4-จะไม่รออีกต่อไป
สามวันผ่านพ้นไป....กับการที่หญิงสาวนั้นต้องคอยฝึกซ้อมละครที่รุ่นพี่ส่งไปเป็นตัวแทนกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ต้องเลิกมืดแทบทุกวันจนช่วงนี้เธอไม่ค่อยมีเวลาให้กับเพื่อนสนิทสักเท่าไหร่
"เหนื่อยไหมน้องไอติม...อ่ะ น้ำครับ" แทนรุ่นพี่ที่เฝ้าดูการซ้อมของเธอเดินถือขวดน้ำเข้ามาหา เมื่อได้เวลาพักเบรกให้หายเหนื่อยจากที่ซ้อมกันอยู่นานนับชั่วโมง
"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวส่งยิ้มหวาน รับขวดน้ำขนาดพอดีมือ แล้วกระดกดื่มเพราะรุ่นพี่ที่ชื่อแทนนั้นเปิดฝาให้เรียบร้อย
"เป็นไงไหวไหม?" แทนถือวิสาสะนั่งลงเคียงข้างพร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงละมุน จ้องมองหน้าคนที่กำลังยกน้ำดื่ม หยาดน้ำที่ไหลลงตามผิวคอ ดึงดูดสายตาของชายหนุ่มที่นั่งเคียงจนแทบไม่อยากวางตา สีปากอมชมพูที่สัมผัสครอบครองปากขวดน้ำ ดูมีเสน่ห์น่าดึงดูดสายตาคนที่มองได้เป็นอย่างดี ทั้งที่เธอนั้นยังไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ
"อ่า ชื่นใจ...ไหวค่ะพี่แทน แต่ไอติมก็แอบกังวลอยู่นะ แล้วนี่พี่หวานไปไหนแล้วคะ?" หญิงสาวดื่มน้ำเย็นจนอิ่มท้อง หันหน้าส่งยิ้มหวานและให้คำตอบ จึงเอ่ยถามถึงรุ่นพี่อีกคนในประโยคถัดมา
"หวานเหรอ?....เห็นบอกว่าจะไปซื้อข้าวนะ" ชายหนุ่มรุ่นพี่บอกกล่าวในสิ่งที่หญิงสาวนั้นถาม
"อ๋อ...แล้วพี่แทนไม่หิวเหรอทำไมไม่ไปกับพี่หวาน" เธอถามต่อด้วยความสงสัย เมื่อเพื่อนอีกคนไปแล้วทำไมเขายังอยู่ทั้งที่ก็พักเบรกเหมือนกัน
"ไม่เป็นไร...พี่ยังไม่หิว แล้วไอติมล่ะหิวไหม...พี่ไปซื้อให้หรือเปล่า" เเทนเอ่ยถามและตามด้วยคำอาสาหากว่าหญิงสาวนั้นเอ่ยปากว่าหิวเขายินดีที่จะสนองหาอาหารให้
"ไม่ค่ะไม่ ไอติมยังไม่หิวพี่แทนไม่ต้องลำบากเลยค่ะ...เดี๋ยวไอติมกลับไปกินที่บ้าน คุณแม่คงทำไว้รอ" เธอรีบปฏิเสธพร้อมกับโบกมือไปมาอย่างน่ารัก เพราะเกรงใจหากรุ่นพี่ต้องลำบากหามาให้
"แน่ใจนะว่าไม่หิว" แทนถามย้ำอีกครั้งเพื่อสร้างความมั่นใจ
"แน่ใจค่ะ"
"น่ารักนะเราเนี้ย" ชายหนุ่มพูดหยอกอย่างเอ็นดู มือหนาวางบนหัวของหญิงสาวจับโยกไปมาเพราะหลงเสน่ห์ในความสดใสและรอยยิ้มที่หวานหยดไปทุกอณู
"ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่หรอกค่ะน่ารักกว่าไอติมมีเยอะแยะไป ไอติมเนี้ยไม่ได้เสี้ยวของสาว ๆ พี่แทนหรอกมั้งคะ...ใช่ไหม?" หญิงสาวที่ถูกจับหัวขยับตัวออกห่างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทางจนเกินไปว่าไม่อยากให้เขาเข้าใกล้เพราะอยากรักษาน้ำใจไว้ แม้จะแอบเคืองอยู่บ้างกับความถือวิสาสะนี้ไม่น้อย...คำชมที่ทำเธอหน้าแดงไม่น้อยทำได้เพียงยิ้มกลบเกลื่อน ถามย้อนออกไปอย่างบ่ายเบี่ยงในคำชม
"ไม่หรอก...พี่ว่าไอติมสดใสน่ารักกว่า" แทนยังคงพูดต่อพร้อมมองหน้าหญิงสาวที่กำลังยิ้มร่า
"พี่แทน...เดี๋ยวไอติมขอโทรศัพท์แป๊บนะคะ...ขอบคุณสำหรับน้ำเย็น" หญิงสาวที่นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้บอกเพื่อนชายคนสนิท เพราะเลยเวลากลับบ้านแล้ว ป่านนี้เขาต้องรอเธอนานแน่เลย ว่าจบเธอจึงลุกเดินจากไป มีเพียงสายตาของรุ่นพี่ที่มองตามหลังเท่านั้นจนเธอเดินลับสายตาไปยังด้านหลังอาคาร
ไลน์
((วันนี้เจทไม่ต้องรอไอติมนะ เดี๋ยวไอติมกลับเอง ซ้อมละครยังไม่เสร็จ))
ข้อความที่ถูกส่งมาในแอปพลิเคชันสีเขียว ทำเอาหัวใจของชายหนุ่มที่ยืนมองริมหน้าต่างนั้นห่อเหี่ยวทันที ทุกอิริยาบถของเธออยู่ในสายตาของเจทตั้งแต่เธอนั้นพูดคุยอย่างสนุกสนานกับรุ่นพี่ที่นั่งเคียง การสัมผัสถูกเนื้อตัวสาวทำเอาเจทนั้นขบกรามดังกรอดอย่างเก็บอารมณ์ ยืนกำโทรศัพท์มือถือแน่น จะเข้าไปขวางก็กลัวเพื่อนไม่พอใจเพราะสถานะที่ไม่ได้มีสิทธิ์มากมายในตัวเธอ...นอกจากเพื่อนเกลอคนสนิทเท่านั้น
("เจทรอได้") ชายหนุ่มดึงสติกลับคืนรีบตอบกลับข้อความของหญิงสาวทันที
((ไอติมเกรงใจไม่อยากให้เจทรอนาน เดี๋ยวไอติมให้ที่บ้านมารับ เจทรีบกลับเถอะ)) ข้อความถูกตอบกลับมาเหมือนขับไล่ ยิ่งทำให้เจทนั้นหัวใจสั่นไหว ยิ่งภาพการหยอกล้อที่เพื่อนสาวนั้นดูสดใสจนหัวเราะร่าผุดเข้ามาในห้วงความคิด ยิ่งตอกย้ำสถานะเพื่อนสนิทของเจทมากขึ้น ว่าไร้สิทธิ์ในตัวเธอ
("อืม...เจทกลับก่อนนะ") ชายหนุ่มพิมพ์ตอบกลับด้วยมือที่สั่นเทา แม้ในใจจะไม่อยากปล่อยเธอไว้เพียงลำพัง แต่ยังไงเขาก็ไม่อยากขัดใจเพื่อนคนนี้ จึงทำได้เพียงยอมรับมัน
"เจทจะไม่รออีกต่อไป"
ประโยคทิ้งท้ายก่อนที่ชายหนุ่มสลัดความคิดออกจากหัว เอี้ยวตัวเดินออกมาจากจุดเดิมมุ่งตรงกลับบ้านตามที่เพื่อนสาวนั้นบอกพร้อมกับหัวใจที่ห่อเหี่ยวเศร้าหมอง....
"แล้วน้องไอติมจะกลับยังไงครับ?" แทนเอ่ยถามหลังจากที่ซ้อมละครเสร็จสิ้น
"ไอติมให้ที่บ้านมารับค่ะ...แต่ยังไม่เห็นมาเลย" หญิงสาวให้คำตอบและหันไปยิ้มเจื่อนๆ
"มืดแล้วนะให้พี่ไปส่งไหม คนอื่นก็ทะยอยกลับกันจะหมดแล้วด้วย" แทนเอ่ยขึ้นอย่างอาสา เมื่อเวลานี้เริ่มโพล้เพล้มากแล้ว
"เดี๋ยวไอติมโทรตามที่บ้านแป๊บค่ะ" หญิงสาวพูดพร้อมควานหามือถือในกระเป๋าสะพายใบโปรด
"........" ชายหนุ่มเงียบปากไม่อยากขัดใจ จึงทำได้เพียงพยักหน้าและส่งยิ้มเท่านั้น แม้ภายในใจจะอยากไปส่งเพื่อให้ได้อยู่ใกล้เเค่ไหน
"งั้นไอติมขอตัวไปโทรศัพท์หาที่บ้านเเป๊บหนึ่งนะคะ" หญิงว่าแล้วก็เดินเลี่ยงออกมา ปล่อยชายหนุ่มรุ่นพี่ไว้ข้างหลัง
...เขายืนมองเธอด้วยสายตาของความคาดหวัง หากจะเดินหน้าจีบรุ่นน้องคนนี้จริงจัง เธอจะตอบรับไมตรีของเขาไหม? เธอมีคนในใจอยู่แล้วหรือเปล่า?
สายตาที่มองเธอในอริยาบถต่าง ๆ แม้แต่การที่เธอยืนคุยโทรศัพท์มันยังดูน่ารักในสายตาเขา แค่ยืนมองห่างๆ ยังเกิดรอยยิ้ม
"ขออย่าให้ไอติมมีแฟนเลย" ชายหนุ่มรุ่นพี่พึมพำกับตัวเองพร้อมจ้องมองไปยังหญิงสาวที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ห่างออกไป เธอยังยิ้มสวยและแววตาสดใสจนแทนนั้นหลงใหลในใบหน้าของเธอ
"อุ๊ย!!" หญิงสาวที่วางสายจากพ่อเจเอี้ยวตัวหันมาหวังเดินกลับที่เดิม แต่ต้องตกใจไม่ทันตั้งตัวเพราะมัวแต่ยิ้มหลังจากวางสาย ไม่ทันได้สังเกตว่ามีคนเดินมายืนข้างหลัง จึงชนเข้ากับอกแกร่งเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของรุ่นพี่
"พี่ขอโทษที่ทำให้ตกใจ แค่จะมาบอกว่าพี่หวานซื้อข้าวมาเผื่อ กินก่อนกลับบ้านไหม?" แทนเอ่ยถามหลังจากที่ปล่อยร่างกายบอบบางให้เป็นอิสระ
"อ่อ ได้ค่ะกินรอให้คนมารับ..." ไอติมให้คำตอบ จนคนที่ได้ฟังนั้นอมยิ้มดีใจ ครั้งแรกที่จะได้ทานข้าวด้วยกัน แม้จะเป็นเพราะงานที่บังหน้า แม้ว่าจะไม่ได้ทานด้วยกันสองต่อสองก็ทำให้ชายหนุ่มรุ่นพี่ดีใจมากแล้ว
((ไอติม แทน...มากินข้าวเร็ว)) เสียงของหวานเรียกขานดัง จนคนที่ยืนห่างนั้นหันไปมองพร้อมกับส่งยิ้มอ่อนตอบรับคำเชิญ
*******************
"ครับพ่อ" เสียงทุ้มรับสายเมื่อเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาบ่งบอกว่าเป็นใคร
((เจท...คือพ่อมีเรื่องรบกวนหน่อย)) เสียงของปลายสายพูดขึ้นนิ่งเรียบ
"มีอะไรให้ผมช่วยครับ" เจทพูดตอบต่อการขอร้องนั้น
((พอดีไอติมโทรมาบอกว่าให้พ่อไปรับ...แต่ตอนนี้พ่อยังกลับไม่ได้ มาทำธุระกับแม่ข้างนอกซึ่งค่อนข้างสำคัญ และพ่อไม่อยากให้ไอติมกลับเองหากนั่งแท็กซี่ พ่อเป็นห่วง เจทช่วยพ่อได้ไหม?)) ประโยคยาวเหยียดที่เปรยออกมา เจทตั้งใจฟังมันอย่างดี นี่เขาต้องกลับไปรับเธอสินะ ทั้ง ๆ ที่เธอนั้นบอกเขากลับก่อนเหมือนขับไล่ จะให้ย้อนไปอีกแล้วเธอจะพอใจเขาไหม?
"................." เจทเงียบและฟังพร้อมหวนคิดอย่างคนเลื่อนลอย
((เจท!! ได้ยินพ่อไหม...))
"ครับพ่อ...ให้ไอติมรอผมสักครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวผมไปรับให้ครับ" ชายหนุ่มสะดุ้งเมื่อเสียงปลายสายนั้นดังและรีบดึงสติกลับมา ตอบรับคำขอของพ่อเจอย่างเร็วไว...
((ขอบใจมาก...และขอโทษที่รบกวนเวลาส่วนตัว)) เสียงทุ้มเข้มของพ่อเจพูดขึ้นแม้จะเกรงใจอยู่บ้าง แต่ธุระสำคัญที่เลี่ยงไม่ได้ คนที่ไว้ใจที่หวนนึกถึงนั่นคือเจท เพื่อนสนิทของลูกสาวตั้งแต่เยาว์วัย
"ครับ เดี๋ยวผมพาไอติมไปส่งที่บ้านให้อย่างปลอดภัย" เจทรับปากเสียงหนักแน่น
((ขอบใจอีกครั้ง...งั้นพ่อวางสายนะ))
"สวัสดีครับ" เจทกดวางสายและยัดโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกง หันไปหยิบเสื้อคลุมและกุญแจรถก่อนจะรีบวิ่งออกจากห้องด้วยความเร่งรีบ เพราะไม่อยากให้หญิงสาวนั้นรอนาน
"เจททำไมลูกดูรีบร้อน...จะไปไหนมืดแล้วนะ" เสียงของผู้เป็นแม่เอ่ยถาม เมื่อลูกชายวิ่งลงมาจากบ้านด้วยความรีบร้อน
"เดี๋ยวเจทมานะครับแม่..ทานข้าวก่อนเลยไม่ต้องรอ เจทอาจจะกลับดึก ๆ...แต่ไม่ต้องห่วงนะครับแค่ไปรับไอติม" ลูกชายบอกกล่าวกับผู้เป็นแม่ เดินเข้าไปกอดและหอมแก้มเมื่อผู้เป็นแม่นั้นเอ่ยทัก รีบบอกเล่าถึงสิ่งที่ต้องทำนับจากนี้ เจทเป็นลูกที่ดีไม่เคยเหลวไหลไม่เคยทำให้พ่อแม่ไม่สบายใจ การจะไปไหนมาไหนพ่อและแม่จึงไม่เซ้าซี้มากความ เพราะลูกชายไม่เคยโกหก
"ทำไมน้องไอติมถึงกลับมืดนัก" ผู้เป็นแม่เอ่ยถามอย่างสงสัยและละอ้อมกอดจากลูกชาย
"อ๋อ...ไอติมมีกิจกรรมได้แสดงละคร เธอจึงต้องอยู่ซ้อมครับแม่...แค่วันนี้พ่อของไอติมติดธุระสำคัญจึงวานให้เจทไปรับแทน เพราะไม่อยากให้ไอติมนั่งแท็กซี่กลับคนเดียว" เจทบอกกล่าวให้ผู้เป็นแม่รับรู้
"อ๋อ...งั้นลูกรีบไปเดี๋ยวน้องไอติมจะรอนาน นี่ก็เริ่มมืดแล้ว" ผู้เป็นแม่พูดขึ้น เธอเอ็นดูไอติมตั้งแต่เด็กตั้งแต่ที่ได้เจอกันในกิจกรรมวันแม่ในระดับชั้นอนุบาล และพอโตขึ้นเจทก็พามาเที่ยวเล่นที่บ้านติวหนังสือจนคุ้นเคยกัน
"เจทไปนะครับ"
"ขับรถดี ๆ นะลูก" ผู้เป็นแม่กล่าวอวยพรก่อนที่ลูกชายจะส่งยิ้มแล้วรีบวิ่งออกไป