บทที่2 ทำไมเธอหน้าด้านขนาดนี้
บทที่2 ทำไมเธอหน้าด้านขนาดนี้
หลังจากรู้ว่าหร่วนซิงหว่านจะหย่าแล้ว ในฐานะเพื่อนสาวที่สวมกระโปรงร่วมกันได้ เพ้ยซานซานด่าว่าโจวฉือเซินด้วยความฮึกเหิมไปสิบนาที แล้วถึงพูดว่า “ไอผู้ชายหมาๆคนนั้นไม่ได้ให้เงินเธอสักบาทจริงๆเหรอ? เขาไปเที่ยวนางแบบข้างนอกยังใช้เงินตั้งเยอะ แต่กลับขี้เหนียวกับเมียตัวเองแบบนี้?”
“ก็ไม่ขี้เหนียวหรอก สามปีมานี้ฉันได้เงินจากเขาไม่น้อย เขาไม่มาตามหาฉันให้กลับไปก็นับว่าดีแล้ว”
“เธอคิดแบบนี้ไม่ได้นะ พวกเธอเป็นสามีภรรยากัน เงินของเขาก็คือเงินของเธอ เงินของเธอก็ยังเป็นเงินของเธอ! แล้วอีกอย่าง ทุกวันเขายังเอาเธอฟรีๆ เธอใช้เงินเขานิดหน่อยเป็นไรไป!”
หร่วนซิงหว่านขมับกระตุก “เธอเปลี่ยนคำหน่อยได้ไหม”
เพ้ยซานซานใจเย็นลง “โทษที ห้ามอารมณ์ตัวเองไม่ได้ไปพักหนึ่ง”
หร่วนซิงหว่านอยู่บนโซฟา ทนจนทนไม่ไหว พูดด่าทอ “วันนี้ฉันเสนอเรื่องหย่า ไอ้ผู้ชายหมาๆคนนั้นยังจะถามฉันว่าต้องการเงินเท่าไหร่? หนังสือตกลงการหย่าก็ไม่ชายตามอง ราวกับกลัวว่าฉันเป็นสิงโตอ้าปากกว้าง ขย้ำเนื้อบนตัวเขา! จำเป็นไหม?”
“งั้นพูดกลับกัน ทำไมเธอต้องหย่า? ก็ถ่วงเขาไว้สิ ดูซิว่าใครจะถ่วงใครตาย”
ได้ยินแบบนี้ หร่วนซิงหว่านก็สงบลงมา “อ่อ ซูซือเวยท้องแล้ว”
ซูซือเวยคือนางแบบที่ช่วงนี้มีชื่อเสียงเล็กน้อย ใกล้ชิดกับโจวฉือเซินมาก คนที่มีตาล้วนดูออกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ปกติ
หร่วนซิงหว่านกับโจวฉือเซินแต่งงานมาสามปี เธอรู้ถึงระดับความรังเกียจที่โจวฉือเซินมีต่อเธอ หนึ่งเดือนสามารถกลับบ้านได้สองครั้ง เป็นขีดจำกัดความอดทนที่มากที่สุดของเขาแล้ว
ทุกครั้งที่พวกเขามีอะไรกันล้วนเป็นเรื่องที่ทำเป็นปกติ โจวฉือเซินไม่มีความรู้สึกต่อเธออยู่ในนั้นเลยแม้แต่น้อย
ทำยังไงให้เธอเจ็บปวดได้ก็ทำอย่างนั้น
ซูซือเวยไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกที่เคยปรากฏตัวข้างกายโจวฉือเซิน ซิงหว่านไม่ได้เก็บมาใส่ใจ
กระทั่งหนึ่งสัปดาห์ก่อน ในตอนที่เธอเลือกของขวัญครบรอบแต่งงานสามปีที่กำลังจะมาถึงอย่างมีความสุข จู่ๆซูซือเวยก็ปรากฏตัวต่อหน้าเธอรายงานผลตรวจครรภ์ ประกาศอย่างภาคภูมิใจ “ฉันท้องแล้ว ถึงเวลาที่เธอจะปล่อยตำแหน่งคุณนายโจวไปแล้ว”
ในตอนที่เห็นรายงานผลตรวจครรภ์นั้น การหลอกลวงตัวเองทั้งหมดในช่วงสามปีที่ผ่านมาของหร่วนซิงหว่านก็กลายเป็นเรื่องจริงที่น่าปวดหัว
ความทรงจำที่เจ็บปวดเหล่านั้นปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ ราวกับกำลังบอกเธอ หร่วนซิงหว่านเอ๋ย เธอรู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าทั้งไร้ยางอายทั้งน่ารังเกียจใช่ไหม แต่สาเหตุที่เธอได้แต่งงานกับโจวฉือเซิน ก็เพราะใช้วิธีการแบบนี้ อุ้มลูกในท้องมาบังคับให้แต่งงานไม่ใช่เหรอ
เธอเองก็เหมือนกัน ทำให้โจวฉือเซินรู้สึกรังเกียจ
ตอนนี้ก็แค่มีคนเอาวิธีการของเธอมาทำซ้ำอีกรอบเท่านั้น
เพ้ยซานซานโมโหมาก “นี่มันจะเหมือนกันได้ยังไง ตอนนั้นเธอแต่งงานกับโจวฉือเซินเขายังโสด แต่ซูซือเวยรู้ดีว่ามีเธออยู่ ยังไต่เต้าขึ้นมา นี่มันนังตัวร้ายหน้าด้าน!”
“ยังไงก็ช่าง ไม่ต่างกัน” หร่วนซิงหว่านพูด “อันที่จริงแต่งงานกับโจวฉือเซินสามปีมานี้ ทุกคืนฉันนอนไม่ได้เลย ไม่ว่ายังไง ตอนนั้นเขาก็ถูกฉันบังคับให้แต่งงานจริงๆ ตอนนี้หย่าก็ดีแล้ว ฉันไม่ติดค้างอะไรเขาแล้ว”
หลังจากเพ้ยซานซานด่าว่าโจวฉือเซินกับซูซือเวยสุนัขชายหญิงคู่นั้นอย่างฮึกเหิมต่ออีกครึ่งชั่วโมง ถึงเริ่มพาหร่วนซิงหว่านที่หนังตาเริ่มต่อสู้มาที่ห้องนอน “หลังจากนี้เธอก็อยู่กับฉันนี่แหละ ถึงยังไงแฟนฉันก็ไม่อยู่ ห้องนี้ใหญ่โตมาก ฉันอยู่คนเดียวก็กลัว”
หร่วนซิงหว่านหาวแล้วพยักหน้า “ฝันดี”
บ่ายวันถัดมา หนังสือตกลงการหย่าปรากฏอยู่บนโต๊ะทำงานของโจวฉือเซิน ลายเซ็นในตอนท้ายราวกับกำลังแยกเขี้ยวประท้วงเขา
หลินหนานเห็นเจ้านายของตนสีหน้าเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าแล้วพูด “ประธานโจว เมื่อกี้ผมยืนยันกับทางคฤหาสน์ซิงหูแล้ว คุณนายย้ายออกไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว นอกจากของใช้ส่วนตัว ที่เหลือก็ไม่ได้เอาอะไรไปเลย”
โจวฉือเซินปิดสัญญาการหย่าลง โยนไปด้านข้าง “หย่าแบบไม่แบ่งทรัพย์สิน ไม่เอาอะไรไป แกว่า ครั้งนี้เธอจะเล่นปาหี่วิ่งไล่จับอะไรกับฉันอีก?”
หลินหนานไม่ได้พูดตอบ ไม่ใช่ภรรยาของเขา เขาจะไปรู้รสนิยมระหว่างสามีภรรยาของพวกเขาได้ยังไง
โจวฉือเซินก็ไม่คาดหวังว่าจะได้ฟังคำตอบอะไรที่มีประโยชน์จากเขา พูดเสียงนิ่ง “ออกไปเถอะ”
หลินหนานเดินไปได้สองก้าวก็หันกลับ “ประธานโจว สร้อยคอที่สั่งทำจากปารีสเส้นนั้นมาถึงแล้ว งั้นตอนนี้ก็......”
เดิมทีนี่เป็นของขวัญที่ประธานโจวมอบให้คุณนายโจวในการแต่งงานสามปี ดูท่าตอนนี้เป็นแบบนี้ คงไม่มีประโยชน์แล้ว
“ทิ้งไป”
คำสองคำเฉยชาไร้อุณหภูมิ
หลินหนาน “ครับ”
หลังจากหลินหนานไปแล้ว โจวฉือเซินก็หยิบข้อตกลงการหย่าเล่มนั้นขึ้นมาอีกครั้ง สายตาตกอยู่ที่ช่องเซ็นชื่อ ส่งเสียงหัวเราะ คิ้วตามีความเย็นเยือก
ผู้หญิงคนหนึ่งไม่ลังเลที่จะสละตัวเองเล่นละครตบตา มาดึงแขนเสื้อเขาขอร้องให้ช่วยเธอที่มู่สื้อ แล้วบังคับให้แต่งงานภายใต้หน้ากากตั้งท้อง จิตใจโหดร้าย เพื่อเป้าหมายไม่เกี่ยงวิธีการ ทำไมจู่ๆก็มีใจคุณธรรมขึ้นมา
หรือว่ามีเป้าหมายใหม่อีกแล้ว
โจวฉือเซินขยำกระดาษในมือเป็นก้อนกลม ทิ้งลงไปในถังขยะ
……
หร่วนซิงหว่านรออยู่ที่บ้านหลายวัน ก็ไม่ได้ข่าวคราวจากโจวฉือเซิน ข้อความที่ส่งไปก็ราวกับจมดิ่งลงทะเล
วันแรก [หนังสือตกลงการหย่าได้รับหรือยัง ฉันเซ็นชื่อเรียบร้อยแล้ว บอกฉันหน่อยถ้านายมีเวลา พวกเราไปสำนักกิจการพลเรือนดำเนินการให้เรียบร้อยไหม?]
ใจกว้างมีน้ำใจ อ่อนโยนประพฤติตัวดี
วันที่สอง [Hello? เห็นข้อความของฉันหรือยัง? นายไม่พอใจตรงไหนในหนังสือตกลงการหย่าหรือเปล่า?]
ระมัดระวังหยั่งเชิง ตรวจสอบอย่างกล้าหาญ
วันที่สาม[ประธานโจว ฉันรู้ว่าคุณงานยุ่งมาก แต่ขอเชิญคุณเจียดเวลาที่ยุ่งมากมาหย่ากับฉันหน่อยได้ไหม?]
ยับยั้งชั่งใจ ไม่ย่อท้อ
วันที่สี่[โจวฉือเซินนายพอสักทีได้ไหม จะหย่าก็ชักช้า ถ้านายไม่อยากเจอฉันขนาดนั้นก็รีบดำเนินการให้เรียบร้อย หลังจากนี้ไม่ต้องติดต่อกันอีก ขอบคุณ ]
ทนแล้วทนเล่า ไม่ต้องทนอีกต่อไป
วันที่ห้า--
[อีกฝ่ายเปิดใช้การยืนยันเพื่อน คุณไม่ใช่เพื่อนของเขา(เธอ) โปรดส่งคำขอยืนยันเพื่อน หลังจากอีกฝ่ายยืนยันแล้ว ถึงสามารถแชทได้]
หึหึ
ไอ้ผู้ชายหมาๆ
หร่วนซิงหว่านวางมือถือลงลุกขึ้นทันที มาถึงคลับมู่สื้อ
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะโชคไม่ดี ไม่ได้เจอโจวฉือเซิน แต่ได้เจอกับคุณนายคนต่อไปของเขา
ซูซือเวยเดิมทีนัดเพื่อนมากินข้าวที่นี่ เมื่อเดินมาถึงประตู ก็เห็นหร่วนซิงหว่านยืนอยู่ตรงนั้น ยิ้มอย่างเหยียดหยามทันที เหยียบรองเท้าส้นสูงเดินเข้าไป น้ำเสียงมีความเยาะเย้ย “คงไม่ใช่ว่าตอนนี้ใจเธอยังไม่ตายด้าน คิดจะมาหาฉือเซินที่นี่หรอกนะ”
หร่วนซิงหว่านเหลือบมองเธอนิ่งๆ ไม่พูดจา
ซูซือเวยเห็นเธอท่าทางดื้อดึง ก็ยิ่งคึกคัก “ทำไมเธอหน้าด้านแบบนี้ ฉันบอกเธอไปแล้วว่าฉันท้อง เธอก็ยังยึดครองตำแหน่งคุณนายโจวไว้ไม่ปล่อย เธอไม่รู้เหรอว่าท่าทางขวางหูขวางตาของเธอมันน่าเกลียดแค่ไหน!”