...เมียรักสวมรอยแค้น… บทที่5.
บทที่5.แผนต่อไป...
เพื่อนบ้านรอบๆ เริ่มสนใจความเปลี่ยนแปลงของยี่หวา แต่ก็ไม่มีใครกล้ามากพอที่จะบุกเข้าไปถาม เพราะยี่หวาคนนี้ไม่เหมือนยี่หวาคนก่อนรัศมีความมั่งมีจับทั่วทั้งตัว ยี่หวาไม่ได้ไปซื้อของใช้ในร้านโชห่วยปากทางเข้าบ้าน เธอพาปกปักตระเวนเดินในตลาด หอบหิ้วข้าวของพะรุงพะรัง และไม่เหนียมอายเหมือนเคย
เธอไม่ทำงานบ้าน มีสาวชาวบ้านอายุไม่เกินยี่สิบมาอยู่ด้วย
เพื่อนบ้านพยายามสอบถามความเปลี่ยนแปลงจากสาวคนนั้น แต่ก็ไม่ได้อะไรเพิ่มเติม เนื่องจากสาวคนนั้น ‘พูดไม่ได้’
ความลับไม่มีในโลก ข้อนั้นญาดารู้ดี เธอเลยคัดคนงานเอาที่มีคุณสมบัติไม่สามารถปูดความลับของตัวเองได้มาอยู่ด้วย เทิดเองก็อยู่ไม่ไกล หนุ่มใหญ่เดินเข้าเดินออก และคอยส่งข่าวให้ญาดารู้ ผ่านคราบคนส่งของ
โรงเรียนใหม่ญาดาเลือกที่ดีที่สุด ไม่เกี่ยงเรื่องค่าใช้จ่าย
เธอมีมากพอที่จะสนับสนุนหลานชายทุกทาง แค่ปกปักยิ้มได้ และตื่นเต้นที่จะไปโรงเรียนจนลืมสนใจสิ่งที่ตนเองเคลือบแคลงก็พอแล้ว หลานมีที่เรียนแล้ว จากนี้ไป คือการรังควานสามีของยี่หวา
คนพวกนั้นจะได้รู้ ว่าการถูกบีบคั้นเป็นอย่างไร
หลังส่งปกปักที่โรงเรียน ญาดาในคราบยี่หวาก็กลับมาเตรียมตัว เธอปล่อยให้คนพวกนั้นสบายใจมาหลายอาทิตย์แล้วนี่นะ จากนี้ไป ทั้งปกป้องและฉันทาต้องอับอายขายขี้หน้าคนรอบตัวบ้าง
“เธอๆ ผู้หญิงที่เดินเข้าไปนั่นใช่ภรรยาของคุณป้องไหมอะ”
มีเสียงซุบซิบดังตามหลังตอนที่ญาดาเดินผ่านประตูหน้าที่ทำงานของปกป้อง เธอถือปิ่นโตเถาใหญ่มาด้วย ไม่ได้เจือจานอาหารมื้อกลางวันให้ผู้ชายใจโฉดที่ทิ้งลูกเมียหรอก แต่อยากมาฉีกหน้าเขา และสะกิดต่อมความอายให้ปกป้องรู้จักสะเทือนบ้าง
“ไม่น่าใช่นะ ฉันเคยเห็น โทรมเหมือนป้าแก่ๆ คนหนึ่งเท่านั้นแหละ”
ญาดายิ้มเครียด เพราะความทุกข์หลายเรื่องยี่หวาเลยทรุดโทรม แต่นี่คือเธอ ปกป้องควรรู้จักตัวตนของยี่หวาในแบบที่เขาไม่เคยเจอบ้าง
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังเบาๆ ปกป้องเงยหน้าจากกองเอกสาร มองประตูและเอ่ยปากอนุญาต
“เข้ามาสิ จะเที่ยงแล้วนะ เอาไว้ตอนบ่ายไม่ดีกว่าเหรอครับ”
ปกป้องเข้าใจว่าลูกน้องเอาเอกสารมาให้เซ็น เขามองนาฬิกาแล้วแย้งเสียงเรียบ
“เซอร์ไพรส์!”
เสียงหวานคุ้นหู หน้าหวานคุ้นตา แต่แปลกจนรู้สึก
ปกป้องหรี่เปลือกตาลง ยี่หวาไม่เคยบุกมาหาเขาถึงที่ทำงาน หล่อนอยู่เงียบๆ และไม่เคยเรียกร้องอะไร
“แปลกใจอะไรคะคุณป้อง หรือว่าไม่เจอกันนานคุณป้องเลยลืมไปว่าภรรยาตัวเองชื่อยี่หวา”
แววตาคมกริบแถมสู้ตาไม่มีหลบ ยี่หวาเดินเข้ามาหา ปกป้องกลับรู้สึกผวา หน้าตาเหมือนเดิมก็จริงแต่ทำไมปกป้องกลับรู้สึกไปเอง คนตรงหน้าไม่ใช่ยี่หวาแน่ๆ
“หวามาทำอะไรที่นี่” ปกป้องข่มความหวาดหวั่นรีบถามกลับ
“หวาเอามื้อกลางวันมาให้ค่ะ คุณป้องดูเหมือนจะผอมไปนะคะ”
ช่วงนี้ปกป้องพักผ่อนน้อย ไหนจะงานในหน้าที่ ไหนจะต้องออกงานกับฉันทาเกี่ยวกับโครงการบ้านจัดสรรของหล่อน เขากลืนอะไรไม่ค่อยลง รสมือใครก็ไม่ถูกปากเหมือนที่ยี่หวาเคยทำ เขาติดรสมือยี่หวาเลยพาลกินอะไรไม่อร่อย ชายหนุ่มรีบสะบัดหน้า เขาตัดใจจากยี่หวาแล้ว ไม่ควรติดใจอะไรที่เกี่ยวกับหล่อนอีก
“ขอบคุณนะ ผมชินกับการกินร้านข้างทางแล้วล่ะ”
ญาดาแค่นยิ้ม คนอย่างปกป้องนะหรือจะยอมลดตัวลงไปกินร้านอาหารข้างทาง ในเมื่อเท่าที่รู้มาฉันทาปรนเปรอเขาไม่ขาด หล่อนพาชายตรงหน้าเดินเข้าร้านอาหารดัง โรงแรมหรูเป็นว่าเล่น
“เหรอคะ ไม่ท้องเสียแย่เหรอคะ คุณป้องไม่มีภูมิต้านทานเรื่องอาหารการกินนี่นา”
ฟังเหมือนพูดเพราะความเป็นห่วง แต่สีหน้าแววตากลับเหมือนกำลังถูกเยาะหยัน ใช่เลยปกป้องถูกเลี้ยงดูประหนึ่งคุณหนูลูกผู้รากมากดี บิดามารดาเขาถนอมอย่างดี ยิ่งได้ภรรยาแบบยี่หวาเขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนเดิม งานบ้านงานเรือนยี่หวาไม่เคยบกพร่อง หล่อนเป็นแม่ศรีเรือนที่หายากในผู้หญิงสมัยนี้ แต่นั่นไม่ทำให้ความรักของเขากับยี่หวาคงทน เมื่อความลำบากเคาะประตูหน้าบ้าน ปกป้องก็เริ่มออกนอกลู่นอกทางทางหน้าต่าง และยี่หวาไม่เคยปริปากบ่น