บทที่7 คุณต้องจะอยู่ที่นี่ 1
จากที่เคยสัญญากันไว้ว่าจะเป็นตัวเองให้มากเมื่ออยู่กับเธอแต่หลังจากแต่งงานกันได้เพียง3เดือนสิรดนัยก็กลับมานิ่งขรึมอีกครั้งโดยไม่ทราบสาเหตุและตกลงกับผู้ใหญ่ให้เธอไปอยู่ที่เรือนแสนรักในรั้วบ้านสัตยบดินทร์แทนโดยให้เหตุผลเรื่องความปลอยภัยมากกว่าของเธอ เพราะทั้งเสี่ยวิชัยก็ถูกจับและนัทกรก็เลิกลาไม่ยุ่งเกี่ยวจะอยู่ที่ไหนเธอก็ปลอดภัยไร้กังวลแล้วแต่ที่ให้เธอไปอยู่เรือนแสนรักนั้นเขาบอกว่าเพื่ออนาคตที่ดีของเธอซึ่งเธอในตอนนั้นจวบจนตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
หม่อมหลวงวัย20ที่เริ่มสวยผุดผาดราวดอกไม้บานสะพรั่งลืมตาตื่นขึ้นเมื่อแสงของดวงอาทิตย์ส่องลอดหน้าต่างเข้ามากระทบดวงตา เช้าแล้วเธอรู้สึกว่าเมื่อคืนนี้เป็นคืนที่ยาวนานกว่าคืนไหน ๆ ฝันที่ผ่านมาตลอดคืนนั้นไม่ใช่ความฝันปกติที่เธอฝันถึงแต่อาจจะเพราะได้กลับเข้ามานอนในห้องที่เป็นห้องหอทำให้ฝันถึงเหตุการณ์เก่า ๆ เหล่านั้นขึ้นมา
“เลโอนี่ อร๊าย น่าหมั่นไส้เหมือนเดิมเลยอะ” หญิงสาวร้องเสียงดังเมื่อลุกขึ้นนั่งและหันไปเห็นสุนัขพันธุ์ชิสุหน้าตาท่าทีน่าหมั่นไส้นั่งอยู่...บนหน้าท้องของสิรดนัยที่นอนอยู่ข้างๆ เธอ
เจ้าตัวนี้เธอจำได้ว่าชื่อเลโอนี่ เป็นสุดที่รักกว่าสุนัขตัวไหนๆ ของสิรดนัย เจ้าตัวนี้มีนิสัยขี้อิจฉาอย่าบอกใครเชียวล่ะ เมื่อมองพิจารณาดูแล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงคืนแรกที่เธอได้มาอยู่ที่นี่ ในตอนนั้นสิรดนัยยังไม่นิ่งเงียบใส่เธอเลยด้วยซ้ำ
3ปีก่อน
วันแต่งงาน
และแล้วพิธีสุดท้ายของงานแต่งงานวันนี้ก็มาถึง ตฤณรดานั่งพับเพียบอยู่กับพื้นโดยมีสิรดนัยนั่งอยู่ข้างๆใบหน้าของสาวน้อยมีความตกตะลึงจนคนอื่น ๆเห็นได้ชัด แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ตฤณรดาที่ตกตะลึงแต่ยังมีพี่น้องของเธอด้วยที่ตกตะลึง เรือนอุ่นรักของสิรดนัยนั้นภายนอกเป็นบ้านไม้ทรงไทยยกสูงขนาดใหญ่ดูสวยสง่าและมีมนต์ขลังแต่ใครจะไปคิดว่าด้านในจะมีลูกเล่นที่น่าตกตะลึงขนาดนี้ อย่างห้องๆนี้ที่มีประตูไม้ธรรมดาผนังและหน้าต่างฝั่งด้านนอกก็เป็นไม้แต่ผนังฝั่งในตัวบ้านเป็นกระจก
ใช่แล้วกระจก...แต่ไม่ใช่กระจกธรรมดามันเป็นกระจกพิเศษด้านนอกมองเข้ามาไม่เห็นอะไรนอกจากภาพติดผาผนังรูปเครื่องบินและท้องฟ้า แต่ด้านในนั้นแตกต่างออกไป เพราะสามารถมองทะลุออกไปเห็นทางเดินได้น่ะสิ
“ข้างนอกมองเข้ามาไม่เห็นอะไรแต่ข้างในมองเห็นข้างนอก แม่คิดไว้แล้วว่าใคร ๆก็ต้องอึ้ง” คุณนายแพรของลูกๆเอ่ยด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ ในสมัยที่เธอยังเป็นมัณฑนากรสาวและอุ้มท้องสิรดนัยอยู่นั้นเธอเป็นคนรีโนเวทแก้ไข ออกแบบเรือนอุ่นรักหลังนี้ใหม่
“แม่แพรกับเพื่อนๆของแม่เขาออกแบบเองเลยนะคุณต้อง วิเศษไหม” คุณพงค์พยัคฆ์เอ่ยบอกและก็ถามอย่างเอื้อเอ็นดูท่าทีตกตะลึงของเด็กสาว เพราะตฤณรดาและอีกหลายคนไม่เคยมาที่นี่จะเกิดอาการตกตะลึงนั้นก็ไม่ใช่สิ่งแปลก ตอนที่เขาเข้ามาดูที่นี่ครั้งแรกหลังจากรีโนเวทเสร็จก็มีอาการประมาณนี้ล่ะ
“วิเศษมากเลยค่ะ แต่ประตูนั่นเปลี่ยนใหม่ใช่ไหมคะ” คนเป็นเจ้าสาวถามออกไปเพราะรู้สึกว่าประตูนั้นไม่เข้ากับบรรยากาศเท่าไหรด้านในเท่าไหรแต่ก็พอไปกันได้
“พี่สิงโตเปลี่ยนใหม่อ่ะต้อง เพราะว่าพี่เขาเลี้ยงเจ้า4ขา ที่บ้านแสนรักห้องพี่สิงโตก็มีแบบนี้ไว้ให้เลโอนี่ลอดเข้าไปนอนด้วย” พลอยวารินทร์ชี้แจงก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง “ระวังคืนนี้พลพรรคสัตว์4ขาขี้อิจฉาจะเข้ามาป่วนห้องหอน๊า”
“เลโอนี่” เด็กสาวผู้กำลังจะเข้าหอพูดด้วยน้ำเสียงครุ่นคิดก่อนที่จะร้องอ๋อ “อ๋อ เจ้าชิสุหน้าตาหยิ่งๆนั่นใช่ไหม ที่มองเราตาขวาง ๆ น่ะ”
“ใช่แล้ว ชิสุตัวที่วิ่งเข้ามาถูขาพี่สิงโตก่อนเข้ามาในนี้ที่หน้าหยิ่งๆนั่นล่ะ ยัยเลโอนี่ลูกสาวพี่สิงโตเขาล่ะ” พลอยวารินทร์ตอบก่อนที่จะร้องบอกอย่างนึกขึ้นได้ “อ้อ ชีขี้อิจมากด้วยไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้พี่สิงโตเลย”
“งั้นต้องตาก็เอาเจ้าปุกปุยมาอยู่ด้วยไม่ได้สิ ที่นี่มีหมาหน้าตาขี้อิจฉาอยู่” ตฤณรดาว่าอย่างเสียดายแต่ก็เข้าใจ ในเมื่อมีหมาเธอคงเอาแมวมาอยู่ด้วยไม่ได้แน่นอนเพราะเธอคงต้องได้ระแวงกลัวลูกๆของพี่สิงห์ขย่ำลูก ๆขนปุกปุยของเธอตลอดแน่ ๆ
“เลโอนี่ไม่รังแกใครหรอก ตัวอื่น ๆก็ด้วยพวกเขาอยู่กันอย่างสงบน่ะ จะเอาเจ้าปุกปุยมาเลี้ยงก็ได้ แต่เวลาไม่อยู่ต้องขังนะ” สิรดนัยเอ่ยขึ้นหลังจากที่ตีหน้าเงียบมาตลอดเวลาตั้งแต่เข้ามาในห้องหอ ในใจเขาคิดสะระตะ พิธีเข้าหออะไรกัน คืนนี้เขาก็ได้แค่นอนโดยมีอีกคนนอนอยู่ข้าง ๆเท่านั้นทำไมใครต้องแห่กันเข้ามาอวยพรด้วย แม้แต่เตชินทร์และปานมุกก็ยังเข้ามาอวยพรทั้งที่ความจริงแล้วน่าจะส่งคู่สองหนุ่มสาวนั่นเข้าหอก่อนตฤณรดาตัวน้อยคงได้ลุ้นจะได้อุ้มหลานไหมมากกว่าเยอะ
“ไม่ดีกว่าค่ะ นางไม่ถูกกับหมา”ตฤณรดาเอ่ยบอกก่อนที่คุณแพรวารินทร์จะยกยิ้มเอ็นดูและเอ่ยบอกแก่ทุกคน”เอาล่ะ เจ้าสาวยังเด็กถึงเวลานอนแล้วจะได้โตไวๆ เราออกไปกันดีกว่าค่ะ ยังเหลือคู่คุณต้อมกับหนูมุกอีกคู่”
“ฝากน้องต้องตาด้วยนะครับพี่สิงโต” คนเป็นเจ้าบ่าวอีกคู่เอ่ยบอกก่อนที่จะออกจากห้องไปเป็นคนสุดท้ายทุกอย่างในห้องเงียบลงก่อนที่ตฤณรดาจะอมยิ้มจ้องมองช่องลอดที่ประตู เธออยากรู้ว่าคืนนี้บรรดาลูกๆของสิรดนัยจะมาป่วนสมาชิกใหม่ของบ้านอย่างเธอรึเปล่า “จะมาไหมนะ จะมาไหม”
“มา ไม่เกิน5นาทีมาแน่ล่ะ ไม่เจ้าพลายก็เจ้าเพลิงล่ะปล่อยมา” สิรดนัยตอบก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อเปลี่ยนชุด
“กรี๊ด ตัวนี้น่ารักเว่อร์ อร้าย ตัวนี้ก็น่ารัก ทำไมมีแต่เธอเนี่ยเลโอนี่ที่หน้าตาขี้อิจ ชิ” เสียงร้องวีดว้ายชอบใจของเด็กสาวดังลอดมาให้คนในห้องน้ำได้ยินและได้อมยิ้มออกมา ‘ก็เด็กล่ะเนาะ จะให้เป็นแบบอื่นก็คงแก่แดดเกินไป’
เวลาต่อมา
“เต็มเตียงแบบนี้จะนอนตรงไหนเนี่ย” คนเพิ่งออกจากห้องน้ำเอ่ยกับตัวเองเมื่อเห็นภาพตรงหน้า หลังจากออกจากห้องน้ำสิรดนัยก็ได้พบกับภาพน่ารักน่าเอ็นดูเข้าจนอยากจะขำกลิ้ง หนูน้อยตฤณรดาหลับไปทั้งชุดเจ้าสาวในขณะที่รอบ ๆตัวเต็มไปด้วยลูกๆที่น่ารักของเขาที่นอนสบายใจกับสมาชิกใหม่อย่างสนิทสนมจะมีก็เพียงแต่เลโอนี่ลูกสาวผู้น่ารักของเขาที่นั่งหยิ่งๆอยู่ราวกับไม่ปลื้มสมาชิกใหม่อย่างไรอย่างนั้น
“คุณต้อง คุณต้องครับ ตื่นไปเปลี่ยนชุดก่อนเร็วจะได้นอนหลับสบาย คุณต้อง” ผู้บริหารเอ่ยเรียกด้วยความหวังดีกลัวว่าตื่นเช้ามาคนนอนทั้งชุดเจ้าสาวจะปวดคอเมื่อยตัว คนเพิ่งเป็นเจ้าสาวหมาดๆงัวเงียตื่นและโซเซลุกเดินไปด้วยสติที่ไม่เต็มนัก
“คุณ” “โอ๊ย”เขากำลังจะบอกว่าเธอเดินผิดทางและกำลังจะชนเข้ากับกระจกแต่ไม่ทันเสียแล้วเธอชนมันเข้าเต็มๆ
“เป็นไรไหมเนี่ย” เขาถามพร้อมเดินมาดู
“คุณต้องโอเค”
“เปล่าพี่ไหมถึงกระจก” สิรดนัยบอกในขณะที่เด็กสาวที่บัดนี้ตื่นเต็มตาได้แต่อ้าปากเหวอก่อนที่ชายหนุ่มจะหัวเราะออกมา “ฮึฮึ ล้อเล่นครับ หมายถึงคุณต้องแหละ เจ็บตรงไหนไม”
“ขี้แกล้ง” เด็กสาวว่าแล้วก็หันมองรอบ ๆเมื่อมั่นใจว่าทางไหนคือห้องน้ำแล้วจึงเดินหายไปทางนั้นทันที “กรี๊ด พี่สิงห์ห้องน้ำสวยมาก อร๊ายชอบจัง ชอบจัง”
เสียงแว่วๆจากห้องน้ำทำให้ผู้บริหารหนุ่มถึงกับระบายยิ้ม เขามั่นใจแล้วล่ะ เขาได้ลูกสาวมากกว่าได้ภรรยาจริง ๆ เด็กหนอเด็ก จะน่ารักไปไหนเนี่ย
หลายนาทีต่อจากนั้นคนหายเข้าไปในห้องน้ำก็ออกมาด้วยชุดนอนลายโดเรม่อนที่เธอมั่นใจว่าพลอยวารินทร์เป็นคนเอามาไว้ในห้องน้ำให้ด้วยสีหน้าสดชื่นในขณะที่สิรดนัยมองแล้วคล้ายจะตอกย้ำตัวเองอีกรอบว่าวันนี้เขาได้ลูกสาวมากกว่าภรรยาอย่างจริงแท้แน่นอน
“อะไร ทำไมมองแบบนั้น น่ารักใช่ไหมล่ะเนี่ยชุดนอนตัวโปรดคุณต้องเลย” เด็กสาวบอกก่อนที่จะมองเจ้าสี่ขาที่นอนกระจัดกระจายอยู่บนเตียง “แล้วคุณต้องจะนอนไหนเนี่ย”
“ไล่ลงก็ได้” เจ้าของห้องบอกก่อนที่จะเอื้อมมือไปหมายจะแตะปลุกไล่ลูกๆแต่คนตัวเล็กวิ่งเข้ามาห้ามเสียก่อน
“ไม่ดี ๆ ไม่ต้องไล่ พวกนางหลับสบายอย่าไปขัดนางเลย นอนพื้นก็ได้มั้ง” เด็กสาวบอก
“งั้นมานอนที่โซฟา มันปรับได้ไม่มีปัญหา” สิรดนัยยบอกก่อนที่จะเดินไปยังโซฟาปรับนอนด้านข้างหน้าต่างก่อนจะทำการปรับให้กลายเป็นที่นอนขนาดกว้างพอสำหรับสองคนนอนแล้วเดินไปหยิบผ้าห่มกับหมอนสำรองในตู้มายื่นให้คนตัวเล็ก
เด็กสาวรับหมอนและผ้าห่มมาไว้ในมือก่อนที่จะล้มตัวลงนอนอย่างสบายใจแน่นอนว่าเด็กสาวทราบดีว่าเธอไม่ได้นอนคนเดียวแน่แต่ก็ไม่ได้กังวลเพราะเธอเชื่อในความเป็นสุภาพบุรุษของสิรดนัย เขาไม่ทำอะไรเด็กกะโปโลหรอก
สิรดนัยสอดตัวเข้าในผ้าห่มผืนเดียวกับเด็กสาวแล้วก็หัวเราะขำออกมาเมื่อเจ้าตัวขี้อิจฉาไม่ปล่อยให้เขาได้นอนกับเด็กสาวแค่สองคน เลโอนี่กระโดดตุ้บมานอนแทรกกลางราวกับหวงแหนพื้นที่ใกล้กายของผู้บริหารหนุ่มอย่างไรอย่างนั้น
“เชอะ ขี้อิจฉาจริง ๆ”เด็กสาวบ่นแล้วก็หัวเราะขำ “คอยดูนะยัยเลโอนี่สักวันตัวจะมานอนขวางแบบนี้ไม่ได้”
"ฮอง ฮอง" เจ้าตัวขี้อิจฉาเห่าใส่ก่อนที่จะฟุบตัวลงนอนขดอย่างสบายใจราวกับเมื่อครู่เจ้าหล่อนได้บอกแก่เด็กสาวว่า “เธอไม่มีวันนั้นหรอก”
“ชิ” คนโดนหมาเห่าใส่ทำเสียงหมั่นไส้ก่อนที่จะอ้าปากหาววอด “ฝันดีนะคะพี่สิงห์”
“ครับ ฝันดีครับคุณต้อง ฝันดีเลโอนี่” คนถูกบอกฝันดีตอบกลับก่อนที่ทั้งคู่จะหลับไปเพราะความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน
