ตอนที่ 3
‘ผมควรจะดีใจใช่ไหม... โธ่... โดนเมียว่าเล็กซะงั้นมันน่าช้ำใจจริงๆ’
ตะวันกล่าวติดตลก รีบรั้งร่างเอิบอิ่มของภรรยาเข้ามากอดเอาไว้แน่น
‘ดารักคุณที่ใจ... ไม่ต้องกังวลค่ะ ต่อให้คุณไม่มีตรงนั้นดาก็รัก’
‘ให้มันจริงเถอะ’
ตะวันหอมแก้มเมียรักฟอดใหญ่ ดาหลารู้ว่าสามีทั้งรักและหึงหวงหล่อน
ทุกวันนี้ดาหลาก็ยังคิดถึงตะวันอยู่เสมอ แม้ว่าเขาจะดื้อรั้นและมีทิฐิรุนแรงต่อปัญหาของครอบครัวของตัวเองเมื่อในอดีตที่พ่อกับแม่ต้องแยกทางร้างลากันไปคนละทิศคนละทาง
ครั้นเมื่อถึงเวลามีครอบครัวเป็นของตัวเอง ดาหลารู้ว่าตะวันก็รักหล่อนกับลูกชายมาก โชคร้ายที่เขาไม่น่าอายุสั้น ต้องมาด่วนจากไปทั้งที่ยังหนุ่มแน่น
“สรุปว่าหนูจะต้องไปอยู่กับปู่รอนน์นะครับคนดีของแม่”
ดาหลาขยี้ศีรษะของลูกชายด้วยความรักใคร่เอ็นดู หลังจากโทรศัพท์ไปปรึกษากับพ่อสามีว่าจะเอาหลานไปฝากเลี้ยงที่ต่างจังหวัด ซึ่งรอนน์ก็รับปากอย่างไม่อิดออดว่าจะช่วยเหลือทุกอย่าง รอนน์อยากเจอหลาน
สัปดาห์ต่อมา
ที่บ้านของรอนน์ในจังหวัดเชียงราย เมื่อเดินทางมาถึงที่หมาย ดาหลากับลูกชายยกมือไหว้ชายวัยกลางคนรูปร่างสูงใหญ่ผู้เป็นเจ้าของบ้าน
รอนน์เป็นผู้ชายที่มีเค้าโครงร่างกำยำสูงใหญ่แบบฝรั่ง ทว่าผิวสีของเขาเป็นสีแทนเข้มไม่ขาวซีด ซึ่งดาหลามารู้ในภายหลังว่านอกจากรอนน์จะมีเชื้อสายสเปนแล้วพ่อของเขายังเป็นลูกเสี้ยวที่สืบเชื้อสายมาจากแถบอเมริกาใต้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่รอนน์จะมีลักษณะผสมจากหลายเชื้อชาติ แต่ลักษณะเด่นๆ ที่ถูกรวมเข้าด้วยกัน ก็ทำให้เขาดูคมคร้ามเป็นที่สะดุดตาของดาหลาตั้งแต่แรกเห็น
“สวัสดีค่ะคุณรอนน์... เอ่อ หนูควรเรียกคุณยังไงดีคะ?”
ดาหลาถาม หล่อนรู้สึกเกร็งเล็กน้อยกับการเจอกันครั้งแรก ไม่รู้ว่าเจ้าของบ้านคนนี้อยากให้เรียกชื่อเขาว่า ‘รอนน์’ แบบฝรั่ง หรือควรจะเรียก ‘พ่อรอนน์’ เพราะเขามีศักดิ์เป็นพ่อผัวของหล่อน
“ตามใจคุณ... ผมยังไงก็ได้”
คำตอบบอกให้รู้ว่าเขาเป็นคนง่ายๆ รอนน์ยอมรับว่าความสะสวยของดาหลาสะดุดตาและต้องใจเขาตั้งแต่วินาทีแรกเห็น
ผิวพรรณของดาหลาเปล่งปลั่งและขาวเนียนสมกับที่มีมารดาเป็นคนญี่ปุ่น
รอนน์ตะลึงมองหล่อนอยู่นานเป็นครู่ด้วยความลืมตัว กระทั่งเสียงของริวลูกชายหล่อนที่ดังแหลมขึ้นมา ทำให้รอนน์หลุดออกมาจากมนต์สะกดของลูกสะใภ้แสนสวยที่ทำให้จ้องมองตาไม่กระพริบ
“หวัดดีครับคุณปู่”
ริวยกมือไหว้รอนน์ที่เพิ่งมีโอกาสได้เจอหน้ากันเป็นครั้งแรกในชีวิต
“โอ้ว... หลานปู่ เป็นหนุ่มแล้วนี่นา”
รอนน์โอบไหล่ของหลานชายเข้ามากอด ท่าทางดีใจอย่างเห็นได้ชัดที่ได้เจอหน้าดาหลากับลูกชายของหล่อนเป็นครั้งแรก
สาเหตุที่ไม่ได้เจอกันเลยก็เพราะว่ารอนน์กับตะวันไม่ค่อยลงรอยกัน หลังจากมีปากเสียงกันครั้งสุดท้ายตะวันก็หายไปจากชีวิตของรอนน์
“ยินดีต้อนรับมาอยู่กับปู่นะครับ”
กังวานเสียงทุ้มของรอนน์ฟังดูมีอำนาจและทรงพลังก็จริง หากแววตาก็แฝงความอบอุ่นจนเด็กชายรู้สึกได้ว่าปู่รอนน์คนนี้ต้องใจดีอย่างแน่นอน
“ครับคุณปู่”
เป็นครั้งแรกที่รอนน์ถูกเรียกว่า ‘ปู่’ และมันทำให้เขารู้สึกว่าตัวเอ็งแก่ขึ้นมาทันที
แต่ฐานะ ‘ปู่’ ที่ได้รับก็ทำให้หนุ่มใหญ่อย่างรอนน์รู้สึกอบอุ่นในใจขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่าเขาอยู่คนเดียวมานาน
ทุกวันนี้รอนอาศัยอยู่คนเดียว เพราะว่าตั้งแต่มารดาของตะวันจากเขาไปด้วยโรคมะเร็งในสมอง รอนน์ก็ครองตัวเป็นพ่อหม้ายมาตลอด และดูเหมือนว่าหัวใจของเขาได้ปิดตายลงแล้ว นับตั้งแต่วันที่มารดาของตะวันจากเขาไป
ในเวลาต่อมา หลังจากพาสองแม่ลูกเข้ามานั่งในบ้าน ผ่อนคลายอิริยาบถและดื่มน้ำจนหายเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง รอนน์ก็พาดาหลากับริวออกมานั่งคุยกันที่เทอเรซหน้าบ้าน
“บอกตรงๆ ว่าหนูเกรงใจคุณนะคะที่ต้องพาริวมาฝาก”
ดาหลามองหน้าพ่อสามี รอนน์เป็นผู้ชายที่มีช่วงไหล่กว้างได้สัดส่วน ดาหลารู้ว่าอกและไหล่แบบนี้แหละที่จะให้ความอบอุ่นและปลอดภัยแก่ผู้หญิงได้
“คิดเสียว่าคุณก็ลูกสะใภ้ผม ริวก็หลานของผม เราไม่ใช่อื่นไกล อะไรที่ช่วยได้ผมก็อยากช่วย”
“ขอบคุณค่ะ... ”
ดาหลายกมือไหว้
“อ้อ... เรื่องโรงเรียนผมติดต่อไว้ให้แล้ว รอให้เปิดเทอมตาริวก็เข้าเรียนที่นี่ได้เลย”
ดาหลารู้สึกขอบคุณในความเอื้อเฟื้อของผู้ชายคนนี้ รอนน์ช่างมีน้ำใจ หลังจากหล่อนตัดสินใจโทรมาปรึกษาว่าอยากจะพาลูกชายมาฝากให้อยู่กับเขาในระหว่างเรียนประถม ทำให้ดาหลามีโอกาสได้พูดคุยกับรอนน์อย่างเปิดอก และสุดท้ายหล่อนก็ยอมเล่าให้เขาฟังว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก รายได้แต่ละเดือนก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง ทำให้ในระยะหลังๆ ดาหลาต้องอดทนทำงานล่วงเวลาเพื่อหารายได้พิเศษ
‘ให้ริวมาอยู่กับผม... ไม่มีปัญหา ผมเลี้ยงได้ หรือจะย้ายมาเข้าโรงเรียนที่เชียงรายเลยก็ได้ ถ้าคุณไว้ใจว่าผมจะดูแลลูกคุณได้’