บทที่5
เรื่องที่หนึ่ง - โอ้...ยาหยี 5
...แล้วเมื่อกี้ไม่ผ่อนคลายหรอกเหรอ...
คำถามหนึ่งดังสวนในความคิด...ผ่อนคลายสิ ผ่อนคลายเสียจนเนื้อตัวเบาสบายเชียวแหละ เพียงแต่ยาหยีรู้สึกว่ามันผิด มันเหมือนหล่อนกำลังนอกใจธีรเดช
...ไป...ออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด...นั่นคือสิ่งที่ยาหยีคิดออกในเวลานี้ หล่อนรีบแต่งตัว คิดว่าออกจากห้องไพรเวทนี้แล้วถ้าไม่เจอเพื่อนสาว ก็จะไม่อยู่รอ แต่พอก้าวออกจากห้องน้ำ...เจอหมอนวดหนุ่มยืนจัดข้าวของตรงตู้ติดผนังช่วงหัวเตียง ยาหยีก็ก้าวขาไม่ออก แถมไม่รู้จะวางสีหน้าอย่างไร จะเดินออกไปเลยก็ดูไร้มารยาท ระหว่างที่หล่อนยืนเก้กังนั่นเอง อีกฝ่ายก็หันมาและเดินตรงมาหา
“คุณผู้หญิงครับ” เขาเรียกหล่อนด้วยคำเรียกขานดังเดิม ไม่ใช่ด้วยชื่อเช่นเมื่อครู่ “ผมต้องขอประทานโทษที่ล่วงเกินไปเมื่อครู่ ผมรู้ว่าคุณผู้หญิงรู้สึกไม่ดี แต่เชื่อผมเถอะว่า คุณไม่ได้ทำอะไรผิด ที่สำคัญคุณไม่ได้นอกใจสามี นี่อาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่คุณจะมาที่นี่ ผมไม่อยากให้คุณเก็บความรู้สึกแย่ๆ กลับไป อย่างน้อย...ก็คิดถึงช่วงที่คุณมีความสุขนะครับ”
“เอ่อ...ฉ...ฉัน...” ยาหยีเหมือนนึกคำพูดไม่ออก สิ่งที่เขาพูดมาคือสิ่งที่หล่อนคิดและรู้สึก
ใช่! ยาหยีรู้สึกเหมือนกำลังทรยศและนอกใจสามี ขณะที่เขาทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว แต่หล่อนกลับมาหาความสุขใส่ตัว
“ปัญหาเรื่องบนเตียงไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ นะครับ ถ้าคุณผู้หญิงเปิดใจคุยกับสามีได้ ก็ทำเถอะ” หมอนวดหนุ่มหล่อแนะนำอย่างจริงใจ
“แต่...ฉันไม่รู้จะพูดยังไงน่ะสิ” ความอึดอัดคับข้องเหมือนจะปลิวหายเมื่อมีคนชวนคุยในเรื่องที่ทุกข์ใจ
“สามีภรรยากัน ก็พูดไปตรงๆ สิครับ ถ้าเขา...เอ่อ...ไม่ทำการบ้าน ก็ถือว่าบกพร่องในหน้าที่สามี”
“ฉันพูดไม่ได้หรอก เขาจะว่าฉันสิว่าวันๆ คิดแต่เรื่องเซ็กส์”
“คิดเรื่องเซ็กส์ไม่ผิดหรอกครับ คนที่ไม่คิดเรื่องนี้เลยต่างหากที่ผิดปกติ” ยาหยียิ้มจืดๆ รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อยที่อย่างน้อยหล่อนก็ไม่ได้ผิดปกติ...เพราะช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา หล่อนคิดถึงเรื่องนี้บ่อยทีเดียว
“ขอบคุณนะ ที่ทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ผิดปกติ”
“เซ็กส์มันคือปัจจัยที่หกของมนุษย์ครับ”
คำพูดของอาร์ตกระทบใจของยาหยีอย่างจัง...หล่อนไม่เคยคิดถึงเซ็กส์ในแง่ของปัจจัยที่ขาดไม่ได้ เซ็กส์สำหรับหล่อนเหมือนเรื่องต้องห้าม แม้จะต้องการและโหยหาแทบขาดใจ แต่ก็ไม่ควรเอ่ยปาก...ขอ
เซ็กส์เป็นเรื่องสุดท้ายที่หล่อนจะพูดถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...กับสามีตัวเอง
ให้เลือก...หญิงสาวเลือกที่จะพูดถึงเซ็กส์กับเพื่อนสนิทอย่างนลินีมากกว่า เพราะความที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน และมั่นใจว่าเพื่อนจะไม่ตีค่าตัวตนของหล่อนจากเรื่องบนเตียง
“ฉันคงต้องไปแล้วล่ะ” ยาหยีเอ่ยลา อาร์ตยิ้มให้พลางหยิบอะไรสักอย่างออกมาจากลิ้นชักตู้แล้วเดินมายื่นให้ตรงหน้า...มันคือ...นามบัตร ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของสปาแห่งนี้
“เอาไปแล้วคุณจะโยนมันทิ้งไปก็ได้ แต่ถ้าคุณเก็บมันไว้...ไม่แน่ วันหนึ่งเมื่อคุณโหยหาเซ็กส์ คุณอาจจะได้ใช้มัน หรือ...ถ้าแค่อยากให้นวดผ่อนคลาย...ผมก็ยินดีบริการ”
ยาหยีรับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ ยัดแผ่นกระดาษเล็กๆ นั่นลงกระเป๋าได้ก็รีบจ้ำออกมาจากห้องไพรเวททันที
รุ่งขึ้นนลินีโทรศัพท์มาหาแต่เช้าก่อนจะเข้ามาหาที่บ้าน มาถึงคำถามแรกของคนเป็นเพื่อนก็ทำให้ยาหยีตีสีหนาไม่ถูกเอาทีเดียว
“ว่าไงจ้ะ ตกลงเมื่อวานนายอาร์ตบริการถึงใจไหม”
“แกนะ! พาฉันไปที่นั่นทำไม!”
“อ้าว! ก็แกบอกเองว่าผัวไม่ยอมทำการบ้านหลายเดือน ฉันก็เลยแนะนำสถานที่ปลดปล่อยอารมณ์เปลี่ยวให้...ไม่ดีเหรอ?”
ยาหยีส่ายหน้า...ก่อนจะสวนกลับ
“ฉันถามแกเพื่อจะปรึกษาว่าจะหาวิธีเอาใจผัวยังไง ไม่ใช่นอกใจผัว!”
“นอกใจ?” นลินีย้อนถาม “ถ้าแกคิดว่าที่ฉันเข้าสปานั่นเพื่อไปนอกใจผัวตัวเอง แกคิดผิดแล้วหยี สำหรับฉันมันเป็นการประคองชีวิตคู่ของฉันกับพี่พัฒน์ให้ยืดออกไปนานๆ แกคิดว่าเรื่องเซ็กส์เนี่ยมันทำให้คนเลิกกันไมได้เหรอ ฉันจะบอกให้ว่าหลายคู่เลิกลากันไปก็เพราะเรื่องเซ็กส์เป็นสาเหตุหลักก็ตั้งเยอะ ฉันรักพี่พัฒน์แต่ฉันก็เป็นคนที่มีอารมณ์มีความต้องการ ถ้าพี่พัฒน์ให้ฉันไม่ได้ ฉันต้องทนเหรอวะ หรือแกจะทน...ก็เห็นอยู่ว่าแกเองก็ทนไม่ได้ คนมันอยากกิน...มันหิว ให้ทำยังไงวะ มันก็ต้องกินป่าว”
“เออ...แต่แกไม่รู้สึกผิดบ้างเหรอ ที่ไป...เอ่อ..”
“มีอะไรกับผู้ชายคนอื่นน่ะเหรอ ตอนแรกก็รู้สึก แต่ตอนนี้...ไม่ว่ะ ก็คิดเสียว่าเข้าสปาไปผ่อนคลายสิแก ฉันก็ไม่ได้รักพี่พัฒน์น้อยลง ตรงกันข้าม...พอไม่ต้องมานั่งคิดว่าที่พี่พัฒน์ไม่ทำการบ้าน เป็นเพราะฉันมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า หรือว่าเขารักฉันน้อยลงหรือเปล่า ฉันก็แฮปปี้มีความสุข...แล้วพอคนมันมีความสุข ไอ้สิ่งที่ขาดๆ หายๆ มันก็กลับมาเอง”
“แกหมายความว่า ทุกวันนี้พี่พัฒน์นอนกับแกเหรอ” นลินีพยักหน้ารับ “แล้วแกก็ยังเข้าสปานั่นอีก?”
“อือ...ก็บางทีพี่พัฒน์เขาก็ให้ในสิ่งที่ฉันต้องการไมได้ไง พี่พัฒน์เขาหัวโบราณ เวลาเอากัน...เขาก็มีสเต็ปของเขา ชอบเล่นท่าเดิมๆ นานๆ เข้ามันก็เบื่อ แต่ฉันก็พูดอะไรไม่ได้ ถามว่าฉันมีความสุขไหมเวลามีอะไรกับพี่พัฒน์ มันก็มีนะ ฉันก็ถึงไคลแม็กซ์ทุกครั้ง แต่...บางอารมณ์มันก็อยากได้อะไรแบบ...ดิบๆ หื่นๆ บ้างไงแก...ฉันก็ไปหาเอาที่สปานั่นแหละ เอาล่ะ...ฉันไม่บังคับหรอก ถ้าแกไม่อยากไปที่นั่นอีก ฉันก็จะไม่เซ้าซี้ชวนแกไป ถือว่าไปมาแล้วรู้แล้วว่ามันเป็นยังไง”
ยาหยีได้แต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จาอยู่ตั้งพัก ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนคนที่คิดไม่ตก
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน”
“เออ...แล้ววันนั้น...” คนเป็นเพื่อนเบาเสียงลง ดวงตาเป็นประกายเมื่อจะเอ่ยประโยคถัดไป “แกกับนายอาร์ต...”
“ถ้าแกหมายถึง...แบบนั้น เปล่า...ยังหรอก ข...เขา...แค่...นวด” คำพูดติดขัดไม่เป็นประโยคของยาหยีทำให้คนฟังอมยิ้ม
“แต่ก็ไม่ได้นวดเฉยๆ ละสิ เขาทำอะไรให้แกวะ...บอกฉันหน่อยสิ นะๆ”
“เอ่อ...ข..เขา...เขา...ก็ช่วย...”
“ช่วยแก...ปากหรือว่านิ้วล่ะ แล้วแกเสร็จไหม?” คำถามรัวอย่างอยากรู้อยากเห็นทำให้ยาหยีทั้งฉุนทั้งขำ
“แกนี่!”
“อ้าว! ก็มันอยากรู้นี่นา แล้วตกลงว่าไง...เสร็จไหม?” ยาหยีพยักหน้ารับเขินๆ “ชอบไหม?”
คำถามสุดท้ายของคนเป็นเพื่อนยิ่งทำให้ยาหยีหน้าแดงก่ำถึงใบหู
“มัน...มันก็ดี ฉัน...ฉันไม่ได้เสร็จแบบนั้นตั้งนาน” ฟังคำตอบของยาหยีแล้ว นลินีก็หัวเราะลั่นอย่างชอบใจ
“เห็นไหม...ฉันบอกแล้วว่ามันดี อย่างน้อยแกได้ปลดปล่อย รู้สึกสบายตัวขึ้นไหมล่ะ แล้วเป็นอย่างที่ฉันบอกไหม พอเลิกหงุดหงิดงุ่นง่าน ใจมันก็เลิกคิดโน่นนี่ บางที...มันก็ไม่ได้มีอะไรไง แต่พอใจมันคิด...ก็ยากที่จะทำให้มันหยุด”
“ก็...” ยาหยีกลอกตาไปมาเหมือนคิดตามที่เพื่อนพูดก่อนจะพยักหน้ารับ...ช้าๆ “ก็จริงนะ...วันนี้ฉันรู้สึกโล่งขึ้น เมื่อเช้าตอนธีไปทำงาน ฉันก็ไม่ได้หงุดหงิดทำหน้าเซ็งเป็ดใส่เหมือนหลายๆ วันก่อน วันนี้ธียังมาหอมแก้มฉันเลย เขาบอกไม่ได้เห็นฉันยิ้มนานแล้ว”
“เห็นไหม? เหมือนที่ฉันบอกไหม?”
ยาหยีคิดตาม...มันก็จริงอย่างที่นลินีว่า
