บท
ตั้งค่า

6-ใครอีกคน?

“โห อาไฟปังหาตั้งนานแอบหนีปังมาได้ไง ถ้าปังหลงทางนี่แย่เลยนะคะ” ขนมปังที่เดินหาผู้เป็นอาจนเจอ ไม่วายที่จะบ่นอุบอย่างเง้างอนเดินมาหยุดเคียงข้าง

“แล้วหนูหายไปไหน อาก็มองหาแต่พอหันหลังไป เอ้า!! ตายแล้วหลานสาวสุดสวยของอาหายไป นึกว่าหนุ่ม ๆ นักมวยฉุดไป ฮ่า ฮ่า ฮ่า” อาไฟพูดเย้าแหย่ คนที่หน้างอคอหักยืนกอดอกมองผู้เป็นอาอย่างแง่งอน

“ชิ!! ถ้าหนุ่มฉุดปังจะไม่ร้องเลยค่ะอาไฟขา” ขนมปังที่แสบซนพูดประชดคนเป็นอาด้วยสีหน้าทีเล่นทีจริง

โป้ก!!!!

“แก่แดดเกินไปแล้วปัง” อาไฟที่ไม่ค่อยชอบใจกับคำพูดของหลานสาว อดไม่ไหวที่จะทำโทษจนต้องประเคนมะเหงกลงกลางหัวหลานสาวที่แสบเอาการ

“โอ๊ย!!!! อาไฟหัวปังเนี้ยใกล้สมองเสื่อมแล้ว คนนั้นก็ลงมะเหงก คนนี้ก็ลงมะเหงก ทั้งคุณพ่อคุณแม่และพี่ไอติม แล้วนี่มีมะเหงกอาไฟอีก สมองปังไหลแล้วจ้า”

“เลิกบ่น...สรุปจะสมัครไหมเรียนชกมวยน่ะ” อาไฟยิ้มร่าชอบใจกับท่าทางบ่นยาวเหยียดของหลานสาว แล้วพูดย้ำในสิ่งที่หลานสาวต้องการจะทำในถัดมา

“เรียนสิคะ...นี่เสี่ยงชีวิตอันน่ารักมาขนาดนี้ไม่เรียนได้ไงอาไฟก็พูดไปนั่น” ขนมปังที่แสนจะพูดเก่ง พูดตอบผู้เป็นอาอย่างสดใส ความสดใสที่เธอมีแทบเฉิดฉายออกนอกกาแล็กซี่ก็ไม่ปาน

“นี่อาหมอกเป็นเจ้าของค่ายมวยที่นี่ เป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของอา” อาไฟแนะนำเพื่อนร่วมรุ่น ตั้งแต่แยกย้ายกันไปต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเองก็ไม่ค่อยได้พบเจอกันอีกเลย นานทีปีหนจะได้เจอพบหน้า นอกจากอาไฟจะตั้งใจมาหาด้วยตัวเอง ทั้งหน้าที่การงานและอีกหลายอย่างที่ยุ่งเหยิง

“สวัสดีค่ะคุณอาหมอก...ปังชื่อว่าขนมปังนะคะ เป็นหลานของอาไฟ” ขนมปังยกมือไหว้เพื่อนของอาไฟอย่างนอบน้อมพร้อมกับส่งยิ้มสดใสในแบบฉบับของเธอที่เป็นประจำ

“สวัสดีจ้ะ ท่าทางใช้ได้เลยนะ” อาหมอกเจ้าของค่ายมวยเอ่ยทักทายและสำทับด้วยการกล่าวชม

“อะไรใช้ได้ ความแสบน่ะใช้ได้ไอ้หมอก มึงเตรียมกุมขมับได้เลย” อาไฟพูดแซวหลานสาว

“ไม่ค่ะ ปังไม่แสบไม่ซนปังเป็นคนเรียบร้อยน่ารักมากค่ะคุณอาหมอก อย่าไปเชื่ออาไฟค่ะ อาไฟโกหก...อาไฟพูดใส่ร้ายหลานสาวแบบนี้ไม่น่าเอ็นดูเลยนะคะ” ขนมปังที่ไม่คิดเกรงกลัวใคร เอ่ยออกไปอย่างปฏิเสธในสิ่งที่อาไฟพูดขึ้น ก่อนจะหันไปพูดแย้งใส่อาไฟที่ยืนหัวเราะร่าขบขัน

“ฮ่าฮ่าฮ่า...เอาล่ะ ๆ แล้วหนูจะเริ่มวันไหนดีล่ะ” อาหมอกเอ่ยถามเมื่อปล่อยเสียงหัวเราะชอบใจกับการที่อาและหลานถกเถียงกันอย่างน่าเอ็นดู

“ปังขอเป็นเรียนหลังเลิกเรียนนะคะ เพราะวันเสาร์-อาทิตย์คงแอบหนีมาไม่ได้ คุณพ่อกับคุณแม่ลงหวายแน่นอนเลยค่ะ” ขนมปังพูดเสียงเบาใช้มืออังปากไว้อย่างกับเกรงว่าใครจะได้ยินในสิ่งที่เธอหลบซ่อนแอบทำ

“โอเค ตามนั้นเลย...เรียนเพื่อเป็นวิชาเป็นงานอดิเรก เป็นการออกกำลังกายไปในตัวใช้ป้องกันตัวเอง สังคมเดี๋ยวนี้ยิ่งน่ากลัว ดีแล้วล่ะหนูขนมปัง” อาหมอกพูดบอก

“ค่ะ ใครรังแกปังนะ ปังจะต่อยให้หน้าพังเลยเชียว ฟิ้ว ฟิ้ว เย็บ เย็บ!” ขนมปังพูดด้วยท่าทีมาดมั่น และยกกำปั้นแสดงท่าทางประกอบจนอาไฟแทบหลบหมัดหลานสาวไม่ทัน

“กูฝากด้วยนะหมอก...นี่ถ้าไอ้เจรู้นะกูตายแน่นอน” อาไฟพูดฝากฝังหลานสาวตัวแสบ

“อ้าว นี่ลูกไอ้เจหรอ” อาหมอกย้อนถามด้วยความตกใจ

“อืม...ลูกสาวคนเล็กกับเมียคนที่สอง” อาไฟแถลงไขให้ชัดแจ้ง

“ก็เอะใจว่าทำไมหน้าหนูขนมปังมันคุ้น ๆ ถอดหน้าไอ้เจมาเป๊ะเลย นึกว่าไอ้เจในคราบผู้หญิง” อาหมอกเจ้าของค่ายหันมองหน้าของขนมปังแล้วเอ่ยขึ้นทันใด

(พ่อครับพวกผมวิ่งครบแล้ว...ขอพักแป๊บนะ)

เสียงทุ้มของใครคนหนึ่งดังขึ้น ทำให้คนทั้งสามที่กำลังคุยกันนั้นหันหลังกลับไปมองทันที

“เออ พักก่อนสิบนาทีพ่อมีแขกพอดี” อาหมอกพูดบอกกับผู้มาใหม่ที่เป็นลูกชายแท้ ๆ

“นี่เจ้าด๊อจเหรอ?” อาไฟทักขึ้นพร้อมกับจ้องมองหน้าของชายหนุ่มที่มาใหม่

“อืมใช่...ด๊อจนี่อาไฟเพื่อนพ่อแกจำได้ไหม แกเคยเจอตอนเด็ก ๆ” ผู้เป็นพ่อแนะนำเพื่อนแก่ลูกชาย

“สวัสดีครับ ไม่เจอกันนานผมจำอาแทบไม่ได้” ด๊อจยกมือไหว้พร้อมกล่าวทักทายเพื่อนของพ่ออย่างคนคุ้นเคย

...อีกคนที่ยืนทำหน้าเอ๋อ ผู้ที่ไม่รู้จักใครเลยได้แต่ทำหน้างงและสงสัย มองหน้าคนทั้งสามที่พูดคุยกันอย่างออกรสสลับกันไปมา โดยไม่มีใครสนใจเธอแม้แต่คนเดียว

“นี่ลูกสาวอาไฟเหรอครับ” ด๊อจที่มองเห็นเด็กสาวตัวเล็ก ใบหน้าจิ้มลิ้มยืนเคียงอาไฟ จึงเอ่ยถามทันใดด้วยความสงสัย

(ลูกสาวบ้าบออะไร หน้าไม่เหมือนกันสักนิด นี่สาบานว่าใช้ตามองจริง ๆ นายด๊อก!) ขนมปังกัดฟันบ่นอุบอย่างไม่พอใจ เมื่อลูกชายของเจ้าของค่ายมวยทักท้วงสถานะของเธอ

“อ๋อ เปล่าหรอกนี่หลานสาวของอาชื่อขนมปัง...ขนมปังนี่ด๊อจลูกชายคนเล็กของอาหมอก อายุน่าจะเยอะกว่าปังสองปี ไหว้พี่เขาสิ" อาไฟตอบปฏิเสธลูกชายของเพื่อน แล้วแนะนำให้หลานสาวตัวแสบรู้จัก แต่เธอกลับใช้หางตามองหน้าของด๊อจที่ตอนนี้ยิ้มอ่อนมายังเธอที่ยืนอยู่ตรงข้าม

("แค่สองปีทำไมต้องไหว้ด้วย...ปังไม่ปลื้ม")

"บ่นอะไรขนมปัง...ไหว้สวัสดีพี่เขาสิ แล้วก็ทำสีหน้าให้มันดี ๆ หน่อย" อาไฟท้วงขึ้นเมื่อได้ยินเสียงยุบยิบของหลานสาวดังแว่วเข้ามาในหู

"สวัสดี....ค่ะ" ขนมปังที่เห็นหน้าแล้วดูไม่ค่อยถูกชะตา แต่ต้องจำยอมยกมือไหว้ชายตรงหน้าที่เป็นรุ่นพี่ด้วยความจำใจ เพราะอาไฟนั้นออกคำสั่งกับเธอ

"สวัสดีครับน้องขนมปัง" ด๊อจรับไหว้แล้วยิ้มให้

"ใครน้องนายไม่ทราบ!" ขนมปังพูดสวนทันทีด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว

"ขนมปัง!" อาไฟที่เห็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารักของหลานสาว เอ่ยชื่อเธอเสียงกร้าวอย่างเตือนสติ

"ขอโทษค่ะ..." ขนมปังทำสีหน้าสลดเมื่อถูกอาไฟนั้นตำหนิ กล่าวขอโทษด้วยน้ำเสียงแผ่วอย่างรู้สึกผิด

"น่ารักนะเราเนี้ย มาเรียนชกมวยเหรอ" ด๊อจไม่ได้ถือสาแต่อย่างใด เอ่ยถามออกไปด้วยรอยยิ้มสดใสที่ทำให้สาว ๆ ที่ได้เห็นนั้นแทบละลาย

"มาค่ายมวยคงเรียนรำไทยมั้ง" ขนมปังตอบแบบยียวน

"ขนมปัง...ยังไม่เลิกกวนพี่ด๊อจอีก..." อาไฟยีหัวหลานสาวตัวแสบพร้อมกับพูดเตือน "ด๊อจอย่าถือสาน้องเลยนะ ขนมปังก็เป็นแบบนี้แหละ แสบซนมากจนคนที่บ้านปวดหัวประจำ"

"ครับอา...น้องยังเด็ก" ด๊อจส่งยิ้มสายตาจ้องมองมายังขนมปังที่ยืนทำหน้าบึ้งเคียงข้างอาไฟ

กิริยาที่ดูกระด้างในสายตาของคนอื่น ชายหนุ่มลูกเจ้าของค่ายมวยกลับมองในแบบตรงกันข้ามอย่างสนใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel