บทที่ 4 เตรียมใจ 1.1
แมนฮัตตั้น ประเทศสหรัฐอเมริกา
ภายในอพาต์เม้นต์ใจกลางเมือง กำลังร้อนระอุแม้ว่าอากาศภายนอกจะเย็นจัดจากอากาศที่หนาวเหน็บ ฝ่ายหญิงกำลังเป็นคนคุมเกมกามอย่างเร่าร้อนและเจนจัด จนทำให้ฝ่ายชายถึงกับครางไม่ขาดปาก ยิ่งฝ่ายหญิงได้ยินเสียงครวญรัญจวนของเขาก็ยิ่งชอบใจ ร่ายลีลาสวาทปรนเปรอให้เขามากขึ้น
“ซาร่าดีมาก...คุณสุดยอด...อา”
เดวิดชื่นชมจากใจ เขาหลับนอนกับสตรีมากนักต่อนัก แต่ไม่มีใครทำให้หัวใจตนเต้นแรงเท่านี้มาก่อน เธอเก่งจนเขาสูดลมสูดปากเข้าออกตลอดเวลา ภายในร่างกายเสมือนมีไฟลามเลีย
“คุณชอบไหมคะ...อา...ชอบแบบนี้หรือเปล่า” ธนัสสรณ์ถามเสียงสั่น ขณะที่โยกตัวขึ้นลงไม่หยุด
“ชะ...ชอบมาก...รักคุณที่สุด”
เขาตอบตามความจริงจากใจ การบรรเลงเพลงสวาทดำเนินไปอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน หลังจากเธอควบคุมเกมต่ออีกชั่วครู่ เดวิดได้พลิกร่างสาวสวยให้อยู่ใต้ร่าง ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายมอบความสุขตามแบบฉบับของให้เธอบ้างเขา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
เสียงเคาะประตูห้องดังถี่ ทำให้สองร่างที่หอบหายใจแรงจากภารกิจพิศวาสที่เพิ่งเสร็จสิ้นหันไปมองประตูห้องที่ยังคงถูกเคาะต่อเนื่อง
“ใครมาเคาะประตูซาร่า” เดวิดถามเจ้าของห้องชุดสุดหรู
“สงสัยแม่น่ะ”
ธนัสสรณ์วาดเท้าลงบนพื้นก่อนจะลุกขึ้นยืน เอื้อมมือไปหยิบชุดคลุมที่พาดตรงเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้งมาสวมทับร่างเปลือยของตน ก่อนจะเดินไปยังประตูห้อง กระชากเปิดอย่างคนอารมณ์เสีย
“มีอะไรแม่ เคาะซะดังเลย” ธนัสสรณ์ถามเสียงขุ่น
“แกทำอะไรอยู่ รู้ไหมว่าใหญ่โทรหาแกเป็นสิบครั้งแล้ว จนเขาต้องโทรมาหาฉัน”
“หวานกำลังนอนกับเดวิดอยู่เลยปิดเครื่อง” เธอตอบอย่างไม่อาย “พี่ใหญ่จะโทรมาทำไมตั้งหลายรอบ ปกติโทรมาสองรอบหวานไม่รับก็ไม่โทรแล้ว ไม่รู้จะโทรมาทำไมนักหนาไม่เห็นอยากจะรับเลย”
“แกอย่าพูดแบบนี้ให้ใหญ่ได้ยินนะ มีของตายในมือก็อย่าปล่อยให้หลุดมือไป รีบโทรกลับไปหาใหญ่เดี๋ยวนี้ ท่าทางจะมีเรื่องสำคัญไม่งั้นคงไม่โทรหาแกขนาดนี้ แล้วคงไม่โทรหาแม่ด้วย ไปเลยนะ ไปโทรหาใหญ่ตอนนี้เลย” ธนวรรณตำหนิบุตรสาว ตามด้วยคำสั่ง
“พี่ใหญ่ยังไงเสียก็ไม่มีทางไปไหนรอดหรอก รักหวานปานจะกลืนกิน ปีหน้าหวานเรียนจบรับรองว่า หวานจะรีบแจ้นไปแต่งงานกับพี่ใหญ่ที่เมืองไทยทันที”
ธนัสสรณ์รู้ว่าจอมทัพรักตน แต่เธอก็ไม่คิดจะเก็บความสาวไว้ให้เขา กลับใช้ชีวิตเสรี ฟรีเซ็กซ์ตามกลุ่มเพื่อนสาว หลับนอนกับผู้ชายที่ตนพอใจ แม้ว่าบางคนจะเพิ่งเจอกันแค่ครั้งแรก อีกทั้งยังใช้ร่างกายแลกกับของแบรนด์เนมและความสุขสบายตามแต่ใจต้องการ บางครั้งเธอก็ลืมผู้ชายที่ชื่อจอมทัพไปเสียสนิท
“แล้วปีหน้าแกจะจบจริงๆ เหรอ เรียนมาตั้งกี่ปีแล้วยังไม่เห็นวี่แววว่าจะจบ เรียนที่นั่นทีที่นี่ที ทำอะไรไม่เคยเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากนอนกับผู้ชายงานถนัดของแก ฉันละกลัวจริงๆ กลัวว่าใหญ่จะรู้เรื่องความเหลวแหลกของแกจนไม่แต่งงานด้วย คราวนี้แหละอดตายกันแน่ๆ”
ธนวรรณบ่นลูกสาวยกใหญ่ แต่นางก็ได้แค่บ่น เพราะไม่อาจบังคับหรือให้ธนัสสรณ์เลิกทำตัวแบบนี้ได้ เนื่องจากรายได้ที่นำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ส่วนหนึ่งมาจากเรื่องเซ็กซ์ของบุตรสาว
เหตุผลที่บุตรสาวต้องทำเช่นนี้เป็นเพราะ หลังจากสามีของธนวรรณเสียชีวิต ทรัพย์สมบัติทุกอย่างก็ตกเป็นของลูกของสามี ส่วนนางได้เพียงอพาต์เม้นต์แห่งนี้และเงินอีกจำนวนหนึ่งเท่านั้น ครั้นจะกลับเมืองไทยก็ต้องไปเริ่มต้นใหม่ บ้านหลังเก่าได้ขายหลังจากมาอยู่ที่นี่ได้สามเดือน นางกับลูกจึงอยู่ที่นี่ต่อ เพราะอย่างน้อยก็มีที่อยู่อาศัย
“แม่จะกลัวอะไรกับอีแค่เรื่องอดตาย ถ้าไม่มีพี่ใหญ่ เราอดตายไหมละ ก็ไม่เห็นอด แถมอยู่สุขสบายอยู่ที่นี่มาตั้งกี่ปีแล้ว หรือแม่ว่าไม่จริง” ธนัสสรณ์เถียงกลับ
“เออ ฉันไม่เถียงแกเรื่องนี้ แต่แกไม่คิดอยากมีเงินใช้สบายๆ โดยไม่ต้องเหนื่อยกายนอนกับผู้ชายมั้งเหรอ มีใหญ่เป็นผัวเท่ากับมีเงินใช้ไปตลอดชีวิต ยิ่งใหญ่รักแกมากมีเหรอจะไม่ปรนเปรอแกมาก แกอยากได้อะไรก็ประเคนให้ สบายทั้งแกทั้งฉัน ที่ฉันพูด ฉันบ่นเพราะฉันอยากให้แกเลิกทำตัวแบบนี้ แล้วลงหลักปักฐานกับใหญ่ซะที แกนี่โง่หรือบ้านะที่ไม่ยอมแต่งงาน”
ธนวรรณระอาไม่น้อยกับพฤติกรรมของบุตรสาว แล้วรู้สาเหตุที่ธนัสสรณ์ไม่ยอมแต่งงานกับจอมทัพ ทั้งที่มีโอกาสหลายร้อยครั้ง เป็นเพราะธนัสสรณ์อยากมีชีวิตอิสระ ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ยังไม่อยากผูกมัดจากใครทั้งสิ้น
ส่วนเรื่องการเรียน ธนัสสรณ์ไม่สนใจเท่าไหร่นัก เพื่อนในวัยเดียวกันต่างจบปริญญาตรีกันเกือบทุกคน ต่างกับลูกสาวของนางที่ต้องเปลี่ยนมหาวิทยาลัยถึงสามแห่ง หากจะนับเวลาเรียนก็เข้าปีที่สิบแล้ว ธนัสสรณ์ยังไม่มีวี่แววว่าจะจบ ทว่าธนัสสรณ์บอกกับจอมทัพว่า ขณะนี้ตนกำลังเรียนปริญญาเอกอยู่ หากเรียนจบเมื่อไหร่จะแต่งงานกับเขาทันที เป็นข้ออ้างที่ทำให้จอมทัพไม่เร่งรัดงานวิวาห์
“เอาน่าแม่ อย่าบ่นไปหน่อยเลย เดี๋ยวหวานโทรหาพี่ใหญ่เอง” พูดจบ เจ้าของห้องปิดประตูห้องทันที เพราะไม่อยากทนฟังมารดาบ่น
“คุยอะไรกับแม่เหรอ ท่าทางจะเครียด” เดวิดถาม เพราะสองแม่ลูกคุยกันเป็นภาษาไทย
“เรื่องทั่วๆ ไปน่ะ แต่แม่ชอบคิดมากก็เลยทำหน้าเครียด” เธอบอกปัด “คุณไปอาบน้ำเถอะ เราจะได้ออกไปหาอะไรกินกัน”
“ไปอาบน้ำด้วยกันนะ ฉันอยากให้เธอถูหลังให้”
เขาโอบเอวบางร่างน้อยแล้วยิ้มกริ่ม ซึ่งเธอเองก็ไม่ปฏิเสธ ก้าวเดินไปพร้อมกับเดวิดเข้าไปในห้องน้ำ ลืมเรื่องที่รับปากไว้กับมารดาสนิทใจ