บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1

คลับ TTP เป็นผับที่เรียกได้ว่าหรูและดูดีที่สุดในย่านxxxเลยก็ว่าได้ นักท่องราตรีส่วนใหญ่ต้องมีเงินถึงพอสมควรถึงจะเข้ามาเที่ยวในที่แห่งนี้ได้ สถานที่แห่งนี้มีอุปกรณ์สำหรับนักพนันมากมายให้เลือกเล่นตามใจชอบ แต่ถ้าใครจะเข้าเล่นต้องสมัครวีไอพีเดือนล่ะ5หมื่นเท่านั้น และยังไม่รวมสำหรับใครที่ต้องการให้มีสาวๆมานั่งประจำโต๊ะด้วยค่าเรียกเด็กคนล่ะ2พันบาทและค่าตัวของผู้หญิงแต่ล่ะคนอีกต่างหาก

" มึงจะเอาไงไอสัส! "

" ต่อยกับกูมั้ยไอเหี้ย!! " เสียงเอะอะดังมาจากชั้นสองของคลับ ทำให้การ์ดที่อยู่ทางด้านนอกต้องวิ่งกรู่กันเข้ามา เพื่อมาแยกคนทั้งคู่ออกจากกัน

ก๊อกๆๆ

" เฮียครับ ชั้นสองมีเรื่องครับเฮีย " พนักงานที่คอยควบคุมดูแลบริเวณชั้นสองของคลับรีบวิ่งขึ้นมาที่ชั้นสามและเคาะประตูด้วยความร้อนใจชั้นที่สามคือชั้นของเจ้าของหรือหุ้นส่วนของที่นี่เพราะฉะนั้นถ้าเกิดอะไรขึ้นภายในร้านจนเกินจะควบคุม พนักงานหรือคนที่คอยดูแลของแต่ล่ะชั้นจะเป็นคนเข้ามาบอกกับเจ้าของหรือหุ้นส่วนที่อยู่ภายในห้อง

" เดี๋ยวฉันไป " ธีร์เอ่ยตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่นิ่งและสุขุม เสมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่ได้ยิน

" มึงจะตามไอธารมั้ย " พายับเอ่ยถามเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนของตัวเองอีกคนนึง

" ตาม " ธีร์ตอบสั้นๆและเดินออกไปทันที ทำให้พายับต้องเดินตามออกไปด้วยเช่นเดียวกันในขณะที่มือก็กดโทรหาธารไปด้วย เมื่อทั้งหมดเห็นว่าพายับและธีร์เดินลงมาแล้วก็หลีกทางให้เจ้านายทั้งสองได้เข้าไปจัดการกับปัญหาที่กำลังเกิดขึ้น เมื่อพายับและธีร์ไปถึงก็เห็นว่าการ์ดได้ควบคุมตัวของทั้งสองให้แยกกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

" มีเรื่องอะไรกัน " พายับถามปายลูกน้องที่คอยควบคุมสถานการณ์อยู่ทางด้านหน้าตัวเอง

" คือแขกสองคนนี้เขาแย่งเด็กร้านกันครับเฮีย แต่เอ่อ..เหมือนจะยังตกลงกันไม่ได้ครับ “ ปายบอกตามที่เห็นและได้ยินมา

“ ทำไมแค่นี้ถึงจัดการกันไม่ได้ “ พายับถามเสียงขุ่น โดยที่มีธีร์มองสถานการณ์นิ่งๆ ซึ่งพนักงานทุกคนต่างก็มองหน้ากันด้วยความหวาดหวั่น เพราะไม่สามารถเดาอารมณ์ของเจ้านายของตนเองคนนี้ได้เลยสักครั้งเพราะใบหน้าที่นิ่งงันตลอดเวลา

“ ขอโทษนะครับ ทางเราคงต้องขออนุญาตเก็บอาวุธที่คุณทั้งสองนำมาด้วย “ พายับพูดกับลูกค้าทั้งสองด้วยคำพูดที่สุภาพแต่แววตานั้นไม่ได้เป็นอย่างนั้นแม้แต่น้อย พายับหันไปหาลูกน้องของตัวเองที่อยู่ด้านข้างลูกค้าทั้งสองคน และใช้สายตาสื่อสารบางอย่างออกไป เพียงเท่านั้นลูกน้องหรือพนักงานในร้านก็รู้ว่าควรจะต้องทำอะไร

“ กฎของทางร้านระบุไว้ชัดแจ้งแล้วว่าไม่สามารถนำอาวุธหรืออุปกรณ์อันตรายเข้ามาภายในร้านได้แต่คุณทั้งสองคนยังฝ่าฝืนโดยการพกเข้ามา ผมจึงจำเป็นที่จะต้องทำตามกฎโดยการยึดมัน หวังว่าคงจะไม่มีใครคัดค้านอะไรนะครับ “ พายับหันมองชายหนุ่มที่เป็นลูกค้าทั้งสองคนสลับไปมา เขายอมเป็นฝ่ายพูดขึ้นเองเสียดีกว่าให้เพื่อนอีกสองคนเป็นฝ่ายจัดการ

ชายทั้งสองได้แต่มองหน้ากันอย่างไม่ยอมแพ้ แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดแทรกหรือขัดขืนอะไรออกมาเพราะรู้ดีว่าพายับ ธีร์และธารนั้นขึ้นชื่อเรื่องความโหดแค่ไหน

“ ในเมื่อเคลียร์ทุกอย่างได้รู้เรื่องแล้ว ก็เชิญพักผ่อนตามสบายครับและผมเองก็หวังว่าคงไม่ต้องลงมาควบคุมสถานการณ์เหมือนเมื่อสักครู่อีก “ พายับพูดเสียงเรียบแต่ใบหน้าไม่ได้เรียบตึงเหมือนตอนแรกแล้ว

“ หวัดดีครับทุกคนนน มีเรื่องอะไรกันครับเนี้ยยถึงได้รวมตัวกันแบบนี้ได้ “ เสียงชายหนุ่มผู้ที่เป็นหุ้นส่วนอีกคนของร้านดังขึ้น ทั้งหมดหันไปมองทางต้นเสียงอัตโนมัติ

“ ไอเชี้ยธาร! “ พายับเรียกชื่ออีกคนพร้อมกับขมวดคิ้วเมื่อเพื่อนตัวดีโผล่เข้ามาตอนนี้

“ ผมได้ข่าวว่าที่นี่มีเรื่องสนุกๆทำกัน ผมขอร่วมด้วยสิครับ..คุณเจ้าของร้านและคุณลูกค้า “ ธารเดินเข้าไปกอดคอน้องชายและพูดขึ้นยิ้มๆพลางส่งสายตามองไปยังลูกค้าทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ไม่น่ายินดีด้วยเท่าไหร่นักสำหรับผู้พบเห็น ชายทั้งสองที่มีเรื่องกันในตอนแรกได้แต่ก้มหน้างุดไม่กล้ามองไปยังชายหนุ่มเจ้าของร้านทั้งสามคน

“ มึงนี่มัน..เอาเป็นว่าไม่มีอะไรแล้ว เชิญทุกท่านตามสบายนะครับ “ พายับหันมาจะโวยวายธารในตอนแรกก็ต้องชะงักไปเมื่อนึกได้ว่าตอนนี้เขาทั้งสามได้อยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ พายับจึงหันไปพูดคุยกับลุกค้าในประโยคถัดมาทันที ทำให้สถานการณ์ในร้านกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง

พายับ ธีร์และธารได้เดินขึ้นมายังห้องทำงานของตัวเองหลังจากที่เรื่องภายในชั้นสองได้ถูกเคลียร์หมดแล้ว

“ กว่าจะโผล่มาได้นะมึง ต้องให้ลูกน้องกูไปตามรึไง “ พายับบ่นใส่ธารทันทีเมื่อเข้ามาในห้องพร้อมกับนั่งที่โซฟา ธีร์และธารก็นั่งลงด้วยเช่นกันแต่คนละฝั่ง

“ ลูกน้องมึงก็ลูกน้องกูมะ “ ธารทำหน้ายียวน จนพายับได้แต่ถอนหายใจด้วยความเบื่อหน้ากับการกวนหน้าตาของเพื่อน

“ ถ้าจะเข้ามาอย่าทำแบบนี้อีก ถ้าไม่คิดช่วยมึงก็ไปรอในห้องนิ่งๆ “ ธีร์พูดเสียงนิ่งดุพี่ชายที่ห่างกันเพียงสามวิของตัวเอง

“ โอ๋ๆๆๆ ไม่งอนพี่นะครับน้องธีร์ เดี๋ยววันนี้พี่หาหญิงแจ่มๆให้ “ ธารพูดยิ้มๆอย่างคนอารมณ์ดีพลางกอดคอน้องชายแล้วโยกไปมาเบาๆ ธีร์ได้แต่ปลายหางตามองพี่ตัวเองด้วยสายตานิ่งๆคาดเดายากอีกตามเคย

“ แล้วนี่มึงไปไหนมา ถึงไม่มาในห้องด้วยกันในตอนแรก “ พายับถามขึ้นเมื่อนึกได้

“ กูก็ไปเคลียร์เอกสารมาสิครับ กระผมไม่ได้ดูแลธุรกิจนี้ธุรกิจเดียวนะฮะ มีอีกหลากหลายมากมายที่กระผมจะต้องไปดูแล “ ธารอธิบายด้วยน้ำเสียงที่กวนเช่นเดิม

“ ทิ้งไว้ วันหลังเดี๋ยวเข้าไปเซ็นเอง “ ธีร์พูดสั้นๆเพราะเขาเองก็รู้ดีว่าธารนั้นก็เหนื่อยมากเหมือนกัน

“ เหมือนงานมึงน้อยมากงั้นแหละ บริษัทที่รัสเซียมึงได้เข้าไปบ้างรึเปล่าเหอะ แล้วไหนจะที่มาเลอีกแค่นี้งานของน้องชายของพี่ธารก็เยอะแยะมากมายจนล้นมือแล้วนะขอรับ ถ้าคุณหญิงแม่กับคุณพ่อรู้มีหวังได้ฆ่ากระผมแน่นอนขอรับ “ ธารบ่นพลางส่ายหัวให้กับน้องชาย

“ พอๆๆเลิกเถียงกัน เดี๋ยววันนี้กูจะพาพวกมึงไปล่าเหยื่อเอง “ พายับพูดพลางส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้เพื่อน

“ รออะไรละครับบ “ ธารพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนเช่นเดียวกับพายับส่วนธีร์นั้นได้แต่มองไปยังเพื่อนทั้งสองนิ่งๆเช่นเดิม

“ ไหนๆก็จะลุยงานหนักแล้วงั้นวันนี้กูขอผ่อนคลายหน่อยแล้วกัน มึงอย่ามาห้ามกูด้วยนะไอธีร์ แดกๆเข้าไปวันนี้เต็มที่และส่วนเรื่องงานมึงเก็บพับใส่กระเป๋าไว้ก่อนเลย กูยังไม่พร้อมเครียดอะไรตอนนี้ “ ธารพูดและยกมือห้ามอย่างจริงจัง

“ กูยังไม่ได้พูดอะไร “ ธีร์พูดตอบกลับเสียงนิ่ง

“ ไปๆๆ ลงไปชั้นหนึ่งกันเผื่อจะเจอสาวแจ่มๆ “ พายับเอ่ยชวน ธารมองหน้าน้องชายพร้อมกับพยักหน้าเพื่อให้ลงตามมาด้วยกัน เพราะรู้ว่าน้องชายของตัวเองจะต้องแอบเข้าไปที่ห้องทำงานของตัวเองเพื่อนั่งทำงานอย่างแน่นอน ก็น้องชายเขามันเป็นประเภทพวกบ้างานนี่น่า

เมื่อทั้งสามคนได้ลงมายังชั้นหนึ่ง มีพนักงานมากมายที่ต่างพากันก้มหัวให้เขา พายับเดินนำธารและธีร์มายังโต๊ะประจำของพวกเขาซึ่งเวลานัดรวมกลุ่มหรือสังสรรค์กันก็จะใช้โต๊ะนี้เป็นที่นั่งพูดคุย ซึ่งเป็นโต๊ะที่อยู่ใกล้กับแถวโต๊ะบาร์เทรนเดอร์ของร้าน

“ พวกเฮียเอาเหมือนเดิมรึเปล่าครับ “ นุ๊ก เด็กหนุ่มอายุ19 ถามขึ้น เพราะทำงานที่นี่มาได้หลายปีตั้งแต่อายุ15 จึงทำให้ค่อนข้างจะรู้ใจและสนิทกับพวกของพายับเป็นอย่างดี

“ เออ “ พายับพยักหน้า พลางสอดส่ายสายตามองหาสาวๆทั่วร้าน

“ หน้าม่ออีกแล้วสิมึง หึหึ “ ธารพูดแซวเพื่อน เพราะพายับและรวมถึงเขาเองขึ้นชื่อว่าเป็นเสือตัวพ่อเช่นกัน ส่วนธีร์นั้นเรียกว่าเสือซุ่มจะดีกว่าเพราะน้องชายของเขาคนนี้จะเน้นกินเงียบๆแต่เสร็จทุกราย

“ อย่างกูเขาเรียกบริหารเสน่ห์เว้ย “ พายับโวยวายออกมายิ้มๆ

.

.

.

“ ชนโว๊ยยย “ ซัน รุ่นพี่ปีสามของคณะบริหารสาขาการจัดการ ได้เชิญชวนน้องปีหนึ่งในสายเพื่อออกมากินเลี้ยงฉลองที่การรับน้องได้สิ้นสุดลงแล้ว ทำให้กายต้องมาด้วยอย่างช่วยไม่ได้จะปฎิเสธไปก็ไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรมาพูดอีกเพราะตัวเขาเองก็มาที่นี่คนเดียวเพราะไอเพื่อนตัวดีของเขามันได้หนีไปกับแฟนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ ทำหน้าให้มันดีดีหน่อยไอกาย มาเที่ยวนะเว้ยไม่ได้พามารบ “ เสียงของไมโลรุ่นพี่ผู้หญิงในสายพูดแซวขึ้นยิ้มๆพลางกระแทกไหล่อย่างหยอกเย้า กายได้แต่กรอกตามองบนในมือนั้นก็ถือแก้วเหล้าที่รุ่นพี่เป็นคนชงให้

“ ผมไม่ได้อยากมาซะหน่อย “ กายบ่นอุบ

“ เอาน่า ถือซะว่าพวกพี่เลี้ยงสายรหัสไงมันจะไม่มาก็ไม่ได้ป่ะวะ “ พีนัทที่นั่งอยู่ด้านข้างไมโลพูดขึ้นยิ้มๆ มือบางโอบเอวของไมโลเอาไว้หลวมๆเพื่อเป็นการบอกนัยๆว่า คนคนนี้มีเจ้าของแล้ว และแน่นอนว่าทั้งสองคนนั้น..เป็นแฟนกัน ซึ่งเรื่องนี้เพื่อนๆในกลุ่มเองก็รู้ดีรวมทั้งคนในมหาลัยเองก็ด้วยเหตุเพราะ ไมโลและพีนัทเป็นทั้งดาวมหาลัยและรองดาวมหาลัยนั่นเอง

“ ก็เพราะงี้ไงผมถือถ่อตูดมานั่งอยู่ที่นี่อ่ะ “ กายบ่นอย่างเซ็งๆและกระดกแก้วเหล้าที่มือจนหมดและยื่นแก้วที่หมดไปให้ไมโลพี่รหัสของตัวเองชงให้ตามเดิม ไมโลเองก็ทำหน้าที่ชงแก้วเหล้าให้กับน้องรหัสของตัวเองอย่างรู้หน้าที่

“ เชี้ย! นั่นมันเด็กมึงนี่หว่าไอนะ “ ออยพูดขึ้นอย่างตกใจเมื่อมองไปยังโต๊ะของผู้ชายสามคนที่นั่งอยู่ใกล้หน้าโต๊ะของบาร์เทรนเดอร์ พร้อมกับผู้หญิงอีกสามคนเช่นกันและหนี่งในนั้นก็คือคนควงของเพื่อนเขานั่นเอง

“ สัสเอ้ย! “ นะพูดขึ้นอย่างโมโหเมื่อเห็นและไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรต่ออีกพลางลุกขึ้นและตรงไปที่โต๊ะนั้นทันที รวมถึงรุ่นพี่และเพื่อนๆของกายเองก็ลุกขึ้นและเดินตามไปด้วยเช่นกัน กายเองก็รีบลุกขึ้นตามรุ่นพี่ของตัวเองไปทันทีด้วยความตกใจปนเครียดไม่น้อยเพราะกลัวว่าจะมีเรื่องกันที่นี่ซึ่งถ้าถามว่าเขาเองกลัวการมีเรื่องหรอ ก็ต้องบอกตามตรงว่าไม่ได้กลัว แต่เพียงแค่อารมณ์ของเขานตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะเข้าปะทะกับอะไรทั้งนั้นเหตุก็เพราะ..เขาคง...ใกล้จะเมาแล้วละมั้ง กายหยิบแก้วเหล้าในแก้วให้หมดก่อนที่จะรีบเดินตามคนอื่นๆไป

“ มึงยุ่งเหี้ยไรกับเมียกูไอสัส “ นะคว้าคอเสื้อของพายับขึ้นมาและประเคนหมัดต่อยไปที่ใบหน้าของพายับทันทีอย่างไม่ทันให้พายับตั้งตัว

ผัวะ!!

ธีร์และธารลุกขึ้นมองด้วยความตกใจ รวมถึงกายและคนอื่นๆที่พึ่งเข้ามาด้วยเช่นกัน พายับหันมาทางนะด้วยแววตาวาวโรจน์พลางเช็ดเลือดที่มุมปากที่หยดออกมาด้วยฝีมือของคนที่เตี้ยกว่าเขา นะจ้องเขม็งไปที่พายับอย่างโกธรแค้น คนรอบข้างต่างพากันมองไปที่สถานการณ์ตรงหน้าอย่างแตกตื่นและตกใจไม่น้อย

“ว๊ายยพายับ! นี่นะ! มันจะมากเกินไปรึเปล่า จู่ๆนายมาต่อยพายับทำไม!! “ มินนี่ร้องกรี๊ดออกมาอย่างตกใจและหันไปโวยวายใส่นะหรืออีกสถานะนึงนั่นก็คือคนควง ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้พึงใจอะไรกับนะมากมายนัก มีแต่นะเท่านั้นที่เอาแต่ตามติดเธอจนเธอเริ่มรำคาญขึ้นทุกวัน วันนี้เธอมาที่นี่เพื่อที่จะหาเหยื่อรายใหม่และปรากฎว่าเธอก็เจอเข้ากับเจ้าของร้านหล่อสุดแซ่บที่ใครๆก็ต่างอย่างได้และเฝ้ามอง

“ ก็ไอเหี้ยนี่มันมายุ่งกับมินทำไม! มันมายุ่งกับเมียของนะ มินจะให้นะอยู่เฉยๆยืนมองมันกอดจูบลูบคลำเมียตัวเองงั้นหรอ!! “ นะพูดพร้อมกับจ้องหน้าพายับเขม็ง มินนี่เดินเข้าไปหานะด้วยอารมณ์ที่โกธรเช่นกัน

เพี้ยะ!!

“ ทุเรศ! ใครเขาบอกว่าเป็นเมียเธอห๊ะ!! ฉันไม่เคยเป็นเมียใครทั้งนั้นเลิกเอามาอ้างสักที! “ มินนี่ตบเข้าไปที่ใบหน้าของร่างสูงด้วยความโมโห ท่ามกลางความตกใจของเพื่อนๆและกายเองก็จ้องมองภาพนั้นด้วยความอึ้งเช่นกัน

“ อ้าวเจ๊ พูดหมาๆแบบนี้ได้ไงวะ “ ออยพูดขึ้นพลางชี้หน้าไปที่หญิงสาวด้วยความโมโห ผู้หญิงก็ผู้หญิงเถอะวะ นาทีนี้เขาขอไม่สนใจอะไรแล้ว ยิ่งมาทำกับเพื่อนเขาให้หน้าแหกกลางวงแบบนี้เขายิ่งยอมไม่ได้เด็ดขาด

“ แล้วฉันพูดผิดตรงไหน! อย่ามาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉันนะ ฉันไม่เคยเป็นของใคร! “ มินนี่พูดพลางเชิดหน้าขึ้นอย่างเหนือๆ

“ ทีตอนเอาก็เอาด้วยกัน ทีตอนนี้เสือกมาบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกับมึงเฉยเลยวะไอนะ หึหึ “ไมโลพูดพลางมองไปทีมินนี่ด้วยแววตาเหยียดๆ

“ นี่มึง! “ มินนี่มองไปที่ไมโลด้วยความโมโหและทำท่าจะเข้ามาเพื่อตบที่ใบหน้าของไมโลแต่ติดตรงที่นะเป็นคนคว้าข้อมือนั้นไว้

หมับ!

“ หยุดเดี๋ยวนี้นะมินนี่! ถ้ากล้าทำอะไรเพื่อนะแม้แต่นิดเดียว นะไม่ยอมแน่ “ นะจับข้อมือของหญิงสาวและพูดเสียงเหี้ยม ดวงตาของมินนี่สั่นไหวไม่น้อยด้วยความหวาดหวั่นเพราะรู้ว่าร่างสูงที่บีบข้อมือของเธออยู่พูดจริงทำจริงอย่างแน่นอน

“ ถ้ามินนี่คือคนของมึง มึงก็เอาคืนไป กูไม่เอา “ พายับที่นิ่งเงียบฟังบทสนทนามาสักพักก็พูดขึ้น ทำให้นะละสายตาจากมินนี่แล้วหันมามองยังคนที่สูงกว่าเขาเกือบสิบเซ็นอย่างพายับ นะปล่อยแขนของหญิงสาวและเดินมาตรงที่พายับยืนอยู่

“ กูไม่เอาแล้วและกูไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร มึงเอาไปเหอะกูยกให้แค่ผู้หญิงง่ายๆคนเดียว กูไม่แคร์ “ นะพูดพร้อมกับปลายหางตามองไปที่มินนี่ทางด้านหลังพลางยักคิ้วข้างนึงส่งไปให้พายับและเดินออกไปทันที ทิ้งให้เพื่อนๆได้แต่มองตามนะไปด้วยแววตาดีใจและสะใจพร้อมๆกันที่เพื่อนของเขาได้สลัดแมงกระพรุนออกไปจากตัวแล้ว

“ หึหึหึ ไปกันเหอะว่ะพวกมึง “ ออยพูดพลางส่งยิ้มเยาะเย้ยไปให้มินนี่ ที่ยืนกัดฟันกรอดด้วยความโกธร การ์ดทั้งหมดเมื่อเห็นสถานะการณ์ที่สงบลงแล้วจึงได้ทำการณ์หันไปบอกแขกคนอื่นๆให้ทำกิจกรรมของตัวเองต่อได้

ทั้งหมดค่อยๆทยอยเดินออกไปเหลือทิ้งไว้แค่เพียงกายเท่านั้นที่มองไปทางมินนี่และผู้ชายทั้งสามคนนิ่งๆและขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

“ ป้า“ กายเดินเข้ามาหามินนี่นิ่งๆแต่ใบหน้าแดงกล่ำด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์

“ อะไร!! “ มินนี่กกระแทกเสียงใส่ด้วยความอารมณ์เสีย

“ ทำไมป้าด้านจัง “ กายถามพร้อมกับเอานิ้วชี้ไปจิ้มที่แก้มของหญิงสาว ทำให้หญิงสาวปัดป้องออกไปทันทีด้วยความโมโห ถึงรู้ว่าไปเด็กนี่มันจะพูดออกมาด้วยความเมาก็ตาม

“ อะ...ไอ้ ไอ้ “ มินนี่อ้าปากพะงาบๆพยายามคิดหาคำด่าเพื่อจะมาด่าคนตรงหน้า

“ เชี้ยกาย! มาทำห่าไรตรงนี้เนี้ยย “ ไมโลและพีนัทเดินเข้ามาตามกายตรงที่เดิมทันทีพลางจับแขนกายคนละข้างกับพีนัท เมื่อเธอและคนอื่นๆเดินมาที่โต๊ะและไม่เห็นรุ่นน้องอย่างกายอยู่ที่โต๊ะด้วย ทำให้ทั้งสองคนรู้ได้ทันทีว่ารุ่นน้องของตัวเอง..เมาเสียแล้ว

เพราะเวลาที่กายเมาร่างบางจะชอบพูดในสิ่งที่คิดมาตลอดซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวพอสมควรเพราะรุ่นน้องของเธอคนนี้เป็นคนห่ามๆซึ่งเวลาจะพูดอะไรออกมาแต่ละครั้งมันย่อมไม่ดีต่อใจคนฟังเป็นแน่...อย่างเช่นครั้งนี้

“ ทำไมด้านจัง “ กายยังถามด้วยใบหน้าที่มึนและจริงจังเช่นเดิม หญิงสาวได้แต่กัดริมฝีปากอย่างแค้นเคืองและจ้องไปที่กายอย่างโกธรไม่น้อย

“ ไมโล พีนัท เอามันไปให้ไกลๆฉันเดี๋ยวนี้ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวแล้วตบมัน!! “ มินนี่พูดตะคอกใส่ทั้งคู่ เพราะแค่นี้ภาพพพจน์ของเธอต่อหน้าผู้ชายที่เธอหมายปองไว้มันก็เละไม่เป็นท่าแล้ว เธอไม่อยากทำอะไรให้มันแย่ไปมากกว่านี้เธอจึงพยายามที่จะคีพลุคให้ได้มากที่สุด

“ นี่ลุง “ กายสบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุมของหญิงสาวทั้งสองและเดินตรงไปที่ธารและธีร์ที่ยืนอยู่ ดวงตาหวานมองใบหน้าทั้งสองคนสลับไปมานิ่งๆ ธีร์และธารมองหน้ากันอย่างสื่อความหมายพร้อมกับอยากจะคอยดูว่าร่างบางตรงหน้าจะแผลงฤทธิ์อะไรอีก

“ ไอกาย! “ เสียงของไมโลและพีนัทมองไปที่กายด้วยความตกใจแต่ทั้งสองเองก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปดึงตัวรุ่นน้องออกมาเพราะเห็นสายตาที่น่ากลัวของเสือทั้งสองที่มองมาทางพวกเขาแว๊บเดียว

“ หึหึ เรียกพวกฉันว่าลุงเนี้ย ฉันคิดค่าปรับนะหนุ่มน้อย “ ธารพูดขึ้นยิ้มๆพลางสำรวจใบหน้าของร่างเล็กที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขา

“ มีอะไร “ ธีร์เองก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเช่นเคยแต่แววตานั้นแฝงไปด้วยความสนุกบางอย่าง พายับได้แต่มองแล้วกระตุกยิ้มมุมปากเพราะรู้ดีว่าเพื่อนทั้งสองของเขานั้นกำลังคิดจะทำอะไร

“ ลุงชอบแบบยัยป้านั่นหรอ “ กายถามด้วยใบหน้ามึนๆ และชี้ไปทางมินนี่ที่ยืนอยู่ด้านหลัง มินนี่ที่มองอยู่ก็ได้แต่มองด้วยความโกธรปนแค้น เพื่อนของเธอเริ่มเห็นท่าไม่ดีจึงรีบลากเพื่อนของตัวเองออกมาทันที ทิ้งใว้เพียงแค่ไมโล พีนัท กาย และอีกสามหนุ่ม

“ อีกายย! พอได้แล้ว! “ ไมโลได้แต่เรียกชื่อรุ่นน้องอย่างตกใจ ที่จู่ๆก็โพร่งถามไปอย่างที่ใจคิดแบบนั้น พีนัทเองก็ได้แต่กุมขมับอย่างเครียด

“ ว่าไงลุง “ กายที่เหมือนจะหูดับเพราะไม่แม้แต่จะหันไปหาไมโลหรือหยุดพูดตามที่รุ่นพี่สาวเรียกเลยสักนิด กลับกันร่างบางดันถามย้ำทั้งสองคนอีกเสียด้วยซ้ำ

“ หึหึ แล้วถ้าฉันบอกว่า...ฉันสองคนชอบแบบเธอละหนุ่มน้อย “ ธารพูดพลางขยับเข้ามาใกล้พลางใช้นิ้วชี้เกลี่ยไปที่แก้มใสเบาๆ

“ จริงหรอ “ กายถามพร้อมกับยิ้มเล็กๆส่งไปให้ทั้งสอง ดวงตาเริ่มปรือเล็กน้อย

“ ไปกับพวกฉันมั้ย “ ธารกระซิบถามที่ใบหูเล็ก และโอบเอวบางไม่ให้ร่างเล็กล้มไปกองกับพื้น

“ ไป “ กายตอบอย่างไม่คิด ซึ่งเรียกว่าไม่มีสติในการประมวลความคิดนั้นเลยจะดีกว่า ไมโลและพีนัทที่อ่านปากของร่างสูงออกได้แต่หันมองหน้ากันอย่างเครียด แล้วยิ่งได้ยินเสียงตอบรับของเพื่อนที่พูดอย่างไม่คิดนั้น มันก็ยิ่งทำให้ไมโลและพีนัทต่างก็เครียดมากกว่าเดิม

“ หึหึ “ ธีร์หัวเราะในลำคอนิดๆเมื่อร่างบางตอบรับออกมาอย่างง่ายดาย

“ เอ่อ..พวกพี่ๆคะ “ ไมโลเรียกชายหนุ่มทั้งสองอย่างกล้าๆกลัว ในเมื่อแฟนของเธอไม่กล้าพูดงั้นมันก็ต้องเป็นเธอเองนี่แหละที่เป็นหน่วยกล้าตายที่จะขอเพื่อนของเธอคืน

“ เธอสองคนกลับกันไปก่อน เดี๋ยวเพื่อนพวกเธอพวกฉันจะดูแลเอง “ ธารพูดพร้อมกับหันไปส่งสายตาให้กับพายับและสื่อสารบางอย่าง เพียงเท่านี้พายับเองก็รับรู้แล้วว่าควรจจะทำยังไง ธีร์ประคองร่างบางโดยการโอบไปที่เอวเล็กเพื่อให้คนตัวเล็กเดินตามแรงเดินของเขา โดยที่ธารเดินตามหลังเพื่อขึ้นไปยังห้องVIPชั้นที่สาม..

“ เธอสองคนกลับไปนั่งที่โต๊ะเถอะ รุ่นน้องเธอไม่เป็นอะไรหรอก “ พายับพูดพร้อมกับกระตุกยิ้มมุมปากที่แตกนิดๆ

ไมโลและพีนัทต่างก็กัดปากและมองหน้ากันอย่างเครียดๆ

“ เชื่อเถอะ มอ.พวกเธอมันหาไม่ได้ยากนักหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้รุ่นน้องของเธอก็คงจะไปหาพวกเธอที่มอ.เองนั่นแหละ ถ้าไปไหวน่ะนะ หึหึ “ พายับแกล้งพูดติดตลก แต่ไมโลและพีนัทกลับไม่มีอารมณ์ที่จะหัวเราะขำขันด้วย ตอนนี้มีแต่ความเป็นห่วงรุ่นน้องอยู่เต็มไปหมด

“ กลับไปเถอะ ถึงเธอสองคนจะยื่นอยู่ที่นี่จนร้านปิดก็ไม่มีทางได้ตามขึ้นไปหรอก “ หลังจากที่พูดจบ ชายหนุ่มก็เดินหันหลังเพื่อขึ้นไปดูความความเรียบร้อยของชั้นสองทันที โดยไม่ได้อยู่อธิบายหรือพูดอะไรต่ออีก ทิ้งให้เพียงแต่สองสาวที่ยืนหน้าเครียดอยู่แบบนั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel