ตอนที่ 2 เธอมากับฉัน
ไต้ฝุ่นรีบเดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ลานจอดรถของมหาวิทยาลัย มุ่งหน้ากลับเพนท์เฮาส์ของตนเองอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันซวยอะไรถึงถูกด่าว่าปากปีจอไม่ให้เกียรติผู้หญิง และแทนที่จะได้ไปนอนกับสาวสวย แต่ยัยเด็กนั่นก็มาทำให้เขาหมดอารมณ์
ไต้ฝุ่นเข้าไปอาบน้ำแล้วก็ออกมานั่งเล่นโทรศัพท์ที่โซฟา แต่แล้วก็ได้รับข้อความจากเจ้าของผับดังในย่านนี้ส่งเข้ามา
**********
Ray : มาหาที่ผับหน่อยสิวะ
Typhoon : ครับ
**********
ไต้ฝุ่นรีบตอบกลับข้อความแล้วเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาออกมาหยิบกุญแจรถแล้วออกเดินทาง เมื่อไปถึงผับก็ขึ้นไปบนชั้นสองที่เป็นห้องสำหรับลูกค้าวีไอพี
“ทำหน้าบึ้งมาเลยนะมึง” พอเห็นหน้าหนุ่มรุ่นน้องเรย์ผู้เป็นเจ้าของผับก็เอ่ยแซวขึ้นทันทีที่วันนี้หนุ่มรุ่นน้องทำหน้าไม่รับแขก
“เซ็งว่ะเฮีย”
“ใครทำให้น้องกูตกอยู่ในสภาพนี้ได้วะ ฮ่าฮ่า”
เรย์เป็นเพื่อนสนิทกับเคนซึ่งพี่ชายของไต้ฝุ่น เขาถามน้องชายเพื่อนพร้อมกับเสียงหัวเราะร่า ที่ไม่ได้เห็นหน้าไต้ฝุ่นเป็นแบบนี้มานาน เพราะปกติหนุ่มรุ่นน้องมักจะมีแต่คนคอยตามใจ
ไต้ฝุ่นเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เรย์ฟัง เรย์ก็ส่งเสียงหัวเราะขำอย่างชอบใจ ไม่คิดว่าไอ้หน้าหล่อที่มีแต่สาวๆ เข้าหา วันนี้จะได้กลายเป็นไอ้ปากหมาเพราะเดินชนกับผู้หญิง
“อย่าขำดิเฮีย คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่” เขารู้สึกเสียเชิงเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยโดนผู้หญิงด่าแบบนี้มาก่อน
“เออๆ มึงรีบดื่มเลย เดี๋ยวคืนนี้กูจะหาสาวๆ ให้มึงเอง มึงอยากได้หุ่นแบบไหนบอกมา เดี๋ยวเฮียจัดให้” เรย์ยื่นแก้วออกไปชนกับแก้วของไต้ฝุ่นแล้วยกขึ้นดื่ม
“ไว้วันอื่นแล้วกันเฮีย คืนนี้ไม่มีอารมณ์ ผมขอดื่มอย่างเดียวดีกว่า” ไต้ฝุ่นเลือกที่จะปฏิเสธแล้วยกน้ำเมากระดกลงคอ ยิ่งคิดถึงหน้าคนปากดี เหล้าที่ว่าขมก็จืดชืดราวกับน้ำเปล่า
เหล้าขวดแรกหมดลงไต้ฝุ่นก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ทั้ง ๆ ที่มีห้องน้ำอยู่ชั้นบนแต่เขาก็เลือกเดินลงไปเข้าที่ชั้นล่าง และพอทำธุระเสร็จจะกลับขึ้นมาดื่มต่อ สายตาก็เหลือบไปเห็นด้านหลังของหญิงสาวคนหนึ่งที่ใส่ชุดเสื้อยืดกางเกงยีนธรรมดา เดินมองหาอะไรบางอย่างอยู่ตรงทางเดิน พอมองดูดีๆ แล้วก็คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นคนเดียวกับที่เดินชนเขาที่หน้าโรงยิม จึงได้เดินตามหลังไปเงียบๆ
นับดาวเดินถือโทรศัพท์ต่อสายหาพ่อของเธอแต่ก็ไม่มีการรับสาย ผู้เป็นพ่อนั้นติดการพนันและมักจะมาเล่นที่บ่อนเป็นประจำ หลังๆ มักจะเริ่มหายไปคราละวันบ้าง สองวันบ้าง จนแม่ของเธอรู้สึกเป็นห่วง ครั้งนี้เลยตัดสินใจมาตามพ่อที่นี่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ที่พ่อของเธอเข้ามาเล่นหรือไม่ เพราะมองหาจนทั่วแล้วก็เห็นแต่คนที่ออกมาดื่มเหล้าและเต้นกันเต็มไปหมด
“พี่คะ บ่อนไปทางไหนคะ” เสียงหวานเอ่ยถามกับชายรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาน่าดุดัน สวมชุดสีดำทั้งตัว
“ที่นี่ไม่มีบ่อน”
“จะไม่มีได้ยังไงคะ ก็พ่อหนูอยู่ในนี้”
ไต้ฝุ่นที่ได้ยินเสียงของสาวรุ่นน้องตั้งคำถามกับการ์ดของผับก็ได้แทรกตัวไปยืนอยู่ตรงหน้า พร้อมกับจับข้อมือของเธอออกแรงดึงให้ไปยืนหลบอยู่ด้านหลังของเขา
“นาย” นับดาวเบิกตาโพลงด้วยความตกใจที่จู่ ๆ ก็มีใครก็ไม่รู้มาจับข้อมือของเธอ พอเงยหน้าขึ้นและเห็นเพียงแค่เห็นด้านข้างของใบหน้า เธอก็นึกออกว่าเป็นรุ่นพี่ปากปีจอที่มหาวิทยาลัย
“เธอมากับฉัน” ไต้ฝุ่นบอกกับการ์ดของผับและอีกฝ่ายก็พยักหน้าราวกับรู้กัน เขาจึงพาเธอเดินออกมา
“นายจะพาฉันไปไหน” นับดาวพยายามดึงแขนของตัวเองแล้วเอ่ยถามกับอีกฝ่าย เธอเพิ่งจะเคยมาสถานที่แบบนี้เป็นครั้งแรก และไม่รู้ว่าหนุ่มรุ่นพี่พาเธอไปที่ไหน เพราะเขาเอาแต่ดึงแขนเธอให้เดินตามโดยไม่บอกไม่กล่าวอะไรเลย
“อยากไปหาพ่อของเธอไม่ใช่เหรอ ฉันก็จะพาไปอยู่นี่ไง”
“นายรู้เหรอว่าบ่อนอยู่ที่ไหน”
“เดินตามมาดีๆ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ผู้หญิงอย่างเธอจะมาเดินป้วนเปี้ยนคนเดียวได้ แล้วไอ้คำถามโง่ๆ ที่ไปไล่ถามว่าบ่อนอยู่ที่ไหน ใครเขาจะบอกเธอล่ะยัยโง่” ไต้ฝุ่นเอ่ยเสียงแข็งพร้อมกับด่ากลับ คิดว่าที่นี่เป็นสนามเด็กเล่นหรือไงที่จะเดินถามอะไรก็ได้
“นายสิโง่ ฉันได้โง่สักหน่อย” เธอก็แค่ถามตรงไปตรงมาก็เท่านั้น
“บ่อนของที่นี่ต้องมีบัตรสมาชิกเท่านั้นถึงจะเข้าได้ แสดงว่าพ่อของเธอคงจะมาบ่อยสินะ” เขาถามหญิงสาวที่ตอนนี้เดินตามอย่างว่าง่าย
“เรื่องภายในครอบครัว ขอไม่ตอบ”
ไต้ฝุ่นหันหน้ามาขมวดคิ้วจ้องอย่างไม่สบอารมณ์ คนอุตส่าห์หวังดีจะพาไปตามหาพ่อ ตอบแบบนี้มันน่าพาไปไหม
แต่ก็นั่นแหละ เขาก็พาเธอไปอยู่ดี เขาพาเธอเดินเข้าประตูที่อยู่ใกล้จะสุดทางเดินซึ่งเป็นที่ลับตาคน แล้วเดินผ่านเข้าไปอีกหลายประตู ก็จะพบกับประตูบานใหญ่ที่ต้องใช้คีย์การ์ดสแกนปลดล็อกถึงจะสามารถเข้าไปข้างในนั้นได้
พอเปิดเข้าไปเท่านั้นนับดาวก็ได้เจอกับแหล่งมั่วสุมขนาดใหญ่ เธอมองฝ่าผู้คนนับร้อยชีวิตที่ส่งเสียงฮือฮากันยกใหญ่ แต่ก็ไม่พบว่าพ่อของเธอนั้นเล่นอยู่ตรงไหน
“ไหนล่ะพ่อของเธอ” ไต้ฝุ่นเห็นนับดาวยืนนิ่งก็ได้ถามขึ้น
“ขอเข้าไปได้ไหม”
“อืม เข้าไปสิ” นับดาวเดินเข้าไป ไต้ฝุ่นก็หันมาปิดประตูเอาไว้ดังเดิม
พนักงานของที่นั่นเมื่อได้เห็นไต้ฝุ่นก็ก้มหัวทักทาย นับดาวเองก็รู้สึกว่าไต้ฝุ่นเหมือนจะมีอิทธิพลมาก ทั้งพนักงานทั้งการ์ดของผับต่างก็ให้ความเคารพเขา แต่จะมีอำนาจอะไรก็ช่างเธอขอแค่หาพ่อให้เจอก่อน
ทั้งสองคนเดินหากันจนทั่ว ไต้ฝุ่นก็ได้แต่เดินตามเพราะไม่รู้ว่าพ่อของสาวรุ่นน้องหน้าตาเป็นอย่างไร จนกระทั่งใกล้จะเข้าไปถึงด้านในสุดที่เป็นห้องของผู้จัดการผับก็ได้ยินคนคุยกันเสียงดังเล็ดลอดออกมา
“พ่อ” นับดาวตะโกนเรียกทันทีที่เห็นพ่อของเธออยู่ในห้องนั้น
ไต้ฝุ่นได้ยินเธอเรียกผู้ชายที่ยืนทำหน้าเคร่งเครียดเหมือนจะพูดคุยอะไรบางอย่างกันอยู่ในนั้นก็รีบเดินตามเธอเข้าไปทันที
“พ่อคะ”
“ลูกมาทำอะไรที่นี่”
“หนูมาตามพ่อกลับบ้านค่ะ พ่อหายมาสองวันแล้วนะคะ แม่เป็นห่วง” นับดาวเข้าไปยืนจับแขนพ่อของเธอ แต่ก็ถูกสะบัดออก
“พ่อยังกลับไม่ได้”
“ทำไมล่ะคะ” นับดาวไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อของเธอถึงยืนยันจะอยู่ต่อ ทั้งที่มาแต่ละครั้งก็มีแต่เสียมากกว่าได้
“เพราะพ่อของเธอเป็นหนี้พวกเราอยู่น่ะสิ” ผู้จัดการของบ่อนเอ่ยขึ้นตัดรำคาญที่สองพ่อลูกมัวแต่คุยกัน หนี้เก่าก็ยังไม่จ่าย ยังจะหน้าด้านมาขอยืมเงินก้อนใหม่
“เป็นหนี้พวกคุณ” นับดาวหันไปถามผู้จัดการบ่อนอย่างไม่เชื่อหู สลับกับมองหน้าพ่อของเธอ
“ก็ใช่น่ะสิ พ่อของเธอยืมเงินไปจนหมดโคต้าแล้ว ยังจะมีหน้ามาขอยืมไปแก้มืออีกเหรอ ไปหาของเก่ามาคืนซะก่อนเถอะ” หนุ่มใหญ่ปั้นสีหน้าจริงจังเอ่ยอย่างไม่เกรง
“พ่อขอโทษนะลูก” ผู้เป็นพ่อเอ่ยขอโทษขอโพย กะจะยืมเงินมาแก้มือ แต่ยิ่งเล่นก็ยิ่งเสีย
“พ่อเป็นหนี้คนพวกนี้เท่าไหร่คะ หนูจะทำงานหาเงินมาใช้หนี้ให้”
“ห้าล้าน” คนเป็นพ่อเอ่ยไม่เต็มเสียงพลางหลบสายตา เงินต้นแค่สามล้านห้า แต่อีกล้านห้าเป็นดอกเบี้ยที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ
“ฮะ! อะ อะไรนะคะ” นับดาวเบิกตาโพลงอย่างไม่เชื่อหูกับตัวเลขที่ได้ยิน เงินตั้งมากมายขนาดนี้ต่อให้เธอทำงานหามรุ่งหามค่ำก็คงจะหามาชดใช้ได้ไม่หมด