเล่นน้ำในลำธารเพียงลำพัง ร่างเปลือยเปล่าแหวกว่ายสำเริงสำราญราวกับเงือกน้อย แยกตัวเองออกจากโลกใบใหญ่ที่สับสนวุ่นวาย
ดำผุดดำว่ายอยู่ภายใต้แสงจันทร์นวล
หล่อนมีความสุขขณะปลดปล่อยความรู้สึกนึกคิดไปกับสายน้ำ ให้ความเย็นเยียบสัมผัสเนื้อตัวอันเปล่าเปลือยเหมือนถูกโลมเล้าด้วยสัมผัสของธรรมชาติ
“อ๊า... ”
แรมจันทร์ครางออกมาเบาๆ รู้สึกเป็นสุขกับการลูบไล้เรือนร่างงดงามของตัวเอง
หญิงสาวหารู้ไม่ว่าทุกครั้งที่หล่อนลงมาเล่นน้ำ จะมีสายตาคู่หนึ่งของมนุษย์ผู้ชาย ที่มักจะแอบมาซุ่มซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้
สายตาของเขาผู้นั้นจับจ้องเรือนร่างเย้ายวนของหล่อนแล้วลูบไล้ความเป็นชายของตัวเองไปพลาง รูดชักขึ้นๆ ลงๆ เสพความสุขจากสายตา จ้องมองเรือนร่างอวบขาวราวกับหยวก สะโพกกลมกลึงตึงเต็ม สองเต้าของแม่ลูกอ่อนอวบคัด สั่นไหวตามจังหวะแหวกว่ายกรรเชียงเหนือผิวน้ำ ทำเอาหนุ่มใหญ่ผู้แอบมองใจเต้นระทึก มือรูดชักสาวแก่นกายยาวใหญ่ซึ่งมือกำไม่รอบ
ผู้ชายคนนี้แอบหาความสำราญกับการลอบมองเรือนร่างเปลือยเปล่าของแรมจันทร์มานาน นับตั้งแต่วันแรกที่หล่อนย่างกรายเข้ามาเป็นสะใภ้ของบ้านหลังนี้
ภายหลังจากเล่นน้ำอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์พักใหญ่ๆ หญิงสาวก็พาร่างเปลือยเปล่าขึ้นจากน้ำ เอื้อมคว้าผ้าขนหนูที่พาดเอาไว้กับขอนไม้ริมตลิ่ง สวมกระโจมอกแล้วเดินอ้อมป่ากล้วยกลับเข้าเรือน
และในระหว่างทางที่กำลังจะถึงเรือนใหญ่ แรมจันทร์สังเกตุเห็นแสงไฟเรืองๆ จากตะเกียงลานสาดลอดออกมาจากรอยรั่วของแผ่นสังกะสีห้องน้ำที่หลังบ้าน
‘ใครทำอะไรอยู่ในนั้น?’
เสียงหายใจแรงเหมือนคนเหนื่อยหอบที่ดังออกมาจากห้องน้ำยิ่งกระตุ้นความสงสัย ทำให้แรมจันทร์ตัดสินใจเดินเข้ามาดู เพราะห่วงว่าอาจจะมีใครเป็นอะไรอยู่ในนั้น
แรมจันทร์ตัดสินใจแนบดวงตาเข้ากับรอยรั่วของแผ่นสังกะสี ครั้นแล้วก็ต้องตกใจเมื่อสายตาปะทะเข้ากับเรือนร่างเปลือยเปล่าของพ่อผัว