8
“พี่ชาย! ทำไมวันนี้กลับบ้านเร็วได้ล่ะคะ ปกติกว่าจะถึงก็เลยเที่ยงคืนไปแล้วทุกที”
กัญญาวีร์ที่กำลังเดินเข้าบ้านรีบแซวเมื่อเจอพี่ชายตรงประตูพอดี กำลังจะเอ่ยแซวอีกหลายยก บังเอิญเห็นชายแปลกหน้าเดินตามหลังพี่มาเลยหยุดปากเอาไว้ก่อน แต่สายตานั้นกลับอ่านคนทั้งสองตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งเป็นนิสัยส่วนตัวที่มักจะ พิจารณาคนที่เข้ามาข้องแวะกับคนในบ้านอยู่แล้ว
“แล้วสาวสวยคนนี้คือใครกันล่ะครับคุณชาย”
ความเจ้าชู้ของจักรวาลแล่นปูดปาดในทันที เมื่อเจอสาวสวยผิวขาวจั๊วะ แม้กระโปรงนักศึกษาแบบอัดพีทรอบตัวและยาวถึงหัวเข่าไม่ได้อวดน่องสวยๆ เสื้อฟิตๆ เหมือนสาวนักศึกษาที่เห็นจนชินตาก็ตาม แต่ก็ยังเตะตาเตะใจเขาอยู่ดี จนอดอยากรู้ไม่ได้
“น้องสาวผมเองครับ หญิงฟางรู้จักคุณสิงหรัฐกับคุณจักรวาลสิ”
กัญญาวีร์ยกมือไว้ทั้งสองด้วยท่าทีเรียบร้อยเยี่ยงกุลสตรีที่ถูกอบรมมารยาทมา ทว่าในใจนั้นครุ่นคิดว่าเคยเห็นหน้าหนึ่งในสองคนนี้จากที่ไหน แต่ก็คิดไม่ออก
“เชิญทางนี้ครับ”
กันต์กวีเองก็เหมือนไม่อยากให้ทั้งสองเสวนาพาทีกับคนในบ้านนักในความคิดของสิงหรัฐ เพราะรีบตัดบทพร้อมกับกดดันให้เดินไปยังศาลานอกบ้านทันที แต่เขาไม่ยอมทำตามโดยง่าย กลับส่งยิ้มบางๆ ให้เจ้าของผมยาวสลวย ขณะพินิจพิเคราะห์ดวงหน้าสวยใสไปด้วย
‘หม่อมราชวงศ์กัญญาวีร์ รัตนนาวิน’ ตัวจริงในตอนนี้ สะสวยกว่าเด็กสาวในรูปที่เขาเห็นเมื่อสามปีก่อน ที่เขาสั่งให้บอดี้การ์ดหนุ่มไปสืบสาวราวเรื่องของไอ้คนเลวๆ มาให้แล้วคนละเรื่อง
เขารู้สึกถึงแรงเต้นของหัวใจถี่ขึ้นอย่างผิดปกติ เมื่อเห็นผิวขาวอมชมพูตรงพวงแก้ม แขนกลมกลึงได้รูปราวสลักไว้ ท่ายืนที่สง่าราวนางหงส์ งดงามสมกับเป็นราชนิกุลโดยแท้ แต่สายตาสวยคู่นั้นกลับจ้องมองเขาอย่างดูถูกดูแคลน ถ้าเขาไม่มองในแง่ลบเกินไป นั่นทำให้เขาไม่ชอบเอามากๆ
“เนย์! ทางนี้”
เสียงเพื่อนเตือนสติให้เขาเดินไปตามทิศทางที่เจ้าบ้านนำไป
“ผมรู้แล้วล่ะน่า! ว่าเหลืออีกแค่ห้าวัน! คุณไม่ต้องห่วงหรอก รับรองว่าผมมีเงินไปไถ่ของแน่”
หนุ่มสูงศักดิ์ย้ำไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ เมื่อจักรวาลเตือนเส้นตายใส่หูนับตั้งแต่เริ่มต้นคุยกัน และไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องมาเดือดร้อนอะไรนักหนาด้วย ในเมื่อตัวเองก็ไม่ใช่เจ้าของเงินสักนิด
“ผมไม่ห่วงเรื่องนั้นอยู่แล้ว เพราะถ้าคุณชายไม่มีเงิน สร้อยกับบ้านหลังนี้ก็จะตกเป็นของเพื่อนผมทันที ที่ย้ำก็เพราะเป็นห่วงและเห็นแก่พ่อแม่ของเราที่รู้จักมักคุ้นกันมานานเท่านั้น ผมก็รู้นะว่า สร้อยมีค่ากับวงศ์สกุลคุณชายมากแค่ไหน”
จักรวาลยืนยันด้วยน้ำเสียงดุดันเล็กน้อยตามสไตล์ แต่เขาก็หมายความอย่างที่พูดไปจริงๆ แม้อยากจะช่วยให้แผนของเพื่อนสำเร็จผล แต่อีกใจก็สงสารเจ้าของร่างอรชรเมื่อครู่จะไร้ที่อยู่เมื่อบ้านถูกยึด
“ขอบคุณนะ แต่ผมขอบอกอีกครั้งว่าผมจะไม่ปล่อยให้ทุกอย่างตกเป็นของคนอื่นแน่ ถ้าพวกคุณไม่มีอะไรแล้วผมก็ขอตัวนะ มีธุระสำคัญต้องไปทำ”
กันต์กวีไม่คิดจะเชื่อในความหวังดีของไอ้ลูกนักการเมืองจอมโกงเด็ดขาด และอดเจ็บใจไม่ได้ที่บรรพบุรุษของตัวเองจงรักภักดี ซื่อสัตย์สุจริตต่อตัวเอง ต่อผู้อื่น ต่อชาติบ้านเมือง ไม่เคยคิดคดโกงแม้แต่สตางค์แดงเดียว กลับมีฐานะการเงินย่ำแย่ลงทุกวันๆ
ผิดกับไอ้พวกคดโกง ที่รวยเอารวยเอา อยากได้อะไรก็ได้ อยากมีอะไรก็มี ผู้คนก็คอยกราบไหว้ ให้ความเคารพนับถือ วันเกิดที ปีใหม่ที มีกระเช้าไปมอบให้แทบจะถึงเตียงนอนด้วยซ้ำ แต่ราชนิกุลอย่างเขากับพ่อแม่พี่น้อง กลับได้แต่สายตาดูถูกดูแคลน ว่าเป็นพวกมีดีแต่เปลือก
“ถ้าคุณมั่นใจขนาดนั้นเราก็หมดธุระแล้วล่ะ” สิงหรัฐเอ่ยในที่สุด ก่อนจะลุกตามเจ้าของบ้านที่จงใจอยากจะไล่แขกอย่างไม่ปิดบัง
“ผมจะแจ้งข่าวไปก่อนห้าวัน รับรองไม่มีปัญหาแน่”
กันต์กวียังคงทำใจดีสู้เสือ แม้ตัวเองจะหลังกำลังชนฝาก็ตาม แต่ก็ไม่ยอมเผยไต๋ให้เจ้าของเงินรู้แน่ แล้วก็รีบเดินนำออกจากศาลาตรงเข้าบ้านเพื่อหมายจะเอากุญแจรถแล้วขับหนีปัญหายุ่งๆ นี้สักที
“อ้าว! คุยกันเสร็จแล้วเหรอจ๊ะชาย ไม่ชวนเพื่อนๆ กินมื้อเย็นด้วยกันก่อนล่ะ แม่บอกให้พี่หญิงทำเผื่อไว้แล้วนะ”
แต่แม่ก็ออกมาก่อน แถมเอ่ยในสิ่งที่เขาไม่เคยมีความคิดในหัวเลย แล้วยังเดินผ่านลูกไปหาสองหนุ่มอย่างเจ้าของบ้านที่ดีด้วย
“คุณจักรกับคุณเนย์อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนมั้ยคะ ถ้าไม่รีบไปไหน แต่ถ้ามีธุระป้าก็ไม่กล้ารั้งไว้ค่ะ”
จักรวาลยิ้มให้เจ้าของบ้านแล้วหันไปหาเพื่อน เป็นเชิงถามว่าจะเอายังไง แล้วก็ได้ไฟเขียวเป็นการพยักหน้าให้กลับมา
“ด้วยความยินดีครับคุณหญิง”
เจ้าของบ้านส่งยิ้มให้และสิงหรัฐก็ยิ้มตอบ แม้การมาในครั้งนี้จะเป็นเพียงแค่อยากเขย่าขวัญเป้าหมายเล่นๆ เท่านั้น แต่ในเมื่อมีโอกาสได้อยู่อ่านสายตาแปลกๆ ของลูกสาวเล็กบ้านนี้ต่ออีกหน่อย ทำไมเขาจะไม่ล่ะ
“อาหารอาจจะพื้นๆ หน่อยนะคะ ชายฟ่างไม่ยอมบอกว่าจะมีเพื่อนมาหา หญิงฟ้าเลยทำผัดผักรวมปลาเค็มกับไข่ตุ๋นเพิ่มอีกสองอย่าง แต่รสชาติรับรองสู้เชฟในโรงแรมดังๆ ได้แน่นอนค่ะ”
หม่อมเจ้าหญิงกัญญาพรรีบออกตัว เมื่อทุกคนเริ่มลงมือ แม้ใบหน้าจะยิ้ม แต่สายตาก็จับจ้องอยู่ที่สองเพื่อนของลูก ที่ร้อยวันพันปีไม่เคยพาใครเข้าบ้าน หรือจะพูดให้ถูกก็คือลูกมักไม่ได้พาเพื่อนที่เป็นสามัญชนมามากกว่า นานทีปีหนจะพาพวกญาติห่างๆ หรือไม่ก็พวกราชสกุลเดียวกันมาไหว้แม่สักที
“แต่การจัดจานสวยงามมากครับท่านหญิง เหมือนนั่งกินข้าวอยู่ในวังจริงๆ เลยล่ะครับ”