บท
ตั้งค่า

ใครแน่กว่ากัน

การตามรุกหวังฟาดฟันระหว่างหลี่เซียวเหยาและเจินเจินยังคงดำเนินต่อไป

นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่หลี่เซียวเหยานึกอยากทำอะไรที่ขัดต่อศิลธรรมขึ้นมาอย่างจริงจัง

ด้วยสตรีตรงหน้าของเขาขณะนี้

นาง...

นาง...

เขามิรู้ได้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี

               “หยุด!” เจินเจินตะโกนขึ้นพร้อมยกมือเรียวขาวทั้งสองข้างของตนขึ้นมาอยู่ตรงเบื้องหน้าของตนเอง เพื่อเป็นสัญญาณให้หลี่เซียวเหยาที่กำลังตามติดมาให้หยุดการไล่ฟาดฟัน

นางกำลังจะหมดความอดทนเต็มที

นางเป็นสาวงามถึงเพียงนี้

เขายังมิเคยได้เห็นเสน่ห์สูงสุดของนางด้วยซ้ำ

“ท่านจะฆ่าข้าได้ลงคอจริงๆรึ” หญิงสาวถามชายหนุ่มที่กำลังเดินเข้ามาพร้อมดาบในมือ

หลี่เซียวเหยามิได้ตอบคำใด เขาเพียงหยุดตามคำของนางและจ้องมองนางนิ่งๆ ด้วยสายตาดำดิ่งคมกริบ

เจินเจินอาศัยจังหวะเพียงเสี้ยวเวลาใช้ความเร็วเข้าประชิดร่างสูงโปร่งงามสง่าตรงหน้า

เขารู้จักนางน้อยไปเสียแล้ว นางมิได้สวยอย่างเดียวหรอกนะ

หญิงสาวจู่โจมร่างของหลี่เซียวเหยาอย่างรวดเร็วจากด้านหน้าโดยปัดคมดาบให้เบี่ยงเฉียงออกไปเพียงเล็กน้อยก่อนใช้ลำตัวเบียดแทรกเข้าหาชายหนุ่ม ก่อนจะใช้สองแขนของตนรวบลำคอของเขาเอาไว้ แล้วสะกิดเท้าออกเพียงนิดให้ดาบหลุดจากมือของเขาไป ก่อนจะจูบเขาเสียเลย

หลี่เซียวเหยาถึงกับตกตะลึงตัวแข็งทื่อเมื่อรับรู้ได้ถึงกลีบปากนุ่มนิ่มที่ประกบเข้ามาที่ริมฝีปากของเขาพร้อมด้วยหน้าอกอวบนูนเบียดเสียดอยู่ตรงแผงอกอย่างจงใจ

ชายหนุ่มพยายามเบี่ยงหน้าเพื่อหลบการกระทำอันแสนจะทารุณจิตใจ ทั้งยังพยายามใช้มือของตนบีบไหล่ของหญิงสาวให้ออกห่างอย่างสุดกำลัง

ถึงแม้ว่ากำลังวังชาของเขาจะมีมากด้วยความเป็นบุรุษเพศ

แต่เจอเข้าอย่างนี้

จู่โจมแบบนี้

มัน...

สักพักเจินเจินจึงยอมถอนริมฝีปากออกแต่ยังคงรวบลำคอของเขาอยู่อย่างนั้น

“เจ้า!” หลี่เซียวเหยาเอ่ยเสียงรอดไรฟัน ดวงตาเบิกโต  ใบหูแดงก่ำ

“ทำไม ทำไม” เจินเจินยิ้มพรายใส่หน้าของชายหนุ่มด้วยดวงตาเป็นประกายมิได้รู้สึกสะทกสะท้านแต่อย่างใด ก็นางชอบบุรุษผู้นี้

“ปล่อย!” เขาดุใส่

“ไม่ปล่อย” นางยิ้มตอบ

“เจ้า!”

“ทำไม”

“ข้าเกลียดเจ้า”

“ข้าชอบท่าน”

“ข้าไม่มีวันชอบเจ้า”

“ข้าก็คิดเช่นนั้น”

“ข้าไม่แต่งกับเจ้า”

“ข้าก็เหมือนกัน”

“...”

หลี่เซียวเหยาเริ่มงง

พิศมองนางฉงน

“ท่านรู้อะไรหรือไม่”

“อะไร”

“ข้าไม่ได้คิดจะผูกมัดท่าน และไม่คิดจะผูกมัดตนเองเช่นกัน” เจินเจินเอ่ยเรื่อยๆดวงตามองหน้าเขานิ่งๆในระยะประชิดท่าเดิม

หญิงสาวยังคงเอ่ยต่อ “เป็นท่านที่ผูกมัดตนเอง”

ประโยคนั้นทำหลี่เซียวเหยาชะงักงัน

“ข้ายอมรับว่ามาที่นี่เพื่อต้องการหาบุรุษไว้แนบกาย และข้าก็เลือกท่าน แต่ถ้าท่านมิได้ต้องการ ข้าย่อมไม่บังคับ ข้าไม่จำเป็นต้องบังคับผู้ใด” เจินเจินยกมือขึ้นเพียงนิดใช้นิ้วเรียวสวยของตนไล้ไรผมบริเวณหน้าผากของหลี่เซียวเหยาขณะยังคงเอ่ยต่อเนิบนาบ

“ข้ามิได้เหมือนดั่งสตรีเมืองหลวง ข้าไม่ต้องพึ่งพาบุรุษ ข้าแค่อยากช่วยท่าน”

“เจ้า...” หลี่เซียวเหยาเอ่ยได้แค่นั้นเขาทำได้เพียงยืนตัวแข็งทื่อรู้สึกแปลกๆกับประโยคของหญิงสาวที่กำลังเข้าประชิดร่างของตนในขณะนี้ และรู้สึกร้อนวูบวาบกับมือเรียวงามดั่งหยกเกลี้ยงเกลาของนางที่กำลังสัมผัสเรือนร่างของเขาอยู่

“ท่านมีเสน่ห์มาก ท่านรู้หรือไม่” หญิงสาวยังคงเอ่ยต่ออย่างไม่นึกละอาย “และข้าเองก็สวยสดงดงามเช่นกัน”

“....”

ชายหนุ่มเอ่ยสิ่งใดไม่ออกกับคำพูดหลงตัวเองนั่น

“เราต่างมีทางเลือกของตนเอง  แล้วท่านจะเสียใจ”

“เจ้า...”

“อยากฆ่าข้าหรือ” เจินเจินเอ่ยเสียงเข้มขึ้นดวงตาหรี่ลงไม่มีแววล้อเล่นดั่งคราแรก “ไม่ง่ายนักหรอก”

หลี่เซียวเหยายืนจ้องหน้าหญิงสาวนิ่งงันเนิ่นนานไร้คำพูดไร้วาจาใดๆ แววตาดำคมของเขาคล้ายสั่นไหวเล็กน้อย 

แต่ก็ยัง...

ไม่ยอมจำนน!

เจินเจินใช้ปลายเท้าของตนสะกิดดาบที่อยู่ไม่ไกลให้กระเด็นออกไปก่อนเอ่ย “อย่าใช้ของมีคมเลย เดี๋ยวผิวจะเสีย มา!”

จบคำหญิงสาวกระโดดถอยออกห่างจากร่างของหลี่เซียวเหยาเพื่อตั้งท่าพร้อมรับการต่อสู้

ชายหนุ่มเห็นดังนั้นจึงตั้งท่าเช่นกัน

ทั้งสองจึงพุ่งตัวเข้าใส่กันพร้อมฟาดพลังไม่ยั้งขณะประมือกันด้วยฝ่ามือเปล่าเปลือยไร้อาวุธไปมา

หลี่เซียวเหยากระโจนประชิดร่างของเจินเจินด้วยท่วงท่าองอาจฝีมือสูงส่ง เจินเจินม้วนตัวหลบอย่างสวยงามก่อนตอบโต้กลับด้วยฝีมือทัดเทียม

ชายหนุ่มหญิงสาวยังคงจู่โจมใส่กันไม่ยั้ง ผลัดกันรับผลัดกันรุกอยู่อย่างนั้น ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร

                              “เจ้าคิดว่าใครจะชนะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นหลังพุ่มไม้

“ข้าคิดว่าเจินเจินนะ” อีกเสียงหนึ่งเอ่ยตอบ

“แต่ข้าว่าองค์ชายสี่นะ” เสียงที่สามเอ่ยขัด

เจ้าของเสียงทั้งสามคือ หยางเจียน เว่ยฟาง และหลิวฉวนหยู่ร์ ตามลำดับ

พวกนางได้รับคำสั่งจากหงฮองเฮาให้มาคอยสังเกตการณ์ระหว่างเจินเจินกับหลี่เซียวเหยา เพื่อคอยห้ามทัพมิให้ทั้งสองทำร้ายกัน

แต่ดูเหมือนว่าทั้งสามนั้นไม่ได้คิดจะเข้าไปห้ามปรามแต่อย่างใด ด้วยเกรงว่าจะเป็นการขัดจังหวะเสียมากกว่า

จึงทำได้เพียงแอบดูอยู่หลังพุ่มไม้เพียงเท่านั้น

และข่าวการขอสมรสพระราชทานนั้นก็สร้างแรงกดดันให้สตรีอีกนางหนึ่งอยู่ไม่น้อยเช่นกัน นางคือเซียงอวี๋ น้องสาวของอดีตชายาของหลี่เซียวเหยา

เซียงอวี๋นั้นแอบชอบหลี่เซียวเหยามาเนิ่นนานนับตั้งแต่ หลี่เซียวเหยาได้แต่งงานกับพี่สาวของนาง

นางได้แต่มองหลี่เซียวเหยาอยู่ไกลๆ

ต่อมานางพยายามทำทุกอย่างทำทุกๆทางให้หลี่เซียวเหยาและพี่สาวของนางแตกหัก

นางพยายามหลอกล่อให้พี่สาวของนางและองครักษ์ประจำตัวของหลี่เซียวเหยาได้มีโอกาสพบเจอกันบ่อยครั้ง

นางสร้างสถานการณ์ต่างๆให้พี่สาวกับองครักษ์นั่นได้สานสัมพันธ์กัน

และมันก็ได้ผล     

มันสำเร็จ

นางทำมันลุล่วง

ห้าปีมานี้นางพยายามที่จะเข้าใกล้หลี่เซียวเหยาโดยใช้เหตุผลที่ว่าทำไปเพื่อชดใช้ความผิดแทนพี่สาว

และถึงแม้ว่านางจะถูกเขาปฏิเสธ ถูกเขาไล่อย่างไร นางก็ไม่ยอม นางยังคงติดตามหลี่เซียวเหยา

นางอยากเป็นสาวใช้อุ่นเตียง

แม้เป็นเพียงแค่นางกำนัลนางก็ยอม แต่...

แต่...

สตรีไร้ยางอายนั่น!

กับสตรีไร้ยางอายนางนั้น!

นางกำลังจะได้แต่งงานกับหลี่เซียวเหยา

ไม่มีทาง

นางไม่ยอม

นางไม่มีวันยอม

อา...

นางจะต้องหาบุรุษสักคนหนึ่ง

ให้มาเป็นชายชู้กับสตรีไร้ยางอายนี่

มันไม่ใช่เรื่องยาก

ดูๆแล้ว

ง่ายกว่าเมื่อครั้งพี่สาวของนางเสียอีก

หึหึหึ!

เซียงอวี๋แสยะยิ้มที่มุมปากอย่างหมายมั่นอยู่ในใจ ขณะกำลังทำงานในตำแหน่งนางกำนัลประจำตำหนักของหลี่เซียวเหยา

หญิงสาวอยากจะขึ้นเตียงของหลี่เซียวเหยามาหลายครั้งแล้ว แต่ทำได้เพียงเป็นนางกำนัลประจำตำหนักเพียงเท่านั้น

ต่อไปนางจะรุกฆาตบ้าง

นางจะทำตัวไร้ยางอายบ้าง

สตรีนางนั้นทำได้ นางก็ทำได้เช่นกัน...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel