ตอนที่ 3
“มาแล้วหรือนายแมท”
เมสันเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ เมื่อเห็นน้องชายเปิดประตูห้องทำงานของเขาเข้ามา
“ครับ”
“แล้วทำไมหน้าบูดเป็นตูดเป็ดแบบนั้นล่ะ มีอะไรหรือเปล่า หรือว่าไม่อยากตรวจสุขภาพ”
“เปล่าครับ ก็แค่เบื่อเด็กประสาทน่ะครับ”
คิ้วเข้มของเมสันเลิกสูง แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรออกมา ประตูก็ถูกเคาะและเปิดเข้ามาอีกครั้ง พร้อมๆ กับมัทนาที่หิ้วตะกร้าใส่อาหารก้าวเข้ามา
“นี่ไงครับ”
แมทธิวพูดขึ้นเสียงเบื่อหน่าย
“เห็นหน้าทีไร ผมท้องผูกไปเป็นอาทิตย์ทุกที”
“นายก็พูดไปนั่น”
เมสันหัวเราะขบขัน ก่อนจะหันไปทักทายมัทนาอย่างเอ็นดู
“สวัสดีครับน้องมัท”
มัทนาฉีกยิ้มกว้าง นี่ถ้าปากฉีกไปถึงหูได้โดยที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ปากของหล่อนก็คงเป็นเช่นนั้นแหละ ก็คนมันดีใจนี่ ตั้งสามวันแล้วที่ไม่ได้เห็นหน้าเมสัน
“สวัสดีค่ะพี่ไมค์”
หญิงสาวเดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะทำงานของเมสัน วางตะกร้าใส่เสบียงลงบนโต๊ะไม้ ก่อนจะรีบดึงแขนให้แมทธิวลุกขึ้นจากเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงานของหนุ่มที่ตัวเองรัก และทรุดนั่งลงไปแทนที่
แมทธิวเบ้หน้าอย่างเบื่อหน่าย เขาเดินไปทรุดนั่งบนโซฟาริมหน้าต่างห้องแทน
“มัทคิดถึงพี่ไมค์จังเลยค่ะ”
เมสันระบายยิ้ม
“ขอบคุณครับ”
“เอ่อ...วันนี้มัทเตรียมแต่กับข้าวที่พี่ไมค์ชอบมาทั้งนั้นเลยนะคะ พี่ไมค์จะต้องกินให้หมดนะคะ”
หญิงสาวหยิบกล่องใส่อาหารมาเปิดอวดเมสัน
เมสันระบายยิ้มและกล่าวขอบคุณ
“ความจริงพี่ก็มีอาหารที่โรงพยาบาลกินนะ ไม่ต้องรบกวนน้องมัทก็ได้”
“รบกงรบกวนอะไรกันล่ะคะ มัทเต็มใจที่สุดเลยค่ะ”
“อะแฮ่ม”
แมทธิวที่นั่งอยู่ในห้องด้วยกระแอมเสียงดังอย่างหมั่นไส้ มัทนาหันไปค้อนใส่
“นี่นายยังไม่ออกไปอีกเหรอ จะนั่งอยู่เป็นก้างทำไมเนี่ย”
“แม่คุ้ณ...นี่มันห้องทำงานของพี่ไมค์ซึ่งเป็นพี่ชายของฉัน ในขณะที่เธอเป็นแค่เพียงผู้หญิงที่วิ่งตามตื๊อพี่ชายของฉันเท่านั้น แล้วแบบนี้ใครกันล่ะที่ควรจะออกไป”
มัทนามองคนพูดตาเขียวปัด “ไอ้คนบ้า...ฉันรังเกียจนายที่สุด รู้ไว้ด้วย”
“โธ่ๆ ๆ แล้วคิดว่าฉันพิศวาสเธอหรือไง”
แมทธิวยิ้มหยัน พลางตวัดตามองร่างของมัทนาอย่างดูแคลน
“ผิวก็กระดำกระด่าง นมก็ไม่มี แถมยังตัวเตี้ยอีกต่างหาก ใครจะไปสนใจเธอ แม้แต่ยามหน้าโรงพยาบาลยังต้องคิดก่อนเลยว่าจะยอมให้เธอขึ้นเตียงด้วยหรือเปล่า”
“ไอ้คนปากเสีย!”
“พอ...หยุดกันทั้งคู่นั่นแหละ อย่าทะเลาะกันเลย” เมสันพยายามจะคลี่คลายสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียด
“ก็น้องชายของพี่ไมค์น่ะสิคะ ปากเสียที่สุดเลย”
“ผมก็แค่พูดความจริงครับพี่ไมค์ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย จริงไหมครับ”
เมสันถอนหายใจออกมาแผ่วเบา พลางมองน้องชายอย่างขอความร่วมมือ
“พี่ขอล่ะนายแมท”
แมทธิวกัดฟันแน่น ขบกรามจนเป็นสันนูนเป่ง เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูง
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ไม่อยากทะเลาะกับผู้หญิง”
“แล้วคิดว่าฉันอยากทะเลาะกับผู้ชายปากจัดอย่างนายหรือไงล่ะ ไปให้พ้นหน้าเลย”
ชายหนุ่มไหวไหล่น้อยๆ อย่างไม่แยแส ก่อนจะก้าวเดินหายออกไปจากบานประตู
เมสันถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะระบายยิ้มให้กับมัทนา “ว่าแต่ที่มาหาพี่นี่ เพราะเอาอาหารมาให้อย่างเดียวใช่ไหมครับ”
“ไม่ใช่ค่ะ”
คิ้วเข้มของเมสันเลิกสูง
“ครับ?”
มัทนายิ้มอย่างมีเลศนัย
“มัทจะมาตรวจภายในด้วยน่ะค่ะ”
“ตรวจภายใน?”
“ใช่ค่ะ มัทอยากให้พี่ไมค์ตรวจภายในให้มัทน่ะค่ะ”
เมสันนิ่งเงียบไป ในขณะที่มัทนาเต็มไปด้วยความคาดหวังมากล้น
‘เสร็จมัทแน่ พี่ไมค์’
มัทนาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดพร้อมตรวจภายในเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเข้ามาภายในห้องตรวจที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสะอาดสะอ้านดูแพงสมกับเป็นโรงพยาบาลเอกชนอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
หญิงสาวก้มลงมองดูตัวเองที่สวมผ้าถุงพร้อมตรวจด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะนี่คือประสบการณ์ครั้งแรกของหล่อนเลยทีเดียว แม้หล่อนจะไม่ใช่ผู้หญิงเรียบร้อยหรือขี้อายสักเท่าไหร่ แต่การที่จะต้องมาขึ้นขาหยั่ง แหวกขาออก แล้วให้คุณหมอหนุ่มตรวจภายใน มันก็เป็นเรื่องที่น่าอายไม่น้อย แม้ผู้ชายคนนั้นจะเป็นผู้ชายที่ตัวเองแอบรัก และหมายมั่นปั้นมือว่าจะคว้ามาครอบครองก็ตาม
เสียงถอนหายใจแผ่วเบาดังผ่านกลีบปากอิ่มสีแดงระเรื่อออกมา ก่อนที่หญิงสาวจะต่อสายหาใครบางคน
“โดนัท แกแน่ใจนะว่าฉันควรทำอย่างนี้จริงๆ”
“นี่ๆ ๆ หล่อน ตบปากสองทีเลยนะ บอกกี่ครั้งกี่หนแล้วให้เรียกนัตตี้ เดี๋ยวเลิกคบเลยนี่”
ดลกร หนุ่มหน้าสวยที่มีจิตใจเป็นผู้หญิงมาตั้งแต่จำความได้โวยวายไม่พอใจใส่เพื่อนสนิท
“เออๆ นัตตี้ก็นัตตี้...แล้วนี่แกคิดว่าฉันควรจะทำจริงๆ เหรอ ฉันอาย”
“จะมาองมาอายอะไรตอนนี้ ท่องไว้สิยะ ผัว...ผัว...ต้องได้คุณหมอหนุ่มสุดหล่อเป็นผัว...”
“นี่แก...ฉันไม่ใช่ชะนีนะที่จะร้องผัวๆ ๆ ๆ น่ะ” มัทนาต่อว่าเพื่อนอย่างไม่พอใจ
“แหม ก็แซวเล่นน่ะ แกก็อย่าป๊อดนักเลย มาถึงขนาดนี้แล้ว ก็แค่กางๆ ขาให้คุณหมอสุดหล่อตรวจไปเถอะ” ดลกรพูดขึ้นอย่างเบื่อหน่ายในความใจเสาะของชะนีสาวเพื่อนรัก
“แต่ว่าฉัน...เขินนี่นา”
“ก็แกอยากได้เขาเป็นผัวจนตัวสั่นไม่ใช่เหรอ กางๆ ขาไปเถอะ เชื่อฉันสิ ตอนนี้โดนนิ้วไปก่อน หลังจากนี้ก็ค่อยโดนของจริง” แล้วดลกรก็หัวเราะชั่วร้ายดังลั่น “ฉันว่าจะต้องใหญ่แน่ๆ แกเตรียมตัวฉีกเลย นังมัท”
“อีตุ๊ดบ้า ดูพูดเข้า แกไปส่องผู้ชายต่อเถอะ ฉันไม่ปรึกษาอะไรแกแล้ว”
“แหมๆ ๆ นังนี่ทำเป็นงอน ฉันก็แค่พูดตามความจริงนี่นา ด้านได้อาย อดฉันเคยบอกแกแล้วไง”
มัทนาถอนหายใจยาวเหยียด
“อย่าถอยนะยะ แกต้องสู้ นี่แกอยากให้ฉันไปถือป้ายไฟเชียร์แกที่หน้าห้องตรวจไหมนังมัท”