ตอนที่ 4 แผนการ
เมืองหนานอัน ยามโหยว่(1)
ภายในเรือนหลังขนาดกลางของอนุจินหรง เสียงเอะอะโวยวายปะปนกับเสียงร้องไห้ของหญิงต่างวัยดังขึ้น ณ ยามนี้ผู้เป็นใหญ่ของจวนแห่งนี้กำลังสั่งให้บ่าวรับใช้ลงโทษบุตรีที่เกิดจากอนุจินหรงรวมไปถึงสองสาวใช้ที่ติดตามนาง สาเหตุของการลงโทษในครั้งนี้นั้น เป็นเพราะหลินเยว่หรูหรือคุณหนูรองของฮูหยินใหญ่ ได้รายงานถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานกับน้องห้าของเธอให้บิดาฟัง ทำให้เย็นนี้เขาต้องมาจัดการเรื่องนี้ด้วยตนเอง เมื่อไตร่สวนแล้วพบว่าเรื่องที่หลินเยว่หรูเล่ามานั้นคือเรื่องจริง
“นังลูกไม่รักดี!!! เหตุใดเจ้าถึงต้องกระทำการรุนแรงกับบ่าวของน้องสาวเจ้าด้วย พ่อเคยสั่งสอนเจ้าแล้วมิใช่หรือว่ามิให้ใช้กำลังไม่ว่าจะกับใครก็ตาม"
“ท่านพ่อลูกขอโทษเจ้าค่ะ ลูกขอโทษฮือๆๆๆ” คุณหนูสี่ร้องไห้คร่ำครวญกล่าวคำขอโทษออกมา
"แล้วเจ้า… ไปยุ่งอันใดกับน้องสาวของเจ้าหรือไม่ น้องห้าของเจ้าร่างกายอ่อนแอมาแต่ไหนแต่ไร เจ้าต้องรักและเอ็นดูนาง มิใช่ไปรังแกนาง”
“ท่านพี่… อภัยให้ลูกสี่เถอะนะเจ้าคะ ลูกสี่ไม่ได้ตั้งใจ อีกอย่างนางยังเด็กนัก ยังไม่รู้ความ” อนุจินหรงคุกเข่าอ้อนวอนผู้เป็นสามี
“หุบปาก!!! อนุจิน หากเจ้าดูแลนางไม่ได้ข้าจะให้ส่งนางให้กับฮูหยินสั่งสอนแทน เจ้าว่าดีไหมล่ะ”
นั่นเป็นเรื่องที่นางกลัวมากที่สุด คือการที่บุตรสาวต้องไปอยู่ในการดูแลของผู้อื่นโดยเฉพาะฮูหยินใหญ่ที่เกลียดชังนางเช่นกัน ดีที่ว่าบุตรชายของนั้นเพิ่งสอบผ่านได้เป็นจิ้นซื่อ(2) ซึ่งเป็นที่แน่นอนแล้วว่าเขาจะได้เป็นขุนนางในวังหลวง นางจึงไม่ห่วงหรือกังวลอันใดอีก คงจะมีแต่บุตรสาวผู้ดื้อรั้นผู้นี้เท่านั้นที่นางยังคงต้องดูแลเอาใจใส่
“ฮือๆๆๆ ไม่นะท่านพ่อ ลูกผิดไปแล้ว ให้อภัยลูกเถิด ลูกเพียงอยากให้น้องห้าได้พักผ่อน ออกมาตากแดดตากลมเช่นนั้นข้าก็กังวลว่าน้องห้าจะป่วยหนักไปกว่าเดิม” หลินจินหรูร้องไห้คร่ำครวญออกมาราวกับว่ากำลังสำนึกผิดแต่ทว่าภายในใจนางนั้นกลับมีจิตใจที่เคียดแค้น
“นังบ่าวสองคน!!! เจ้าสองคนทำความผิดคือไม่ห้ามปรามคุณหนูสี่ กลับให้ท้ายและเป็นฝ่ายทำตามคำสั่งนาง เจ้าตบเด็กรับใช้ของคุณหนูสี่ใช่ไหม พวกเจ้า!!! ตบหน้านังสองคนนี้คนละยี่สิบที!!”
เจ้ากรมการกลาโหมผู้ที่ยึดในความถูกต้องเสมอมาเอ่ยถามบ่าวรับใช้สองคนของหลินจินหรู ก่อนที่จะหันไปสั่งบ่าวไพร่ที่เป็นสตรีให้จัดการกับบ่าวสองคนของบุตรีที่ไม่ยอมห้ามปราม กลับกระทำตามคำสั่งทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่ถูกต้อง
“นายท่านเจ้าคะ พวกข้าผิดไปแล้ว อภัยให้พวกข้าเถิดนะเจ้าคะ” สาวใช้ข้างกายของหลินจินหรูเอ่ยออกมาทั้งน้ำหูน้ำตา
“หึ!! ตบพวกมันเพื่อให้เป็นตัวอย่าง ว่าจวนของข้าไม่ใช่ที่ใครจะมารังแกใครก็ได้”
หลินหยางไม่อยากจะฟังคำแก้ตัว หากวันนี้เขาไม่ลงโทษพวกนาง วันหน้าอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ใหญ่กว่าเมื่อวานนี้ก็เป็นได้ บ่าวที่เป็นสตรีร่างกายอวบอ้วนสี่คนจัดการจับตัวเด็กรับใช้ทั้งสองให้ยืนขึ้นแล้วตบลงไปที่ใบหน้าของพวกนางคนละยี่สิบทีตามคำสั่งของนายท่าน
“โอ๊ย!!! ฮือๆๆๆ ข้าผิดไปแล้ว นายหญิง… คุณหนูสี่ช่วยพวกเราด้วยเจ้าค่ะฮือๆๆ”
สาวใช้ทั้งสองต่างพากันร่ำร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ฝ่ามืออวบอ้วนของสาวใช้รุ่นป้าที่ตกลงมากระทบเนื้อนั้นช่างทำให้เนื้อพวกนางนั้นเจ็บแสบนัก
“ตบพวกนางต่อไป จนกว่าจะครบตามคำสั่งของข้า”
หลิวหยางออกคำสั่งอย่างเด็ดขาด เขาไม่สนใจคำอ้อนวอนของผู้กระทำผิด ความเด็ดเดี่ยวของเขาทำให้บ่าวในจวนเคารพนับถือ รวมไปถึงเกรงกลัวเขาอยู่ไม่น้อย เสียงฝ่ามือที่ฟาดลงบนเนื้อแก้มของสองสาวรับใช้ดังขึ้นมาไม่ขาดสายพร้อมกับเสียงครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวดของพวกนาง
“ส่วนนาง….. ให้คุกเข่าสำนึกผิดอยู่ที่นี่จนกว่าจะยามซวี่(3) อ้อ….แล้วห้ามพวกเจ้าให้นางลุกขึ้นก่อนถึงชั่วยามที่ข้าสั่งเด็ดขาด" หลิวหยางออกคำสั่งกับบ่าวรับใช้ที่เป็นสตรี
"เจ้าจงจำเอาไว้ลูกสี่ ถึงเจ้าจะเป็นบุตรีของข้า แต่ถ้าเจ้ากระทำผิดข้าก็ไม่มีวันอ่อนข้อให้ และทีหลังจะออกคำสั่งให้พวกเด็กรับใช้กระทำการสิ่งใด หากมันผิดแล้วข้าจับได้ เจ้าจะถูกส่งตัวให้ฮูหยินใหญ่ไปอบรม เข้าใจไหม”
เสี่ยวเอ๋อที่แอบมองอยู่ไม่ไกลนั้นฉีกยิ้มออกมา ถึงคุณหนูห้าของเธอจะเป็นบุตรีที่เกิดจากอนุ แต่ทว่าบิดาอย่างเจ้ากรมการกลาโหมกลับรักและเอ็นดูไม่แพ้บุตรชายและบุตรีคนอื่นๆ ติดเพียงแต่ว่า ร่างกายของคุณหนูของเธอนั้นอ่อนแอไม่แข็งแรง จึงถูกคุณหนูสี่กลั่นแกล้งรังแกเสมอมา ร่างบางรีบเดินหลบไปทางเรือนของอนุซูฉีที่ซึ่งเป็นที่พักของคุณหนูของนาง
หลังจากสำเร็จโทษบุตรีและบ่าวทั้งสองคนของนางแล้ว เจ้ากรมการกลาโหมหลิวหยางจึงเดินกลับเรือนใหญ่ไปด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองที่ไม่ลดลงเลยแม้แต่นิด แม้แต่หน้าของอนุจินเขาก็ไม่หันมอง น้ำตาของนางไหลลงเมื่อหันกลับไปมองภาพบุตรสาวยังคงนั่งอยู่กับที่ไม่ขยับไปไหน แม้จะอยากขัดคำสั่งแต่ในเมื่อผู้เป็นสามีสั่งเช่นนั้นเธอก็จำเป็นต้องทำตาม ผ่านไปนานเท่าใดมิอาจรู้ได้ หลินจินหรูหลั่งน้ำตาลงมาพร้อมกับความเคียดแค้นที่ฝังอยู่ภายในใจ การที่นางโดนลงโทษในวันนี้นางหาได้สำนึกผิดไม่ แต่ทว่านางกลับโทษที่มีน้องสาวที่อ่อนแอ และเด็กรับใช้ที่บังอาจขึ้นเสียงใส่คุณหนูสี่อย่างนาง
“คุณหนูสี่เจ้าคะ ลุกขึ้นเถิดเจ้าค่ะ นายท่านอนุญาตให้คุณหนูสี่กลับเข้าเรือนได้แล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้ของเรือนใหญ่เดินมาบอกคุณหนูของเรือนสาม
“เร็วเข้า… ช่วยพยุงคุณหนูสี่ขึ้นมาแล้วพาเข้าไปพักในห้องของนาง” อนุจินรีบบอกให้สาวรับใช้ในเรือนของนาง
สตรีร่างเล็กถูกสตรีร่างใหญ่ช่วยโอบประคองแขนทั้งสองข้างก่อนที่จะพยุงเดินเข้าไปภายในเรือนหลังขนาดกลางซึ่งเป็นที่พักของนาง อนุจินมองบุตรสาวของตนด้วยแววตาสงสาร จากนั้นจึงรีบสาวเท้าก้าวตามไป
“ท่านแม่… ข้าเจ็บ”