บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 แอบเล่นเสียว

ยามนี้เป็นยามโหย่ ฮูหยินใหญ่หลันหยาก็มาถึงท้ายจวน ท่ามกลางอากาศหนาวและความมืดมิดหลันหยากลับสามารถเดินได้อย่างคล่องแคล่วไปในเส้นทางอันมืดมิดราวกับตาเห็น

นั่นเป็นเพราะนางคุ้นเคยเส้นทางนี้มานานนับปีแล้ว

เพราะการกระตุ้นอารมณ์จากริมฝีปากของซุนหลีเมื่อสักครู่ทำให้หลันหยายังคงมีอาการเสียวที่ร่องหวาน ปุ่มเนื้อสีแดงของนางกำลังบวมเป่งและสั่นระริก

‘อา ข้าหวังว่าจะมาทันพบเขาอาบน้ำ’

เมื่อมาถึงเรือนของเขา นางเดินอย่างเงียบเชียบและหายเข้าไปในป่าด้านข้างเรือนดึงจุกไม้ที่ปิดช่องเล็ก ๆ ออกมา

ตรงนี้นางจะเห็นซุนโหวนั่งอยู่ในถังน้ำ กำลังใช้ผ้าเช็ดถูเนื้อตัวของตนเอง

แม้จะเห็นเพียงกล้ามหน้าอกที่แข็งแกร่ง และถันเล็กที่โผล่ขึ้นมา แต่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับนาง

นางลูบไปที่ผิวเนื้อของตนเอง มือหนึ่งคลึงเต้านม อีกมือยัดเข้าไปในร่องเสียวพร้อมกับกระตุกนิ้วเบา ๆ

หลันหยากัดริมฝีปากครางเสียวเมื่อกระตุกนิ้วเร็วขึ้น ลิ้นของนางแลบออกมาจินตนาการว่าตนเองกำลังเลียหัวนมของซุนโหวอยู่ พร้อมกับลากไปที่เลียกล้ามอกแน่นของเขา

“อา ซุนโหว ซี้ด อา ซุนโหว เสียว ข้าเสียว”

นางบดนิ้วเข้ากับร่องของตนเอง ในขณะที่มืออีกข้างขยำปั่นหัวนมจนแข็งเป็นไต

นิ้วของนางเคล้นเต้าแรงขค้น พร้อมกับนิ้วที่กระแทกเข้ามาในร่องสวาทหนัก ๆ สองตาจับจ้องไปที่ใบหน้าและร่างเปลือยส่วนบนของซุนโหวอย่างกระหาย

และจู่ ๆ ซุนโหวก็หลับตาพริ้ม เสียงน้ำกระฉอกดังออกมา ใบหน้าของเขาเหยเกหัวนมแข็งเป็นไต

หัวใจของหลันหยาเต้นระรัว เมื่อซุนโหวเปล่งเสียงออกมา

“อ้า ฮูหยินใหญ่ อ้า ข้ากำลังใช้แท่งหยกอัดเข้าไปในร่องรักของท่าน แรง ๆ ลึก ๆ อ้า เสียวหรือไม่ ท่านอย่าทำหน้ายั่วสวาทข้าเช่นนี้ ซี้ด ครางออกมา ข้าจะอัดท่านให้กลีบแดง ๆ ของปลิ้นออกมา ซี้ด”

ฮูหยินใหญ่ได้ยินเต็มสองหู ด้วยวาจาเร้าสวาทของเขาทำให้นางเสียวจนต้องกระแทกนิ้วแรง ๆ

“อ้า ชอบหรือไม่ขอรับ ถ้าชอบก็กดร่องกระแทกรับข้าขอรับ ยามนี้ข้ากำลังกระแทกสวนร่องท่านถี่ ๆ ซี้ด ฮูหยินใหญ่ อ้า ท่านคับแน่นยิ่งนัก ข้าจะเสร็จแล้ว ซี้ด ข้าจะแตกแล้ว”

เขากำลังเร่งมือถอกแท่งหยกขึ้นลงเพื่อช่วยตัวเอง และยามนี้ที่เขาหลับตาพร้อมกับแหงนใบด้านหลัง

“อูย จะแตกแล้ว ซี้ด อ้า ฮูหยินใหญ่ร่องของท่านตอดข้าแรงมาก ซี้ด แตกแล้ว แตกแล้ว”

“ซี้ด ซุนโหว อื้ม ข้าก็จะแตกแล้ว ซี้ด อ้า”

ฮูหยินใหญ่ครางในลำคอและมือของนางก็เร่งจังหวะเร็วขึ้น ในที่สุดสะโพกของนางก็หยัดแอ่นน้ำเสียวพุ่งออกมาจากรูรักพุ่งรดไปที่ต้นไม้เล็ก ๆ ที่ขึ้นอยู่บริเวณนั้น

ร่องสวาทของนางกระตุกระรัว ยามนั้นคล้ายนางจะทำเสียงดังซุนโหวซึ่งปลดปล่อยตนเองแล้วเช่นกันจึงหันหน้ามามอง

ฮูหยินใหญ่กระชับเสื้อคลุมแล้วเร่งฝีเท้าเดินจากมา ซุนโหวลุกขึ้นจากถังน้ำคว้าเสื้อมาสวมคลุมอย่างไม่เร่งร้อน มือใหญ่ถือโคมไฟแล้วเดินออกมาจากเรือน

เขาเดินอ้อมเรือนของตนเองมายังจุดลับตาคนบริเวณที่ฮูหยินใหญ่เพิ่งจากไป

มุมปากของซุนโหวยกขึ้นเล็กน้อย เมื่อเห็นร่องรอยความเปียกชื้นที่กลิ้งอยู่บนใบไม้ใบหนึ่ง เขาเด็ดใบไม้นั้นขึ้นมาดอมดมเล็กน้อย

อา กลิ่นน้ำรักของสตรีนางนั้นช่างยั่วกำหนัดยิ่งนัก

ตั้งแต่วันแรกที่เชลยถูกเกณฑ์เข้ามาใช้แรงงานในจวนแม่ทัพโดยที่ท่านแม่ทัพยังอยู่ชายแดนหลันหยาก็ต้องตาบุรุษหนุ่มผู้หนึ่ง

บุรุษหนุ่มผู้นี้เขาคือ ซุนโหว

ซุนโหวมีใบหน้าที่หล่อเหลาคมคาย ดวงตาดำของเขาดูลึกล้ำเหมือนบ่อน้ำ และมีคิ้วกระบี่สะดุดตา รูปร่างกำยำงดงามแข็งแกร่ง เต็มไปด้วยกลิ่นอายของบุรุษเพศชวนให้หลงใหล

คนที่นำทาสมาส่งที่จวน ได้รายงานอดีตของซุนโหวให้นางฟัง

อดีตรองแม่ทัพผู้ทระนงตัวแม้มีโอกาสหลบหนีแต่กลับไม่ยอมหนี เขาติดตามมารดาบุญธรรมและน้องบุญธรรมมาที่นี่เพื่อคุ้มครองพวกนาง

หากเขาหนีไปคนเดียวก็ไม่ต้องมีภาระคุ้มครองผู้ใด สามารถใช้ชีวิตอย่างสบาย ทว่าเขากลับเลือกทิ้งศักดิ์ศรีเพื่อสตรีทั้งสองคน

น่านับถือยิ่งนัก

หลันหยาชื่นชอบการขี่ม้าและชอบม้ายิ่งนัก เห็นว่าซุนโหวมีฝีมือเรื่องนี้จึงมอบหมายงานให้เขาทันใด

การมาของซุนโหวทำให้สาวใช้ในจวนแตกตื่นและเขินอายทุกคน กระทั่งแม่ครัววัยห้าสิบปีที่อยู่ในจวนมาตั้งแต่เกิดยังคิดวางกระทะแล้วไปต่อคิวเพื่อยลโฉมบุรุษผู้นั้น

เพราะเขาเป็นพี่ชายของซุนหลี สาวใช้ทุกคนจึงปฏิบัติตัวต่อซุนหลีและมารดาราวกับญาติที่พลัดพรากและเพิ่งพบกัน

ต่อมาฮูหยินใหญ่ได้ยินข่าวว่ามีสาวใช้ทะเลาะกันเพื่อแย่งเอาใจซุนโหว นางรีบรุดไปดูเหตุการณ์ด้วยตนเอง พบว่าระหว่างทางที่จะไปยังโรงเลี้ยงม้าสาวใช้หลายคนกำลังทะเลาะตบตีกันเพราะแย่งกันทำอาหารมาส่งให้ซุนโหว

ฮูหยินใหญ่จึงจัดการขั้นเด็ดขาด ห้ามสตรีใดไปที่หลังจวนอีกเพื่อก่อความวุ่นวาย หากจับได้จะไล่สตรีนางนั้นออกจากจวนพร้อมกับโบยสามสิบไม้

ทุกคนย่อมไม่อยากโดนตี ถึงจะรักบุรุษผู้นั้นเพียงใดแต่ก็ไม่กล้าเสี่ยง เรื่องราวจึงสงบลงได้แต่โดยดี

หลังจากนั้นนางก็ได้เจอซุนโหวบ่อยครั้ง ในยามที่นางไปขี่ม้าที่สนามท้ายจวน และทุกครั้งจะมีซุนโหวมาคอยช่วยเหลือดูแลม้าให้นาง

และในวันหนึ่งที่หลันหยาได้ม้าป่าฝีเท้าดีนามอัคคีเพลิงมาที่จวนแม่ทัพ นางก็ส่งให้ซุนโหวเป็นผู้ฝึกฝนเพราะเขาคือคนที่เชี่ยวชาญและเก่งกาจที่สุดในบรรดาคนเลี้ยงม้าทั้งหมด

อัคคีเพลิงเป็นม้าที่แสนพยศ เป็นม้าที่พยศที่สุดเท่าที่หลันหยาเคยเห็นมา หลังจากปล่อยให้ซุนโหวปราบพยศอยู่หลายวันในที่สุดอัคคีเพลิงก็ยอมสงบ

เมื่อบ่าวมารายงานหลันหยารีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงขี่ม้าไปที่ลานฝึกอย่างรวดเร็ว

นางเห็นบุรุษร่างกายแข็งแกร่งอยู่บนหลังอัคคีเพลิงก็ให้รู้สึกหัวใจเต้นระรัว

เขาทั้งหล่อเหลาและดูดี ช่วงขาเพรียวยาว เอวสอบ แผ่นหลังหยัดตรงสง่างาม

“ฮูหยินใหญ่ มาแล้วหรือขอรับ”

ซุนโหวขี่ม้ามาหานาง เขาลูบแผงคอของอัคคีเพลิงเล็กน้อยให้มันสงบเมื่อเจอสตรีที่มาใหม่

“เจ้าเก่งมากที่ปราบพยศมันได้ ข้าจะมีรางวัลให้เจ้า”

ทำดีย่อมมีรางวัลผู้ใดไม่อยากได้ ทว่ากลับมิใช่ซุนโหว

“ขอบคุณฮูหยินใหญ่ขอรับ แต่ข้าน้อยไม่ต้องการ”

เหย่อยิ่งจองหอง แต่กลับทำให้หัวใจของนางสั่นระรัว

“แล้วเจ้าต้องการสิ่งใดตอบแทน”

“เป็นเรื่องที่ข้าน้อยสมควรทำ ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนขอรับ”

ฮูหยินใหญ่พยักหน้า อยากตอบแทนเขาแต่คนไม่ต้องการจึงรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย แต่ก็ช่างเถิดในเมื่อไม่อยากรับนางก็ไม่ฝืนใจ

“ข้าอยากขี่มัน”

“หากจะขี่ ต้องให้ข้าน้อยอยู่ใกล้ ๆ ยามนี้อัคคีเพลิงยังไม่ไว้ใจผู้ใดนอกจากข้าน้อย”

“ได้ เช่นนั้นเจ้าคอยดูแลข้า พวกเราขี่มันด้วยกัน”

ความจริงฮูหยินใหญ่กำลังตื่นเต้น นางไม่คิดเรื่องอื่นใดเพราะต้องการขี่ม้าจริง ๆ ทว่าเมื่อก้าวขึ้นสู่หลังม้าโดยมีซุนโหวซ้อนอยู่ข้างหลัง หัวใจของนางก็สั่นระรัว

เมื่อนางสัมผัสถึงความแข็งแกร่งของแผงอก ลำแขนแข็งแรงที่โอบล้อมร่างของนางอยู่ และยามที่ก้นของนางเสียดสีกับบางสิ่งบางอย่างที่อยู่กลางร่างกายของเขา ฮูหยินใหญ่ก็ร้อนผ่าว

อา อยากได้เขาจังเลย

ความคิดชั่วร้ายพลันเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว และนางยังสัมผัสได้ถึงความร้อนจากร่างของเขา สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมเย็นของสายลมและทุ่งหญ้าที่ติดกายเขา

ขาแข็งแรงกำลังเบียดขาของนางอย่างแนบชิด

ทั้งเขาและนางต่างจับบังเหียรม้าพร้อม ๆ กัน มือของเขาจึงจับหลังมือนุ่มนิ่มของนางเอาไว้ แนบชิดยิ่งนัก

“ข้าจะพาฮูหยินใหญ่ขี่อัคคีเพลิงวิ่งไปด้านโน้นนะขอรับ”

“อืม ข้าอยากพิสูจน์ฝีเท้าของอัคคีเพลิงเช่นกัน”

ซุนโหวยิ้ม เขาโน้มกายลงมาด้านหน้าเล็กน้อย ฮูหยินใหญ่กำลังจะหันไปมองเขา จมูกโด่งของนางจึงปัดเข้ากับแก้มของซุนโหวโดยไม่ได้ตั้งใจ

ตึก! ตึก! ตึก!

หัวใจของนางเต้นแรงราวกับสาวน้อย นางไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน เขินอายและใจสั่น

ในสมองของนางเริ่มขาวโพลน และร่างกายสั่นระริก สัมผัสที่แนบชิดนี้ทำให้ไม่อาจยับยั้งชั่งใจได้อีกแล้ว

กระทั่งนางสัมผัสได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังทิ่มแทงแก้มก้นของนางอยู่

หัวใจของนางเต้นระรัว ของแข็งนั้นนางย่อมคุ้นเคย ฮูหยินใหญ่เบียดก้นของนางให้แนบชิด เอนกายพิงร่างแข็งแกร่ง ในจังหวะที่ม้าวิ่งเร็วนั้นก้นของนางขยับขึ้นลงเล็กน้อย และสุดท้ายเหมือนนางจะนั่งทับเจ้าสิ่งนั้น

“อ้ะ”

ยิ่งนางแนบชิดและบดเบียดก็ดูเหมือนว่าสิ่งนั้นจะเหยียดขยายตัวราวกลับมันกำลังมีชีวิต

ใบหน้าของนางร้อนผ่าว ในใจคิดกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะรุกเขา

กระทั่งฝีเท้าม้าของนางผ่อนลง วงแขนกว้างโอบกระชับร่างของนางแน่นขึ้น เขาก้มลงชิดใบหูและเป็นฝ่ายดึงร่างเล็กของนางให้แนบชิดด้วยตนเอง

“ขี่ม้าสบายหรือไม่ขอรับ”

วาจากำกวมของเขาทำให้นางยิ่งใจสั่น

“กะ ก็ เจ้าทำดียิ่ง มะ ม้าไม่พยศแล้ว สบายดี”

“ชอบหรือไม่ขอรับ”

“ชะ ชอบ”

“อยากขี่มากกว่านี้หรือไม่”

ฮูหยินใหญ่เม้มปาก รู้สึกว่าสิ่งที่นางกำลังนั่งทับนั้นกำลังขยับช้า ๆ ยิ่งเสียดสีเม็ดเสียวที่อยู่ภายใต้เนื้อผ้ามากยิ่งขึ้น

ฮูหยินใหญ่แทบจะร้องครางออกมาอยู่แล้ว นางกัดปากกลั้นเสียงครางของตนเองเอาไว้

“ยะ อยาก ขี่ ลึก ๆ อ้ะ ไม่ใช่ข้าหมายความว่า ขี่มากขึ้น”

ฮูหยินใหญ่แทบจะปกปิดความต้องการของตนเองเอาไว้ไม่ได้แล้ว ใบหน้าของนางเห่อร้อน อยากถูกกระแทกแรง ๆ จนแทบอดใจไม่ไหวจนเผลอพลั้งปากพูดออกมา

ริมฝีปากของซุนโหวกระตุกโค้งขึ้นอย่างพึงใจ

“เช่นนั้นข้าน้อยจะขี่วนอยู่แถวนี้นะขอรับ เพราะแถวนี้ปลอดคนแล้ว”

ฮูหยินใหญ่ตกตะลึงเล็กน้อย การที่เขาบอกว่าปลอดคนนั่นหมายถึงว่า.......

เขาคิดเช่นที่ข้าคิดใช่หรือไม่

เขากระตุกบังเหียนสั่งให้อัคคีเพลิงเริ่มต้นวิ่งอีกครั้ง ครานี้ไม่วิ่งเร็วเหมือนเดิมแล้ว

“ฮูหยินใหญ่ขยับสะโพกขึ้นลงสิขอรับ อย่าเกร็งนักปลดปล่อยตนเองบนหลังม้า ปกติข้าน้อยเห็นว่าฮูหยินใหญ่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการควบขี่มิใช่หรือ”

“พะ เพราะอัคคีเพลิงเป็นม้าพยศ ข้าจึงหวาดกลัวเล็กน้อย”

ฮูหยินใหญ่กล่าวแก้ตัวน้ำขุ่น ๆ ร่างแข็งแกร่งที่นั่งซ้อนแผ่นหลังขยับเข้ามาชิดขึ้น

“เช่นนั้นผ่อนคลายนะขอรับ ข้าน้อยจะช่วยท่านเอง”

ม้าวิ่งวนไปอย่างช้า ๆ ทุกฝีเท้าย่อมทำให้เกิดการกระแทก ยามนี้ซุนโหวใช้มือข้างหนึ่งยกร่างของฮูหยินใหญ่ขึ้นเล็กน้อยแล้วกดร่างเล็กลงไปทำให้ร่องเสียวบดเบียดกับแท่งหยกแข็งแกร่งของเขาเต็ม ๆ

อึก! ซี้ด

ฮูหยินใหญ่บดลงไปบนของแข็งอย่างเต็มที่ ด้วยจังหวะการควบขี่ของม้าทำให้บริเวณนั้นทั้งบดเบียดทั้งถูไถจนร่องแฉะฉ่ำ

“อ้า ซี้ด”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel