ปฐมบท
ค่ำคืนมงคลมีค่าดังทองพันชั่ง
ดรุณีน้อยเงยหน้ามองเจ้าบ่าวของตนอย่างคาดหวัง นางวาดหวังว่าจะพบทองคำอย่างที่ผู้อาวุโสบอกกล่าว
ช่วยมิได้ที่นางแอบชอบเขามานาน และเขาก็รับรู้ดี
เพียงแต่ในสายตาของเขา นางคือสตรีไร้ยางอาย ช่วงชิงตำแหน่งว่าที่ภรรยาจากพี่สาว
ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่จริง
แววตาสาวน้อยวูบไหวด้วยคาดหวังถึงทองพันชั่ง
กระทั่งเขากระชากชุดเจ้าสาวออกแล้วผลักนางลงบนเตียงนอนอย่างไม่ถนอมออมแรง สิ่งที่วาดหวังว่าจะเหมือนการค้นพบทองคำฉ่ำหวานกลับพลิกผัน
เพราะมันหยาบกระด้างเหมือนจะเป็นแค่หินกรวด!
และเมื่อบุรุษเผยเรือนกายกร้าวแกร่งซึ่งรับรู้ได้ถึงความทรงพลังยากต้านทานตั้งแต่ยังไม่ทันได้เอื้อมมือสัมผัสหรือลูบไล้ ความแข็งขึงนี้แผ่ซ่านความร้อนผ่าวไปทั่วห้องหอ สตรีก็ยิ่งเบิกตากว้าง ดวงตาของนางเบิกโตจ้องมองบางสิ่งบนร่างเปลือยของสามี
มันกำลังผงาดกล้าคล้ายต้องการข่มขวัญสตรีทุกคน
ท่ามกลางแสงไฟสีนวลตาจากแท่งเทียนสีแดงมงคล ลู่เหมยจ้องมองเฟิงอี้อย่างตะลึงลานเมื่อเขาถอดชุดเจ้าบ่าวออกจากตัวอย่างรวดเร็ว
ไม่มีเสียเวลา ไร้ความละเอียดอ่อนหรือถนอมเวลา อาจเรียกว่าฉีกทึ้งอย่างแรงด้วยโมโหโกรธาก็ได้
สามีนางกำลังโกรธ
เขาเหมือนต้องการลงโทษนางอย่างสาสม
ดวงตาลู่เหมยฉายแววเจ็บปวดออกมารางๆ
นางพยายามมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่คมอันนิ่งสงบแต่แฝงความดุดันของเขา
แสงเทียนมงคลสะท้อนเงาดำทะมึนของชายหนุ่มร่างใหญ่ซึ่งกำลังโน้มตัวลงดึงเท้าเปลือยของนางผู้เป็นเจ้าสาวอย่างแรง ก่อนกระชากเข้าหาแล้วคร่อมทั้งร่างทาบทับนางทั้งตัว
“เฟิงอี้ ท่าน...”
“สมใจเจ้าแล้วกระมัง” เจ้าของนามแค่นเสียงเรียบ สีหน้าเย็นเยียบ ผิดกับแววตาที่ร้อนระอุมากกว่าทุกครั้งที่เคยพบเห็น
“คืนนี้อย่าหวังได้เจอทองคำ!”
เอ่ยจบก็ก้มหน้าลง ฝ่ามือหยาบกระด้างมุ่งร้าย กักขังนางไว้ในอ้อมแขนร้อนผ่าว ราวต้องการหลอมละลายสตรีใต้ร่างให้กลายเป็นของเหลว ทำให้นางจมดิ่งแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอยบนที่นอนยับย่นตลอดกาล