ตอนที่ 1
สะใภ้ร้อนรัก (สะใภ้แม่ลูกอ่อน)
พุทธศักราช 2562
ที่บ้านไม้สักหลังใหญ่แห่งหนึ่ง ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางไร่อ้อยในจังหวัดสุพรรณบุรี
“นี่ไง… บ้านที่พี่เคยอยู่มาตั้งแต่ตอนเด็กๆ… เห็นแล้วเป็นไง… ผึ้งจะอยู่ได้ไหม”
‘กวินทร์’ เอ่ยถาม ‘น้ำผึ้ง’ เมียสาววัยยี่สิบต้นๆ ที่ตอนนี้เป็นแม่ลูกอ่อน กำลังอุ้มลูกชายในวัยหนึ่งขวบไว้ในอ้อมแขน หลังจากพากันเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เมื่อตอนบ่ายด้วยรถกระบะส่วนตัวที่กวินทร์เป็นคนขับ ใช้เวลาเดินทางร่วมสามชั่วโมงก็มาถึงบ้านเกิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี
“อยู่ได้สิจ๊ะ… อันที่จริงก็ไม่ได้ห่างไกลความเจริญเท่าไร… ”
น้ำผึ้งตอบสามี ด้วยหล่อนจินตนาการเอาไว้ว่าบ้านของกวินท์น่าจะมีสภาพภูธรมากกว่านี้ หรือพูดตรงๆ ก็คือน่าจะบ้านนอกกว่านี้ แต่เท่าที่รถแล่นผ่านมาก็เห็นว่ามีห้างสรรพสินค้าในตัวเมือง เลยมาก็เป็นตลาดเล็กๆ ตลอดสองข้างทางไม่ได้ทุรกันดารอย่างที่นึกกลัว
“โน่นไง… ลุงมาโน่นแล้ว… ลุงจอมครับ”
‘ลุงจอม’ คนที่กวินทร์กำลังทอดสายตามองออกไปพร้อมกับเสียงตะโกนทักทาย ก็คือชายผู้มีพระคุณ
ลุงจอมคือคนที่เลี้ยงดูกวินทร์มาตั้งแต่เล็ก มีศักดิ์เป็นญาติห่างๆ ฝ่ายพ่อ หลังจากพ่อกับแม่ของกวินทร์เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่กวินทร์เพิ่งมีอายุได้เพียงสิบขวบ ลุงจอมก็อาสาเลี้ยงดูกวินทร์แทนพ่อแม่ที่จากไป ด้วยสงสารลูกกำพร้า แกรักและเอ็นดูกวินทร์ไม่ต่างจากลูกในไส้
“ไอ้วินทร์… ”
ลุงจอมตะโกนเรียกหลานชาย ดีใจที่ได้เจอกัน เพราะว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกับก็ปีกว่าล่วงมาแล้ว ตอนนั้นกวินทร์ยังไม่มีเมียด้วยซ้ำ
“ผึ้ง… นี่ลุงจอม”
กวินทร์แนะนำภรรยาให้รู้จักกับลุงจอมซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อบุญธรรม
“สวัสดีค่ะคุณลุง… ”
น้ำผึ้งส่งลูกให้สามีอุ้ม ยกมือไหว้ชายร่างสูงใหญ่ ด้วยเขาเปลือยอก นุ่งเพียงกางเกงขาก๊วย ทำให้เห็นรูปร่างกำยำล่ำสันไปด้วยมัดกล้าม ลายสักรูปพญาเสือโคร่งที่อกยิ่งทำให้ชายผู้นี้ดูขรึมขลัง ใบหน้าหล่อเหลาคมคร้ามสะดุดตา ไม่ว่าจะมองมุมไหนมีความเป็นชายชาตรีในทุกกระเบียดนิ้ว
“ไหว้พระเถอะหนู”
ลุงจอมยกมือขึ้นรับไหว้ ความสะสวยของหลานสะใภ้ทำให้แกตะลึงมองด้วยความลืมตัว สายตาจับจ้องมองใบหน้าสะสวยสะดุดตา ค่อยๆ กวาดสายตาลงมาหยุดอยู่ที่ทรวงอก สะดุดตากับสองเต้าอวบคัด เบียดอัดกันแน่นอยู่ภายใต้เสื้อผ้าฝ้ายสีครีม มองเห็นจุกหัวนมแทงตุงขึ้นมาจากยอดอกทั้งสองข้าง เห็นคราบน้ำนมเป็นวงชื้นเพราะว่าหล่อนโนบรา
“ลูกชายเอ็งน่ารักจัง… กี่ขวบแล้วนี่”
เมื่อฉุกคิดขึ้นได้ว่าออกจะเป็นการเสียมารยาทที่เผลอจ้องนมของหลานสะใภ้ด้วยความลืมตัว ลุงจอมรีบดึงสายตาออกมาจากสิ่งที่ทำเอาใจเต้น ท่อนเอ็นคัดแข็งขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ รีบเปลี่ยนเรื่องมาที่หลาน
“เจ้าทาโร่อายุได้ขวบนิดๆ ครับ”
กวินทร์ตอบ ลุงจอมเอื้อมมือรับเด็กน้อยมาอุ้มไว้ในอ้อมแขน
“โอ้ว… น่ารักน่าชังเหลือเกินหลานปู่ ดูสิพ่อคุณเอ๊ย ผิวพรรณขาวดีจัง ขาวได้แม่นะเนี่ย”
กล่าวพลางเหลือบมองมาทางแม่ของเด็กแวบหนึ่ง รู้สึกสะดุดตากับผิวพรรณของน้ำผึ้งที่ขาวผ่องนวลเนียน อีกทั้งทรวดทรงองค์เอวก็อะร้าอร่าม นึกชมกวินทร์ว่าช่างตาถึงเสียนี่กระไร ไอ้หลานชายคนนี้หาเมียได้สวยเหลือเกิน
“มาถึงเหนื่อยๆ เข้าบ้านกันเถอะ”
ลุงจอมกล่าวพลางเดินนำเข้ามาในบ้าน พาน้ำผึ้งมาดูห้องพักที่จัดเตรียมไว้ให้ล่วงหน้าตั้งแต่รู้ว่าหลานชายจะพาลูกเมียกลับมาอยู่บ้าน
ในเวลาต่อมา ลุงจอมพาน้ำผึ้งเดินชมบ้านเพื่อสร้างความคุ้นเคยกับที่อยู่ใหม่ เพราะว่าจากนี้ไปหนึ่งปี น้ำผึ้งจะต้องอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้
“ทาโร่… เป็นอะไรจ๊ะลูก”
หลังจากลุงจอมพาเดินชมบ้านจนทั่ว พอเดินวกกลับมาถึงม้าหินอ่อนที่หน้าบ้าน ลูกชายที่น้ำผึ้งอุ้มไว้ในอ้อมแขนก็ทำท่างอแง งุดหน้าซุกอกของแม่
“สงสัยเจ้าทาโร่จะหิวนม”
ลุงจอมกล่าวพลางจ้องมองสองเต้าอวบใหญ่สะดุดตา ไม่คิดว่าหลานสะใภ้จะเลิกชายเสื้อแล้วควักเต้านมออกมายัดใส่ปากลูกชายต่อหน้าต่อมา โดยหารู้