บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

นาราภัทรจำต้องรับปากกับพี่สาวในที่สุด ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าตนเองจะสามารถช่วยพี่สาวได้หรือเปล่า ขณะเดียวกันก็รู้สึกเป็นกังวลอยู่ลึกๆ เพราะกลัวว่าเรื่องที่พี่สาวกำลังจะเอ่ยปากขอร้องนั้น จะเหลือบ่ากว่าแรงที่เธอจะช่วยได้

และถ้าหากนาราภัทรละทิ้งความกังวลใจไปชั่วครู่ อีกทั้งยังสังเกตและคอยจับจ้องใบหน้าของคนเป็นพี่ดีๆ หญิงสาวจะเห็นว่ามีรอยยิ้มผุดขึ้นตรงมุมปาก ตอนเธอได้ตกปากรับคำว่าจะช่วยเหลือ

นิลนารายกมือปาดน้ำตาให้เหือดแห้ง ทว่ายังคงเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาขณะขอความเห็นใจและขอความช่วยเหลือจากน้องสาว

“นาราจำตอนที่พี่ไปเรียนต่อโทในอิตาลีได้ไหมจ้ะ”

“ค่ะ นาราจำได้ค่ะ พี่เพิร์ลเพิ่งกลับมาจากอิตาลีได้ไม่ถึงปี แต่ว่ามันเกี่ยวอะไรกับที่พี่เพิร์ล เอ่อ...ทะ...ท้องล่ะคะ”

ในท้ายประโยคนาราภัทรเอ่ยถามไม่เต็มเสียงนัก เพราะเกรงว่าคำถามของเธอจะทำให้พี่สาวโกรธเคืองและกระทบกระเทือนจิตใจได้

นิลนาราสูดสะอื้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยพูดต่อด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ เช่นเคย

“ตอนเรียนอยู่ที่อิตาลี มีผู้ชายคนหนึ่งมาตามตื้อพี่ คอยตอแยพี่ตลอดเวลาที่อยู่ที่นั่น”

“พี่เพิร์ลไม่ได้รักเขาหรือคะ”

“ไม่จ้ะ พี่ไม่เคยรักเขา แต่เขารักพี่มาก คอยตามตื้อเช้าเย็น จะพาพี่ออกไปกินข้าว ไปดูหนังให้ได้ พี่ไม่อยากไปไหนมาไหนกับเขา จึงต้องพยายามหลบหน้า บางวันเขาก็มาเฝ้าถึงหอพัก ทำให้พี่ต้องอดข้าวเพราะออกจากหอพักไม่ได้”

“แบบนี้เขาไม่เรียกว่าหลงรักแล้วค่ะ เขาเรียกว่าคลั่งรักมากกว่า”

นาราภัทรตำหนิผู้ชายคนที่เธอไม่เคยเห็นหน้า ไม่แม้แต่รู้จักชื่อของอีกฝ่ายด้วยซ้ำไป

นิลนาราพยักหน้า ตีหน้าเศร้า ขณะบอกน้องสาวต่อ “พี่ไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะคลั่งพี่มาก พอมาหลังๆ เริ่มหนักกว่าเดิม เขาส่งลูกน้องคอยติดตามความเคลื่อนไหวของ

พี่ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ถ้าเห็นพี่เดินกับผู้ชายคนไหน เขาก็จะทำร้ายผู้ชายคนนั้นทันที”

“ป่าเถื่อนที่สุด ทำไมเขาต้องหึงหวงพี่เพิร์ลมากถึงเพียงนี้ ทั้งๆ ที่พี่เพิร์ลไม่ได้เป็นแฟนกับเขาสักหน่อย”

นาราภัทรต่อว่าด้วยความโมโห ขณะเดียวกันก็นึกภาพของผู้ชายคนนี้อยู่ในใจว่าจะต้องมีหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัวถึงไม่มีคนรัก จนต้องมาตามตื้อขอความรักจากพี่สาวของเธอ

“ใช่แล้วนารา ริคคาร์โด้เป็นผู้ชายที่น่ากลัว และมีอำนาจมาก” นิลนาราเพิ่มความเกลียดชังที่มีต่อผู้ชายคนนี้ให้กับนาราภัทรมากกว่าเดิม

“อ้อ...ชื่อริคคาร์โด้”

นาราภัทรพยักหน้างึกๆ เรียกชื่อหนุ่มอัซซูรี (Azzurri) ด้วยน้ำเสียงเกลียดชังอย่างเต็มที่ และไม่ใช่แค่น้ำเสียงเท่านั้นที่เอ่ยเรียกอย่างจงชัง ดวงตากลมโตยังเผยความเกลียดชังให้เห็นอีกด้วย

“พอถูกตามตื้อมากๆ พี่เพิร์ลทำยังไงคะเพื่อกันเขาออกไปจากชีวิตของพี่เพิร์ล”

“ริคคาร์โด้ขอหมั้นกับพี่ และพี่ก็รับหมั้นเขาจ้ะ นารา”

“ห๊า!” คำตอบของพี่สาว ทำเอานาราภัทรต้องร้องเสียงหลง รีบเอ่ยถามซ้ำราวกับได้ยินไม่ชัด

“พี่เพิร์ลหมั้นกับนายริคคาร์โด้?”

“ใช่จ้ะนารา พี่รับหมั้นกับริคคาร์โด้”

“โอ๊ย...อะไรกันคะ นารางงไปหมดแล้ว เมื่อสักครู่พี่เพิร์ลพูดเองนี่คะว่าไม่ชอบหมอนั่น แล้วจู่ๆ ทำไมถึงบอกกับนาราว่ารับหมั้นกับเขาล่ะคะ” นาราภัทรงุนงงยิ่งกว่าไก่ตาแตก

นิลนาราตีหน้าเศร้าๆ ยกมือปาดน้ำตา ต่อว่าตัวเองที่แสนโง่เขลากับการตัด

สินใจทำเช่นนั้น

“พี่รำคาญที่ริคคาร์โด้คอยตามตื้อตลอดเวลา พี่เลยขอคุยกับเขาตรงๆ เขาเสนอเงื่อนไขว่าถ้ายอมไปกับกินข้าวกับเขาแค่วันละมื้อ และยอมรับหมั้น เขาจะเลิกส่งคนคอยติดตาม และจะมาหาแค่วันละครั้งตอนมารับพี่ไปกินข้าวด้วยกันเท่านั้น พี่จึงตอบตกลงรับหมั้นกับเขา เพราะมันทำให้พี่มีเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง และพี่คิดว่าอีกไม่เกินเดือนสองเดือน ริคคาร์โด้คงเลิกคลั่งในตัวพี่ พอพี่เรียนจบและกลับประเทศไทย เราก็คงจบกันแค่นั้น ไม่มีปัญหาอะไร แต่...แต่...”

พอพูดถึงตอนท้าย จู่ๆ น้ำเสียงก็ขาดหายไป นิลนาราก็สั่งให้น้ำตาร่วงเผาะเป็นเตาเผา สะอึกสะอื้นร้องไห้เสียงดัง ทำเอาผู้เป็นน้องสาวต้องตกใจ รีบเอ่ยถามเสียงร้อนรน

“เกิดอะไรขึ้นคะ นายริคคาร์โด้ทำร้ายพี่เพิร์ลหรือคะ บอกนารามาเร็วๆ สิ”

“ก็ไม่เชิงทำร้ายหรอกนารา” นิลนาราแบ่งรับแบ่งสู้ พลางเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาให้น้องสาวฟัง

“พี่กลับมาเมืองไทยเกือบปีแล้ว พี่คิดว่าป่านนี้ริคคาร์โด้คงมีผู้หญิงคนใหม่ คงแต่งงานมีลูกเป็นพรวน และก็ลืมเรื่องที่หมั้นกับพี่แล้ว แต่...ริคคาร์โด้ยังจำเรื่องการหมั้นได้เป็นอย่างดี เขาโทร.มาหาพี่เมื่อสองวันก่อน เตือนให้กลับไปอิตาลีเพื่อเป็นเมียน้อยของเขา...”

“เมียน้อย!” นาราภัทรเบิกตาโตเป็นไข่ห่าน พร้อมกับตะโกนเสียงดังลั่น “หมาย

ความว่านายริคคาโด้ร์มีเมียอยู่แล้ว”

“ใช่จ้ะนารา เขามีเมียมีลูกแล้ว แต่ยังต้องการให้พี่ไปเป็นเมียน้อยของเขาอีก”

“เลวที่สุด” นาราภัทรด่าออกมาอย่างเหลืออด

“พี่ปฏิเสธไป แต่เขาขู่ว่าถ้าไม่ไปอิตาลี เขาจะตามมาลากตัวถึงเมืองไทย แล้วตอนนี้พี่กำลังตั้งท้องอยู่ด้วย คงทำตามที่เขาต้องการไม่ได้ พี่ไม่น่ารับหมั้นริคคาร์โด้เลย พี่หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ”

หยาดน้ำตาอุ่นไหลเป็นทางยาวหลังจากเจ้าตัวพูดจบ แถมยังสะอื้นฮักจนตัวสั่นโยน นาราภัทรเห็นเช่นนั้นก็รีบเข้าไปสวมกอดพี่สาวไว้แน่น

“พี่เพิร์ล อย่าร้องไห้เลยนะคะ เราแก้ไขเรื่องการหมั้นไม่ได้แล้ว เรามาช่วยกันหาวิธีแก้ไขปัญหาที่กำลังจะตามมาดีกว่านะคะ”

นาราภัทรปลอบพี่สาว ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่าคำพูดของตัวเองกำลังเป็นไปตามเกมส์ซึ่งผู้เป็นพี่ได้วางหมากมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว

“นาราคนเดียวเท่านั้นที่จะช่วยพี่ได้ นาราต้องช่วยพี่นะ ไม่เช่นนั้น พี่กับลูกในท้องจะต้องถูกฆ่าตายแน่นอน นาราคงไม่ปล่อยให้พี่กับหลานแท้ๆ ของนาราต้องถูกฆ่าตายก่อนจะมีโอกาสได้ลืมตาดูโลกนะ”

นิลนาราขอร้องระคนวิงวอนน้องสาวผ่านทั้งถ้อยคำและแววตาที่นองไปด้วยหยาดน้ำตาใส

นาราภัทรพยักหน้าช้าๆ ก่อนจะรับคำ ทำให้นิลนาราลอบยิ้มอยู่ในใจ “นาราจะช่วยพี่เพิร์ลเองค่ะ จะให้นาราทำยังไง พี่เพิร์ลบอกนารามาสิคะ”

นิลนาราเอื้อมมือไปหยิบซองเอกสารสีขาวซึ่งปิดผนึกเรียบร้อย ที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา จากนั้นก็ยื่นให้น้องสาว

“พี่เขียนจดหมายถึงริคคาร์โด้ เล่าถึงความจำเป็นที่พี่ไม่สามารถทำตามที่เขาต้องการได้ พี่อยากให้นาราเอาจดหมายและแหวนหมั้นวงนี้ไปคืนให้กับริคคาร์โด้ด้วย”

ทั้งจดหมายและแหวนเพชรวงงามถูกยัดเข้ามาในมือของนาราภัทร เท่านั้นยังไม่พอ ผู้เป็นพี่สาวยังสวมกอดน้องสาวไว้แน่น ขณะเอ่ยบอกต่อให้นาราภัทรต้องตกใจอีกครั้ง

“นาราต้องบินไปอิตาลีพรุ่งนี้ เครื่องออกตอนห้าทุ่มนะจ้ะ”

นาราภัทรดันตัวพี่สาวออกห่าง พร้อมกับถามเสียงหลง “อะไรนะคะ ไปอิตาลีพรุ่งนี้?”

“ใช่จ้ะ นาราต้องไปอิตาลีพรุ่งนี้” นิลนาราย้ำคำอีกครั้ง

“จะไปได้ยังไงคะ นารายังไม่มีตั๋วเครื่องบินเลยนะคะ”

นาราภัทรค้านออกมา โดยไม่รู้เลยว่าพี่สาวเตรียมทุกอย่างไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว

“พี่จองตั๋วเครื่องบินไว้ให้นาราแล้วจ้ะ และพี่รู้ด้วยว่าวีซ่ากับพาสปอร์ตของนารายังไม่หมดอายุ นาราสามารถบินไปอิตาลีในวันพรุ่งนี้ได้เลยจ้ะ”

นิลนารารู้ว่าน้องสาวต้องหาเหตุผลมาอ้าง เธอจึงรีบดักคอน้องสาวไว้ทุกทิศทาง

ยังไงๆ ก็ต้องให้น้องสาวเป็นตัวแทนนำจดหมายฉบับนี้ ไปส่งถึงมือของดอนริคคาร์โด้ให้จงได้

พอถูกนิลนาราดักทางไว้หมดแล้ว นาราภัทรก็ได้แต่อ้ำอึ้ง เอ่ยบอกเหตุผลกับพี่สาวไม่เต็มเสียงนัก

“แต่...แต่...นารามีสอนนะคะพี่เพิร์ล”

“ก็ลากิจสิจ้ะ นาราสอนโรงเรียนเอกชน สามารถลางานได้ง่ายจะตายไป ยังไงๆ ทางโรงเรียนก็หาครูคนอื่นมาสอนแทนได้อยู่แล้ว”

“แต่...แต่...”

นาราภัทรเริ่มรู้สึกไม่อยากทำตามที่รับปากกับพี่สาว เพราะในตอนแรกเธอไม่นึกว่าจะต้องช่วยพี่สาวด้วยวิธีนี้ และไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจไว้ว่าต้องเดินทางไปยังดินแดนอัซซูรีในวันพรุ่งนี้

เมื่อน้องสาวเกิดอาการลังเล ทำท่าจะปฏิเสธในการส่งจดหมาย นิลนาราจึงงัดไพ่ใบสุดท้ายมาใช้ ซึ่งเธอเชื่อว่าจะต้องได้ผลอย่างแน่นอน

“ถ้านาราลำบากใจ ไม่อยากช่วยพี่ก็ไม่เป็นไร พี่จะหอบลูกในท้องทนนั่งบนเครื่องบินแคบๆ บินไปอีกซีกโลกเพื่อไปหาริคคาโด้ร์เอง แม้จะแพ้ท้องมากแค่ไหนพี่ก็ยอมทำ เพราะพี่ไม่ยอมตกเป็นเมียน้อยของเขาอย่างแน่นอน”

ขณะคร่ำครวญบอกน้องสาวเสียงสั่นเครือ มือเล็กก็เอื้อมไปคว้าซองจดหมายกับแหวนเพชรคืนมาจากน้องสาว ทว่านาราภัทรรีบดึงมือหนีเสียก่อน

“ก็ได้ค่ะ นาราจะไปอิตาลีเอง พี่เพิร์ลไม่ต้องไปหรอก กำลังแพ้ท้องอยู่ด้วย เดินทางไกลคนเดียวจะเป็นอันตรายได้”

ประโยคนั้นทำเอานิลนาราคลี่ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ โผเข้าไปสวมกอดน้องสาวไว้แน่น โดยไม่ลืมรำพันขอบคุณน้องสาวด้วย

“ขอบใจนารามากนะจ้ะ ที่ยอมทำเพื่อพี่ ถ้าไม่มีนารา พี่ต้องตายแน่ๆ เลย”

“ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อพี่เพิร์ล นาราทำได้ทุกอย่างค่ะ” นาราภัทรสวมกอดพี่สาวไว้แน่นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะดันตัวออกช้าๆ

“นาราขอไปเตรียมเอกสารการเดินทาง และก็จัดกระเป๋าก่อนนะคะ”

“ให้พี่ไปช่วยจัดกระเป๋าไหมจ๊ะ”

นิลนาราอาสาช่วยน้องสาว ตอนนี้เธอกำลังอารมณ์ดีเพราะมีคนทำหน้าที่ส่งจดหมายให้กับตนแล้ว

นาราภัทรลุกขึ้นยืน แล้วเอ่ยปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอกคะ นาราจัดกระเป๋าเองได้ พี่เพิร์ลไปพักผ่อนเถอะนะค่ะ พี่เพิร์ลยังดูเพลียๆ อยู่เลย” จากนั้นหญิงสาวก็หันไปมองทาง

มารดา พร้อมกับบอกท่านอีกคน

“คุณแม่ก็ไปพักผ่อนเถอะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของพี่เพิร์ลนะคะ นาราจะเป็นคนแก้ไขสถานการณ์นี้เองค่ะ”

“จ้ะลูก” คุณกุลธรารับคำ โดยไม่ได้มองสบตากับลูกสาวคนเล็ก

“นาราขอตัวก่อนนะคะ”

นาราภัทรยิ้มให้มารดาและพี่สาวอีกครั้ง ก่อนจะเดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่าคล้อยหลังเธอไปแล้ว ผู้เป็นมารดากับพี่สาวต่างก็จับมือกันคลี่ยิ้มด้วยความดีใจเมื่อแผนการสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

“นารายอมไปอิตาลีแล้ว เพิร์ลดีใจจังเลยค่ะคุณแม่ ตอนนี้เพิร์ลได้แต่ภาวนาให้ดอนริคคาร์โด้รับแหวนคืนและยกเลิกการหมั้นระหว่างเราสองคน”

“เมื่อนาราไปถึงบ้านของดอนริคคาร์โด้แล้ว เพิร์ลจะถามข่าวคราวของมาคอส

จากน้องไหม”

นิลนาราถึงกับนิ่งเงียบไปหลายนาที ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ค่ะ เพิร์ลไม่อยากรู้ เพิร์ลไม่อยากรับรู้ถึงชีวิตของเขา แต่เพิร์ลมั่นใจว่าป่านนี้เขาคงแต่งงานและมีลูกน้อยให้เชยชม เขากำลังมีความสุขกับครอบครัวของเขา และเพิร์ลก็ควรยินดีกับเขาด้วยใช่ไหมคะ คุณแม่”

กุลธรายกมือลูบเบาๆ ไปบนศีรษะของลูกสาว ก่อนจะดึงร่างบางให้ซบกับอกอันแสนอบอุ่น ขณะเอ่ยปลอบไปว่า

“แม่รู้ว่าการมีความรักแค่เพียงฝ่ายเดียว มันทำให้เราเจ็บปวดเสียใจมาก แต่ความรักเป็นสิ่งสวยงาม เป็นเครื่องจรรโลงใจของมนุษย์ทุกคน แม่ไม่อยากให้เพิร์ลปิดกั้นหัวใจของตัวเอง หากมีใครสักคนเข้ามาในชีวิต แม่ก็อยากให้เพิร์ลลองเปิดใจกับความรักอีกสักครั้ง”

“ค่ะ คุณแม่ เพิร์ลจะไม่ปิดกั้นหัวใจของตนเอง แต่ตอนนี้เพิร์ลไม่มีใคร เพิร์ลอยากรักษาบาดแผลในหัวใจให้สมานซะก่อน และคงต้องใช้เวลานานกว่าแผลนั้นจะหายดี”

นิลนาราซบหน้าลงกับอกของมารดา แน่นอนว่าต้องใช้เวลาเนิ่นนานกว่าเธอจะลืมมาคอสได้ หรืออาจลืมไม่ได้เลยตลอดทั้งชีวิตก็เป็นได้..

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel