บท
ตั้งค่า

Bad Engineer 7 - อย่าคิดมาลองดีกับฉัน

ฉันรู้ว่าเขาจำฉันได้ แต่ที่เขาพูดออกมาแบบนั้นเพราะคงไม่อยากให้ยัยคาเรนและเพื่อนของฉันรู้เรื่องราวระหว่างเรา

“อ่าเหรอคะ สงสัยฉันคงจำคนผิดเอง ขอโทษนะคะ” ฉันตอบแก้ต่างออกไป เพราะสายตาของเพื่อนทุกคนกำลังมองหน้าฉันแบบงง ๆ

ส่วนอีตาพี่ไคโรยังคงทำหน้านิ่ง เนียนเหมือนคนไม่รู้จักหรือเจอฉันมาก่อน ก่อนที่เขาจะขอตัวเดินแยกไปกดตั๋วดูหนังให้พวกเรา

“ปะ ใกล้เวลาเข้าไปในโรงดีกว่าครับ” เขาเอ่ยชวนพวกเราทุกคน ก่อนจะหันไปจับมือขอฝคาเรน เดินนำเข้าโรงหนังไปทันที

ส่วนฉันก็ได้แต่มองแผ่นหลังของเขากับเพื่อนรัก ด้วยสายตาของความไม่ชอบใจ

ภายในโรงหนัง

“นาบีกินป๊อปคอร์นปะ”

“ไม่อะแกกินเลย”

ฉันบอกกับยัยคาเรนที่ยื่นป๊อปคอร์นมาให้ สักพักก็เห็นนางจับมือพี่ไคโร แล้วเอาป๊อปคอร์นในมือไปยัดใส่มือพี่เขาให้ถือแทน

ตลอดระยะเวลาที่หนังฉาย ฉันไม่ได้สนใจดูหนังเลย เอาแต่มองพี่ไคโรกับยัยคาเรนที่นั่งสนิทสนมหวานแหววอยู่สองคน พี่ไคโรดูใส่ใจเพื่อนฉันเป็นพิเศษ พอคาเรนจะขอน้ำ หรือจะขอป๊อปคอร์นกี่รอบก็ยื่นให้ด้วยความเต็มใจหมด และอีกอย่างคือทั้งคู่กินน้ำหลอดเดียวกันอีกด้วยนะ!

โห…นี่ความสัมพันธ์ของสองคนนี้มันจะรวดเร็วไปไหนกัน! อย่าบอกนะว่าคาเรนเสร็จหมอนี่ไปแล้วเหมือน ๆ ฉัน!

“ป้อนหน่อย” ฉันมองยัยคาเรนที่พูดขึ้นก่อนจะอ้าปากรอ พี่ไคโรหันมามองก่อนจะยิ้มเล็กน้อย แต่ก็ยอมป้อนใส่ปากคาเรนด้วยความเต็มใจ

ส่วนฉันได้แต่นั่งอึ้ง ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นมุมอ่อนโยนของผู้ชายคนนี้ ที่ตอนอยู่กับฉัน เขามักจะทำหน้านิ่ง ๆ ส่วนตอนที่ฉันเจอเขาอยู่กับสาวคนอื่นก็ติดจะดูหื่นนิด ๆ

อันไหนคือตัวจริงกันแน่นะ

เขาที่อยู่กับคาเรน ดูเป็นคนอบอุ่น สุภาพบุรุษและเรียบร้อย ผิดไปจากที่ฉันเห็นมาก่อนหน้านี้ลิบลับ แต่ก็ช่างเถอะ ขึ้นชื่อว่าแบดบอย ยังไงเขาก็คือแบดบอย ตอนนี้เขาอาจแค่สร้างภาพหลอกคาเรนขึ้นมา

เฮ้อ… ฉันละนึกห่วงคาเรนขึ้นมาจริง ๆ นางเป็นคนอ่อนไหวง่าย ถ้าโดนฟันแล้วทิ้งเหมือนฉัน มีหวังนางต้องร้องไห้จนเป็นซึมเศร้าแน่ ๆ

ฉันจะทำยังไงดีนะ...

“ยัยนาบีดูไอ้ที่โผล่มานั่นดิ โอ้ยแม่ง” อยู่ ๆ ยัยฌิรินที่นั่งข้างฉันก็เอ่ยถามขึ้นมา ทั้งที่สมองฉันไม่ได้ใส่ใจกับจอหนังที่อยู่ตรงหน้าเลยสักนิด

“เออ หล่อดี ฉันชอบ” ฉันตอบปัดแบบส่ง ๆ ไป เพราะไม่ได้มีสมาธิอยู่กับหน้าจอเลยตั้งแต่เข้ามา

“ห๊ะ? เดี๋ยวแก นี่แกจะบอกว่าจระเข้ตัวนี้หล่อดีเหรอ บ้าเปล่าวะ สเปคแกแปลกไปนะ”

“หา...จระเข้”

เท่านั้นแหละ ฉันเลยหันไปดูที่หน้าจอทันที ก่อนจะเห็นจระเข้ตัวโตกำลังคลานอยู่ในท่อระบายน้ำ จริงสิลืมไปเลยว่ามาดูหนังเกี่ยวกับจระเข้ -.-

หลังจากหนังจบพวกเพื่อนฉันก็พากันเดินเล่นกันต่อ ส่วนฉันรอจังหวะสบโอกาสในขณะที่พวกเราอยู่ที่เข้าไปเลือกซื้อเสื้อผ้า และเห็นพี่เขายืนรอที่หน้าร้านคนเดียว

พอได้จังหวะนั้น ฉันก็เลยแอบชิ่งจากกลุ่มเพื่อน รีบเดินไปหาเขา

“ว่าไงคะ” ฉันเอ่ยทักทายคนตัวโต ที่กำลังยืนก้มหน้าก้มตาเล่นมือถืออยู่ พอได้ยินฉันทักเขาก็เงยขึ้นมาสบตากับฉันทันที

“มีอะไร” เขาเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ทำยังกับว่าไม่เคยเจอฉันมาก่อนยังงั้นแหละ แหงสิ ตอนนี้ตัวเองอยู่กับเพื่อนฉัน เลยทำสีหน้าเหมือนไม่ค่อยอยากจะคุยกับฉันเสียเท่าไหร่

“ก็ไม่มีอะไร แต่ฉันรู้นะว่าพี่อะ จำฉันได้” ฉันขยับเข้าไปใกล้ร่างสูง ก่อนจะยืนหน้าเข้าไปใกล้ ส่งผลให้พี่เขาหยุดการเล่นมือถือแล้วเก็บมันเข้ากระเป๋ากางเกง พลางจ้องหน้าฉันกลับ

“แล้วไง?” สีหน้าเขายังคงเรียบนิ่ง เว้นก็แต่คิ้วที่ยกขึ้นบ่งบอกถึงความไม่พอใจ

ท่าทางกวนประสาทแบบนี่สิ เป็นท่าทางที่ฉันคุ้นตัวตนจริง ๆ ของเขามากที่สุด

“ก็ไม่แล้วยังไง แต่ไม่รู้ว่ายัยคาเรนเพื่อนฉันรู้หรือเปล่าว่าที่จริงแล้ว พี่อะโคตรเพลย์บอยตัวพ่อแถมยังควงหญิงไม่ซ้ำหน้า”

ฉันลอยหน้าลอยตาตอบจงใจพูดกระแทก แต่ร่างสูงกลับทำสีหน้านิ่งเฉย พร้อมกับยักไหล่อย่างไม่สนใจ

“นึกว่ามีอะไร แค่นี้เหรอที่อยากพูด” เขาทำท่าเหมือนจะหยิบมือถือขึ้นมาใหม่

นั่นยิ่งทำให้ฉันรู้สึกไม่พอใจเขาไปกันใหญ่ คนอะไรหน้านิ่งทั้งที่ตัวเองเป็นวายร้าย

เขากล้ามากนะที่เข้าหาเพื่อนสนิทของฉันด้วยนิสัยปลอม ๆ นั่น

“แต่ก็เอาเถอะ ถึงพี่จะไม่สนใจที่ฉันพูดก็ไม่เป็นไร เพราะอีกเดี๋ยว ฉันนี่แหละจะไปบอกความจริงกับยัยคาเรนเองว่าพี่มันแบดบอยขนาดไหน แถมยังเอาหญิงไปทั่ว ไม่เว้นแม้กระทั่งฉะ....”

ฉันเม้มปากเพราะรู้สึกกระดากใจ ที่จะพูดเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวเองในคืนนั้น แต่สิ่งที่ฉันได้กลับมาจากเขามีเพียงเสียงแค่นหัวเราะกลับมา

“หึ ไร้สาระ”

“ไร้สาระยังไง ก็พี่เคยนอนเอากับฉันทั้งคืน!”

สิ้นประโยค คนตรงหน้ากลับมองฉันด้วยแววตาน่ากลัว ก่อนจะยื่นหน้ามาใกล้แล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ลืมมันไปซะ และห้ามพูดเรื่องนี้ให้คาเรนฟังเด็ดขาด”

นั่นไง…เขาแคร์คาเรนมากจริง ๆ ด้วย

ฉันมองพี่ไคโรที่พูดขู่

เขาจ้องหน้าฉันส่วนฉันก็จ้องกลับอย่างไม่ยอมแพ้

“ไม่ เพราะฉันจะพูด”

“งั้นก็เอาซิ ถ้าอย่างลองดีกับฉัน บางทีฉันจะเอาคลิปที่ถ่ายไว้ในมือถือออกมา…” เขายกยิ้มร้ายที่มุมปาก

เล่นเอาฉันอึ้ง ช็อก และทำตัวไม่ถูก ยะ…อย่าบอกนะว่า เขามีคลิปที่ถ่ายกันฉันในคืนนั้น!!

เชี่ยละ!

....

“พี่ไคโร นาบี สองคนยืนคุยอะไรกันอยู่น่ะ”

เสียงเรียกเราทั้งสองคน ทำเอาทั้งฉันและพี่ไคโรต่างก็สะดุ้งรีบผละออกจากกัน เราสองคนจะหลบสายตาแล้วหันไปมองคาเรนกับกลุ่มเพื่อนที่พากันเดินถือถุงชอปปิ้งมากันคนละถุงสองถุง

“เปล่า ไม่มีไร แค่คุย ๆ ถามเรื่องทั่วไป”

ฉันรีบบอกปัด แต่สไมล์พยักหน้าเหมือนเข้าใจที่ฉันอธิบาย นางเดินเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบข้างหูฉัน

“อ๋อ แกถามเรื่องรุ่นพี่วิศวะที่แกไปนอนในคืนนั้นใช่ปะ ว่าไงได้เรื่องไหม พี่เขารู้จักไหม”

ฉันรีบส่ายหน้า ก่อนมองสบตากับพี่โคโรแวบหนึ่ง

ก็นะ เสียงยัยสไมล์เบาที่ไหน ขนาดกระซิบพวกเราที่ยืนอยู่ตรงนี้ยังได้ยินกันทั้งหมด

หรือ...ฉันควรจะบอกความจริงกับทุกคนไปดี ว่าไอ้คนที่ยืนอยู่ตรงนี้นี่แหละ

แต่เอ้ย...ไม่ได้สิ! เมื่อกี้นี้พี่ไคโรพูดถึงคลิปที่แอบถ่ายไว้นี่นา

แง ฉันจะทำไงดีเนี่ย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel