5
Chapter 5
“พี่หมายถึงเชื่อฟังคุณยายน่ะดีแล้ว”
“พี่ราร์ดปล่อยแก้วก่อนนะคะ ผู้ชายกับผู้หญิงกอดกันแบบนี้ไม่ดีค่ะ ใครเห็นเขามันจะไม่งาม” คำพูดแม่ตัวดีเหมือนคนแก่สมัยก่อนเสียจริง แต่เขาก็ชอบนะ แบบนี้แสดงว่าเธอไม่เคยถูกชายใดแตะต้องสัมผัสมาก่อน แล้วเขาก็ชอบที่จะได้เป็นคนแรกๆ ของเธอทุกการกระทำ
“ปล่อยก็ได้ แต่ต้องให้พี่หอมแก้มก่อน”
“อุ๊ย!” ในจังหวะที่เธอเผลอเขาก็ประทับริมฝีปากลงไปทันที แก้มสาวขึ้นสีแดงเรื่อ แก้วกัลยาผลักเขาออกก่อนจะวิ่งหนีออกมาด้วยความอาย เกิดมายังไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวผู้ชายหรือโดนหอมแก้มแบบนี้มาก่อนเลย
“อ้าว... ไปซะแล้ว” รัชวินทร์เซเล็กน้อยเมื่อโดนผลัก เขาทำท่าจะเรียกเธอเอาไว้ แต่เธอก็หนีหายไปเสียแล้ว มือหนายกขึ้นมาลูบปากตัวเอง กลิ่นหอมยังกรุ่นอยู่ที่จมูกของเขา
แก้วกัลยาวิ่งกระหืดกระหอบออกมานอกบ้านอย่างตกใจ เธอลูบแก้มไปมาด้วยความเขินอาย หน้ายังร้อนผ่าว หัวใจยังเต้นแรง เธอกำชายกระโปรงยาวเอาไว้แน่นด้วยความรู้สึกปั่นป่วน พอเผลอเงยหน้าขึ้นไปมองที่ริมหน้าต่างห้องนอนของชายหนุ่ม ก็เห็นเขามองอยู่ก่อนแล้ว
หญิงสาวก้มหน้างุด หันรีหันขวางจนสะดุดเข้ากับตอไม้เพราะความซุ่มซ่ามและขัดเขิน รัชวินทร์เห็นเข้าก็แทบกระโดดลงมาจากหน้าต่างห้อง เขารีบตามเธอลงมาดูอาการอย่างเร่งด่วน
“เป็นยังไงบ้าง” เขาคุกเข่าลงข้างๆ รีบพลิกดูข้อเท้าของเธอ
“มะ... ไม่เป็นไรค่ะ” แก้วกัลยาก้มหน้างุดเมื่อเผลอเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา เธอไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากมาย แต่ที่ลุกไม่ขึ้นเพราะเข่าอ่อนโดยไม่ทราบสาเหตุ
“ไหวไหม” เขาช่วยพยุง หันไปรอบๆ กายก็ไม่มีใครที่พอจะขอความช่วยเหลือได้
“ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ค่ะ” พยายามจะฝืนยืนด้วยตัวเอง แต่พอลงน้ำหนักไปที่เท้าก็รู้สึกเจ็บแปลบอยู่บ้าง แม้ไม่มากมายอะไร แต่ก็เดินขัดๆ
“พี่อุ้มดีกว่านะครับ” รัชวินทร์ไม่รอให้เธอเอ่ยตอบรับหรือปฏิเสธ เขาก็รีบอุ้มเธอขึ้นสู่อ้อมแขน แก้วกัลยารีบคว้าต้นคอหนาของชายหนุ่มเอาไว้เพราะกลัวตก เธอเผลอเงยหน้าขึ้นมองสบตาแล้วต้องก้มหน้างุด คางชิดอกเมื่อสู้แรงตาทรงเสน่ห์ของเขาไม่ไหว ดวงตาของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นแรงไม่เป็นส่ำ
สองหนุ่มสาวไม่รู้เลยว่ามีสายตาหลายคู่มองดูอยู่อย่างลุ้นๆ ก่อนจะอมยิ้มในแผนการที่วางเอาไว้...
“คุณแม่ดูสิคะ ตาราร์ดมองหนูแก้วตาหวานเยิ้มเชียว ทำท่าจะกลืนกินเขาแล้วนั่น” การะเกดพูดแล้วอมยิ้ม
“ก็แม่บอกแล้วว่าแผนนี้ต้องสำเร็จ ตาราร์ดน่ะพอหาคู่ให้ไม่เอา สวย เลิศ เฟอร์เฟคขนาดไหนก็ไม่เอาพอรู้ว่าโดนบังคับ ก็ต้องวางแผนกันหน่อยสิ ไม่งั้นจะสำเร็จได้ยังไง”
ยายกิ่งแก้วอมยิ้มกับทุกๆ คนที่ยืนรออยู่ริมหน้าต่าง เพราะเมื่อหลายปีก่อน รัชวินทร์ปฏิเสธแก้วกัลยา ผู้ใหญ่ก็ยังขยันหาผู้ใหญ่ดีพร้อมมาให้ชายหนุ่มเลือก แต่ชายหนุ่มไม่เลือกสักคน จนเมื่อหลายเดือนก่อน ยายกิ่งแก้วได้ข่าวจากการะเกดว่ารัชวินทร์มีแฟนเป็นตัวเป็นตน และท่าทางคิดจะจริงจังด้วย สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นก็นอกใจสำส่อนไปนอนกับผู้ชายอื่น จนเลิกรากันไป แต่เพราะรัชวินทร์ไม่เปิดตัวแฟนสาวกับครอบครัวเป็นทางการ จึงไม่มีใครซักไซ้ไล่เลียงเอ่ยถามเรื่องราว
“อีกไม่นานคงมีงานวิวาห์นะคะคุณแม่ หนูแก้วนี่แหละเหมาะสมกับตาราร์ดที่สุด น่ารัก เรียบร้อย เป็นแม่บ้านแม่เรือน ดูแลตาราร์ดได้ดีทีเดียวเชียวเพราะตาราร์ดทำงานหนัก ถ้าหากผู้หญิงสวยเก่ง ก็เอาแต่ทำงานจะมีใครมามีเวลาดูแลกันล่ะคะ”
“เหมือนคุณใช่ไหมครับเกด” ลูคัสโอบกอดภรรยาทำท่าสวีตหวานเช่นเคย
“คุณนี่ยังไง อายคุณแม่กับคุณพ่อบ้างสิคะ ไม่ใช่หนุ่มๆ สาวๆ แล้วนะคะ ตาชาร์ลก็อยู่เห็นไหม” การะเกดทุบแขนสามีเบาๆ อย่างเขินอาย
“จะอายอะไรกันแม่เกด จะหวานกว่านี้แม่ก็ไม่ว่าเราสองคนหรอก” ยายกิ่งแก้วเดินตามคุณตารุ่งมานั่งที่เก้าอี้ในห้องนั่งเล่นของครอบครัว เมื่อเห็นหลานชายอุ้มแก้วกัลยาขึ้นบ้านไปแล้ว
“ใช่ครับ ผมชอบมองแด๊ดกับมัมจีบกัน เผื่อจะมีน้องให้ผมอีกสักคนสองคน” ชัชวินทร์เท้าคางล้อเลียนบิดามารดา
“พูดอะไรตาชาร์ล มัมแก่แล้ว มีน้องให้เราไม่ได้แล้วนะ ถ้าเราอยากมีน้อง มีหลานแทนแล้วกัน ลูกตาราร์ดกับหนูแก้วไง” การะเกดค้อนบุตรชาย
“ผมอาจจะได้อุ้มหลานเร็วๆ นี้ ผมเชื่อแบบนั้น” ชัชวินทร์มั่นใจเมื่อเห็นสายตาของพี่ชาย
“ทำอะไรก็อย่าบังคับหลานกันนักล่ะ” ตารุ่งเอ่ยเตือนอีกครั้ง
“บังคับอะไรกันล่ะคุณ ฉันกับยายเกดก็แค่ทำให้บรรยากาศเป็นใจเท่านั้นเอง” ยายกิ่งแก้วพูดอย่างเจ้าเล่ห์
“แล้วตาล่ะ ต้องทำอะไรบ้าง” ตารุ่งเลยเอ่ยถามภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากด้วยน้ำเสียงติดจะตื่นเต้นนิดๆ
“อ้าว... ทำเหมือนไม่อยากช่วย ซะงั้น” ยายค้อนให้ตาก่อนจะพากันหัวเราะร่วน คิดแผนการให้หนุ่มสาวได้ใกล้ชิดกันมากกว่านี้
“เป็นแบบนี้ทุกคนเลย พอบังคับละไม่เอา ค้านหัวชนฝา ต้องให้ผู้ใหญ่อย่างเราๆ มานั่งคิดแผนการ” การะเกดบ่นน้อยๆ แต่อมยิ้มเสียแก้มตุ่ย
“ผมเข้าใจลูกนะ แกก็คงอยากคบหาดูใจกันก่อน ตามใจลูกหน่อยน่าคุณ” ลูคัสถึงจะเออออกับภรรยาแต่ก็แอบเข้าข้างลูกชายคนเดียวเหมือนกัน
“แบบนี้มันน่าแกล้งซะให้เข็ดนะคะ” การะเกดหันไปมองสบตากับมารดา
“แม่ก็ว่างั้นแหละ น่าแกล้งให้เข็ด” ยายกิ่งแก้วตอบรับดวงตาเจ้าเล่ห์
“สาวๆ มีแผนอะไรกัน” ตารุ่งเอ่ยถาม
“ไม่บอก เดี๋ยวก็รู้” แล้วสองแม่ลูกก็หัวเราะชอบใจ มองหน้าบรรดาผู้ชายที่อยากรู้อยากเห็นเต็มแก่แล้วขบขันนัก
“ผมคงไม่เจอแบบพี่ราร์ดนะครับ” ชัชวินทร์ชักร้อนๆ หนาวๆ ในแผนการของญาติผู้ใหญ่
“ไม่จ้ะชาร์ล” การะเกดตอบเสียงสดใส
“แล้วไปครับ โล่งหน่อย นึกว่าผมจะเจอแบบพี่ราร์ดเสียอีก”
“ไม่... ในความหมายของแม่คือไม่รอดจ้ะ” การะเกดตอบแล้วหัวเราะเบาๆ ชัชวินทร์หน้างอทันที
“ไม่... ในความหมายของยายคือไม่เหลือซากจ้ะ”
“คุณยายกับมัมอย่าโหดกับผมมากสิครับ กับพี่ราร์ดไม่เป็นไร” ชัชวินทร์โอดครวญลุกไปซุกตักของยายกิ่งแก้วอย่างออดอ้อน
โทษนะครับพี่ชาย ตอนนี้ผมคิดว่า ‘รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี’ มัมกับคุณยายหาผู้หญิงดีๆ ให้ พี่ราร์ดก็ตกลงแต่งงานไปเถอะครับ
รัชวินทร์วางร่างแน่งน้อยของแก้วกัลยาลงที่เก้าอี้ไม้บนเรือน บ้านของคุณตาคุณยายเป็นสัดส่วนแยกกันไป ไว้รับรองแขกได้จำนวนมากเพราะตัวบ้านหลังใหญ่ เชื่อมต่อกันเป็นห้องพักรับรองแขก ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัวจะอยู่ชั้นล่าง ซึ่งมีใต้ถุนสูง ตอนเด็กๆ เขามักจะนอนเล่นที่นั่น อากาศดีเย็นสบาย นอนแล้วไม่อยากลุกไปไหน ส่วนบริเวณโดยรอบเป็นบ้านเรือนไทยหลังเล็กๆ กระจายอยู่ทั่วไป แขกไปใครมาต้องการบรรยากาศเป็นส่วนตัวหรืออยู่กับครอบครัวก็เข้าพักได้ทันที เพราะคุณยายสั่งให้คนทำความสะอาดอยู่เสมอๆ
“เป็นยังไงบ้าง” รัชวินทร์เอ่ยถาม จับเท้าเล็กๆ ของหญิงสาวเอาไว้ แก้วกัลยาเป็นคนเท้าสวย เท้าของเธอเล็กจ้อยน่ารัก ฝ่าเท้าเป็นสีชมพู เล็บเท้าตัดสั้นขาวสะอาด ไม่ได้ทาเล็บสีจัดจ้านเหมือนสาวๆ ที่เขาเห็น นิ้วเท้าของเธอเรียงตัวเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเจ้าของ จนเขาแทบอยากจะก้มลงไปจูบสักทีให้หายอยาก
“เอ่อ... แก้วไม่เป็นอะไรมากค่ะ” เธอพยายามดึงเท้าหนีจากอุ้งมือใหญ่ร้อนผ่าว รู้สึกขัดเขินอย่างบอกไม่ถูกเมื่อเห็นความห่วงใยของเขา
“ไม่เป็นอะไรมากได้ยังไง ดูสิข้อเท้าบวม เดี๋ยวพี่ดูให้นะครับ” ชายหนุ่มรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้น ดูจากการอาการไม่ได้หนักหนาอะไร แค่นวดน้ำมันสักนิดก็คงหาย