เคยมีแฟนหรือเปล่า
กลับมาที่ปัจจุบัน....
สุดท้ายฉันก็ต้องมานั่งกินอาหารญี่ปุ่นที่ร้านของอาร์ตด้วยความจำใจและจำยอม
"อยากกินอะไรสั่งเลยไม่ต้องเกรงใจ"
"แน่นอนสิฉันจะเกรงใจนายทำไม" ฉันตอบโดยไม่มองหน้าคนถาม สายตาของฉันตอนนี้กำลังหาเมนูที่ชอบกิน อยากจะบอกว่าฉันชอบกินอาหารญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เมื่อก่อนตอนที่ยังเรียนอยู่ฉันมักจะชอบไปเดินตลาดนัดแล้วฉันจะซื้อซูชิคำละสิบบาทยี่สิบบาทมากินตลอดเพราะมันอร่อย จนกระทั่งฉันเรียนจบมีงานทำมีเงินเดือนใช้ฉันก็เลยอยากมาลองกินอาหารญี่ปุ่นแพงๆ ดูบ้างว่ารสชาติมันจะต่างกันมาแค่ไหน สรุปคือก็ต่างกันพอสมควรโดยเฉพาะวัตถุดิบและตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฉันก็มักจะเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นประจำแต่ไม่ใช่ว่าฉันไม่ซื้อที่ทำขายตามตลาดนัดนะฉันก็ยังซื้อกินอยู่ดีเพราะมันราคาถูกและอร่อย
"ชม"
"อะไร"
"เธอเคยมีแฟนหรือเปล่า"
"ถามทำไม"
"ก็ถามดูเผื่อว่าฉันจะได้เป็นแฟนคนแรกของเธอไง^^"
"ฝันไปเถอะ"
"ฉันจะทำให้เธอใจอ่อนให้ได้"
"ถ้าทำได้ก็ลองดู"
"อย่าท้านะเว้ย"
"ฉันไม่ได้ท้าเพราะฉันมั่นใจว่าฉันไม่มีทางชอบผู้ชายแบบนายแน่"
"หึ"
"หึทำไม"
"เปล๊า"
ฉันมองหน้าอาร์ตที่ทำท่าทางกวนๆ ใส่อย่างไม่สบอารมณ์ สักพักอาหารก็มาเสิร์ฟฉันก็เลยเลิกสนใจเขาแล้วก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย อยากจะบอกว่าอาหารร้านอาร์ตทุกเมนูมันอร่อยมากๆ เหมือนไปกินถึงญี่ปุ่น
"กินเบาๆ ไม่มีใครแย่งหรอกน่า^^"
อาร์ต...
ผมนั่งอมยิ้มอย่างพอใจที่ได้ต่อปากต่อคำกับชมจันทร์เพราะมันทำให้ผมไม่เครียดดี คิดแล้วก็นะผมจะทำยังไงให้ชมจันทร์ยอมใจอ่อนกับผมสักทีผมอยากมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเพราะที่ผ่านมาผมไม่เคยมีแฟนมาก่อนถึงผมจะมีสาวๆ ในสต๊อกเยอะแต่ผมก็ไม่เคยเรียกใครว่าแฟน ถามว่าทำไมผมถึงอยากได้ชมจันทร์มาเป็นแฟนนั่นก็เป็นเพราะเธอตรงสเป๊กผมทุกอย่างหมายถึงตอนนี้นะไม่ใช่เมื่อก่อนเพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่เสียเวลามาตามจีบแบบนี้หรอก และอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญก็คือแม่ของผมชอบชมจันทร์มากปลื้มมาก ถามว่าแม่ผมรู้จักชมจันทร์ได้ยังไงเรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อปีก่อนแม่ผมไปตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาลที่ชมจันทร์ทำงานอยู่ แล้วทีนี้ชมจันทร์ก็มาดูแลแม่ผมโดยที่เธอไม่รู้ว่านั่นคือแม่ผมและผมก็ไม่รู้ด้วยว่าพยาบาลที่ดูแลแม่คือชมจันทร์จนกระทั่งปีนี้ผมได้พาแม่ไปตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาลอีกครั้งทำให้ผมรู้ว่าพยาบาลที่แม่ปลื้มนักปลื้มหนาก็คือชมจันทร์แม่บอกให้ผมจีบชมจันทร์เพราะแม่อยากมีลูกสะใภ้เป็นพยาบาลแม่กลัวว่าผมจะเอาเด็กที่ผมเลี้ยงดูอยู่มาเป็นเมียแม่บอกแม่รับไม่ได้ผมก็เลยบอกแม่ไปตามตรงว่าผมตามจีบมาหลายปีแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ
"แกมันไร้ความสามารถจริงๆ นะตาอาร์ต ไม่รู้ล่ะยังไงแกก็ต้องเอาหนูชมมาเป็นลูกสะใภ้แม่ให้ได้" นั่นคือคำสั่งของแม่
"มองหน้าทำไมนักหนาเนี่ยฉันกินข้าวไม่ลง"
"เหอะนี่ขนาดกินข้าวไม่ลงนะหมดทุกอย่างที่สั่งมา5555" ผมแซวคนตรงหน้าที่ซัดอาหารทุกอย่างจนหมดเกลี้ยงผมเห็นแบบนี้ก็ปลื้มสิเพราะนั่นเท่ากับว่าชมจันทร์ชอบอาหารที่ร้านของผม
"ฉันแค่เสียดายของหรอกย่ะ"
"ว่าแต่เธออิ่มแล้วใช่ไหมจะได้เช็คบิล"
"ทำไมจะเก็บเงินฉันหรือไง"
"เปล่าฉันบอกเลี้ยงก็คือเลี้ยงดิ ฉันเลี้ยงเธอได้ตลอดชีวิตนั่นแล่ะ"
"ไม่ต้องเลี้ยงฉันมีเงิน"
"งั้นแปลว่ามื้อนี้เธอจะจ่ายเอง??"
"นายนี่เลิกกวนโมโหฉันสักวันจะได้ไหมเนี่ย"
"โอเคโอเคไม่กวนแล้ว งั้นเดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอที่โรงพยาบาลนะ"
"อืมม"
หลังจากนั้นผมก็พาชมจันทร์ออกจากร้านแล้วขับรถพาเธอไปส่งที่โรงพยาบาลเพราะใกล้จะบ่ายโมงแล้วระหว่างทางที่ผมกำลังขับรถอยู่จู่ๆ ก็มีสายโทรเข้ามาเป็นเบอร์จากไอ้นัตผู้จัดการผับผมรีบขับรถเข้าข้างทางแล้วรับสายทันทีเพราะปกติมันไม่เคยโทรหาผมเวลานี้
"มึงโทรมามีอะไรไอ้นัต"
"แย่แล้วครับคุณอาร์ตเกิดเรื่องแล้ว"
"เรื่องอะไรของมึงไอ้นัต"
"ไอ้เมฆกับไอ้ชายพนักงานร้านเรามันทะเลาะกันครับคุณอาร์ต"
"ทะเลาะกันเรื่องอะไร"
"เรื่องผู้หญิงครับมันแย่งผู้หญิงคนเดียวกันตอนนี้มันจะแทงกันอยู่แล้วครับคุณอาร์ตไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามเลยเพราะกลัวโดนลูกหลง"
"เออๆ เดี๋ยวกูจะรีบไปที่ผับมึงดูไว้ให้ดีอย่าให้พวกมันแทงกันตายซะก่อน"
"ครับๆ คุณอาร์ตรีบมานะครับ"
"เออๆ" ผมวางสายจากไอ้นัตแล้วหันไปพูดกับชมจันทร์ที่กำลังมองหน้าผมอยู่เหมือนอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
"ชมเธอไปที่ผับกับฉันก่อนได้ไหมตอนนี้มีเรื่อง"
"อื้มมได้ๆ" จากนั้นผมก็รีบขับรถไปที่ผับทันทีเพราะกลัวจะเกิดเรื่องราวใหญ่โตกลัวจะมีการฆ่ากันตาย
ผมใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ขับรถมาถึงที่ผับผมไม่รอช้ารีบลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปในผับทันที พอเข้ามาก็เห็นเหตุการผู้ชายสองคนซึ่งเป็นพนักงานร้านผมเองพวกมันกำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายใบหน้าแต่ละคนดูแทบไม่ได้โดยที่มือของพวกมันถือมีดกันอยู่คนละเล่มดูๆ แล้วน่าจะเป็นมีดปอกผลไม้ในครัว
"เห้ยพวกมึงหยุด!!!" ผมรีบห้ามมันสองคนที่กำลังถือมีดคนละเล่มแต่ดูเหมือนพวกมันจะไม่ได้สนใจเพราะเอาแต่จ้องหน้ากันอยู่และก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าใส่กันผมก็เดินลงไปหาพวกมันแล้วขู่
"กูสั่งให้พวกมึงหยุดไงใครไม่หยุดกูจะให้การ์ดเอาไปกระทืบหลังร้าน!!!"
"นายไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้ผมจะไม่ยอมเด็ดขาดมันรู้ทั้งรู้ว่าผมตามจีบน้องฝนอยู่แต่มันก็ยังมาแย่งไป"
"ก็น้องเขาบอกว่าเขาไม่ได้ชอบมึงน้องเขาชอบกูแล้วมึงจะให้กูทำไงไอ้เมฆ"
"มึงอย่ามาโกหกกูไม่เชื่อ"
"พวกมึงจะฆ่ากันเพราะผู้หญิงคนเดียวเหรอวะห๊ะ" ผมถามพวกมันอย่างเหลืออดมีที่ไหนจะฆ่ากันตายเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียวบ้าหรือเปล่าวะ
"ผมรักของผมอยู่ดีๆ ไอ้ชายมันก็มาแย่งของผมไปเป็นนายนายจะยอมไหมล่ะ" ไอ้เมฆมันย้อนถามผม
"ไม่จริงครับนายผมไม่ได้แย่งน้องเขามาบอกว่าชอบผมคนเดียว"
"มึงโกหก"
"กูไม่ได้โกหก" ผมถึงกับปวดประสาทไม่รู้จะทำยังไงดีกับพวกมันสองตัว ผมก็เลยให้คนไปตามตัวต้นเหตุนั่นก็คือฝนมาเคลียร์ว่าจะเลือกใครระหว่างไอ้เมฆกับไอ้ชาย
"พวกมึงจะยอมรับความจริงกันไหมถ้ากูจะให้ผู้หญฺิงที่มึงสองตัวแย่งกันมาเลือกว่าจะเลือกใคร" พอผมถามพวกมันก็เงียบ
"ว่าไง ถ้าฝนมันเลือกไอ้ชายมึงไอ้เมฆมึงก็ต้องยอมรับความจริงแต่ถ้าฝนมันเลือกไอ้เมฆมึงก็ต้องยอมรับความจริงนะไอ้ชาย"
"ครับ/ครับนาย" มันสองคนตอบเสียงกระท่อนกระแท่น
"แล้วมีดที่พวกมึงถือเอาโยนลงพื้นเดี๋ยวนี้กูสั่ง"
เพล้ง/เพล้ง พวกมันสองตัวยอมทำตามที่ผมสั่งจากนั้นผมก็ส่งสัญญาณให้ไอ้นัตไปเก็บมีดสองเล่มนั้นออกมา
เวลาต่อมา...
"เลือกมาว่าจะเอาใครระหว่างไอ้เมฆกับไอ้ชาย" ผมถามเด็กเสริฟที่ชื่อฝนที่ตอนนี้ยืนก้มหน้าก้มตาอยู่ตรงหน้า
"คือ..ฝนเลือกพี่..พี่ชายค่ะฝนรักพี่ชาย"
"พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงวะฝนที่ผ่านมามันคืออะไร" น้ำเสียงไอ้เมฆสั่นเครือเมื่อได้ยินคำตอบของฝน
"ฉันขอโทษนะพี่เมฆฉันแค่สงสารพี่ฉันก็เลยไม่กล้าบอกความจริงกับพี่ว่าฉันรักพี่ชาย" ผมมองหน้าไอ้เมฆที่ตอนนี้ทรุดตัวนั่งลงไปกับพื้นอย่างคนสิ้นหวัง ผมเข้าใจความรู้สึกของมันดีว่าเสียใจขนาดไหนฟ
"ตอนนี้มึงก็ได้ฟังจากปากของฝนแล้วกูหวังว่ามึงจะยอมรับความจริงนะไอ้เมฆ" ไอ้ชายเดินไปหาไอ้เมฆที่ยังนั่งอยู่ที่พื้นอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิตก่อนจะเดินจูงมือคนรักของมันเดินไปหลังร้าน ผมมองดูไอ้เมฆที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมซึ่งผมก็ไม่รู้จะช่วยมันยังไงดี
ตอนนี้ทุกคนกำลังคิดว่าไอ้เมฆมันกำลังนั่งทำใจอยู่ก็เลยแยกย้ายกันทำหน้าที่ของตัวเองและในขณะที่ผมกำลังจะหันหลังกลับจู่ๆ สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นไอ้เมฆมันร้องไห้แล้วก็หยิบมีดอีกเล่มออกมาจากกระเป๋ากางเกงด้านหลังมันกำลังจะเอามีดกรีดข้อมือตัวเองผมเห็นก็เลยรีบไปคว้ามีดเล่มนั้นออกมาจากมือของมันโดยไม่ทันระวังทำให้มีดมันบาดเข้ากลางฝ่ามือของผมจนเลือดกระฉูด
"โอ๊ย!!!" ผมร้องลั่นเมื่อความเจ็บแล่นเข้ามา
"นาย!!!ผมขอโทษ" ไอ้เมฆร้องไห้ขอโทษผมเพราะมันคิดว่ามันทำให้ผมเจ็บ
"อาร์ตนายเป็นยังไงบ้าง ใครก็ได้ขอผ้าสะอาดมาให้หน่อยค่ะฉันจะเอาซับแผล" ชมจันทร์ตะโกนถามคนในร้านด้วยน้ำเสียงตกใจเพราะตอนนี้เลือดผมไหลไม่หยุด
ชมจันทร์....
"นี่ครับผ้าสะอาด" เด็กผู้ชายคนนึงวิ่งเอาผ้ามาให้ฉัน
"ขอบใจจ๊ะ" ฉันรับผ้ามาจากนั้นก็รีบเอามันซับเลือดให้อาร์ตที่ตอนนี้เลือดยังไหลไม่ยอมหยุด ฉันคอยซับเลือดให้เขาพอมั่นใจว่าเลือดหยุดไหลบ้างแล้วฉันค่อยๆ ดูบาดแผลของเขาและเห็นว่าแผลของเขาลึกมากน่าจะต้องเย็บหลายเข็ม
"นายไปโรงพยาบาลเถอะแผลใหญ่ขนาดนี้คงต้องเย็บหลายเข็ม"
"เย็บเลยเหรอ ไม่อ่ะฉันกลัวเข็มฉันกลัวหมอ" อาร์ตส่วนหน้าบอกฉันเสียงสั่น
"ตัวโตขนาดนี้กลัวหมอกลัวเข็มเหรอ"
"ก็คนมันกลัวให้ทำไง"
"ถึงนายจะกลัวยังไงนายก็ต้องไปทำแผลที่โรงพยาบาลเข้าใจไหม"
"ถ้าฉันไปเธอจะอยู่ใกล้ๆ ฉันได้ไหมล่ะ" สายตาเว้าวอนทำให้ฉันอดสงสารไม่ได้ก็เลยพยักหน้า
"อืมฉันจะอยู่ข้างๆ นายเอง"
"ถ้าอยู่ใกล้เธอก็ไม่มีอะไรที่ฉันต้องกลัว" ฉันถอนหายใจกับคำพูดเสี่ยวๆ ของอาร์ต
"หวานซ้าาาาาา"
"ไอ้นัต!!!"
"โทษครับนาย"
กลับมาที่ปัจจุบัน....
สุดท้ายฉันก็ต้องมานั่งกินอาหารญี่ปุ่นที่ร้านของอาร์ตด้วยความจำใจและจำยอม
"อยากกินอะไรสั่งเลยไม่ต้องเกรงใจ"
"แน่นอนสิฉันจะเกรงใจนายทำไม" ฉันตอบโดยไม่มองหน้าคนถาม สายตาของฉันตอนนี้กำลังหาเมนูที่ชอบกิน อยากจะบอกว่าฉันชอบกินอาหารญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เมื่อก่อนตอนที่ยังเรียนอยู่ฉันมักจะชอบไปเดินตลาดนัดแล้วฉันจะซื้อซูชิคำละสิบบาทยี่สิบบาทมากินตลอดเพราะมันอร่อย จนกระทั่งฉันเรียนจบมีงานทำมีเงินเดือนใช้ฉันก็เลยอยากมาลองกินอาหารญี่ปุ่นแพงๆ ดูบ้างว่ารสชาติมันจะต่างกันมาแค่ไหน สรุปคือก็ต่างกันพอสมควรโดยเฉพาะวัตถุดิบและตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาฉันก็มักจะเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นประจำแต่ไม่ใช่ว่าฉันไม่ซื้อที่ทำขายตามตลาดนัดนะฉันก็ยังซื้อกินอยู่ดีเพราะมันราคาถูกและอร่อย
"ชม"
"อะไร"
"เธอเคยมีแฟนหรือเปล่า"
"ถามทำไม"
"ก็ถามดูเผื่อว่าฉันจะได้เป็นแฟนคนแรกของเธอไง^^"
"ฝันไปเถอะ"
"ฉันจะทำให้เธอใจอ่อนให้ได้"
"ถ้าทำได้ก็ลองดู"
"อย่าท้านะเว้ย"
"ฉันไม่ได้ท้าเพราะฉันมั่นใจว่าฉันไม่มีทางชอบผู้ชายแบบนายแน่"
"หึ"
"หึทำไม"
"เปล๊า"
ฉันมองหน้าอาร์ตที่ทำท่าทางกวนๆ ใส่อย่างไม่สบอารมณ์ สักพักอาหารก็มาเสิร์ฟฉันก็เลยเลิกสนใจเขาแล้วก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย อยากจะบอกว่าอาหารร้านอาร์ตทุกเมนูมันอร่อยมากๆ เหมือนไปกินถึงญี่ปุ่น
"กินเบาๆ ไม่มีใครแย่งหรอกน่า^^"
อาร์ต...
ผมนั่งอมยิ้มอย่างพอใจที่ได้ต่อปากต่อคำกับชมจันทร์เพราะมันทำให้ผมไม่เครียดดี คิดแล้วก็นะผมจะทำยังไงให้ชมจันทร์ยอมใจอ่อนกับผมสักทีผมอยากมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเพราะที่ผ่านมาผมไม่เคยมีแฟนมาก่อนถึงผมจะมีสาวๆ ในสต๊อกเยอะแต่ผมก็ไม่เคยเรียกใครว่าแฟน ถามว่าทำไมผมถึงอยากได้ชมจันทร์มาเป็นแฟนนั่นก็เป็นเพราะเธอตรงสเป๊กผมทุกอย่างหมายถึงตอนนี้นะไม่ใช่เมื่อก่อนเพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่เสียเวลามาตามจีบแบบนี้หรอก และอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญก็คือแม่ของผมชอบชมจันทร์มากปลื้มมาก ถามว่าแม่ผมรู้จักชมจันทร์ได้ยังไงเรื่องมันมีอยู่ว่าเมื่อปีก่อนแม่ผมไปตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาลที่ชมจันทร์ทำงานอยู่ แล้วทีนี้ชมจันทร์ก็มาดูแลแม่ผมโดยที่เธอไม่รู้ว่านั่นคือแม่ผมและผมก็ไม่รู้ด้วยว่าพยาบาลที่ดูแลแม่คือชมจันทร์จนกระทั่งปีนี้ผมได้พาแม่ไปตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาลอีกครั้งทำให้ผมรู้ว่าพยาบาลที่แม่ปลื้มนักปลื้มหนาก็คือชมจันทร์แม่บอกให้ผมจีบชมจันทร์เพราะแม่อยากมีลูกสะใภ้เป็นพยาบาลแม่กลัวว่าผมจะเอาเด็กที่ผมเลี้ยงดูอยู่มาเป็นเมียแม่บอกแม่รับไม่ได้ผมก็เลยบอกแม่ไปตามตรงว่าผมตามจีบมาหลายปีแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ
"แกมันไร้ความสามารถจริงๆ นะตาอาร์ต ไม่รู้ล่ะยังไงแกก็ต้องเอาหนูชมมาเป็นลูกสะใภ้แม่ให้ได้" นั่นคือคำสั่งของแม่
"มองหน้าทำไมนักหนาเนี่ยฉันกินข้าวไม่ลง"
"เหอะนี่ขนาดกินข้าวไม่ลงนะหมดทุกอย่างที่สั่งมา5555" ผมแซวคนตรงหน้าที่ซัดอาหารทุกอย่างจนหมดเกลี้ยงผมเห็นแบบนี้ก็ปลื้มสิเพราะนั่นเท่ากับว่าชมจันทร์ชอบอาหารที่ร้านของผม
"ฉันแค่เสียดายของหรอกย่ะ"
"ว่าแต่เธออิ่มแล้วใช่ไหมจะได้เช็คบิล"
"ทำไมจะเก็บเงินฉันหรือไง"
"เปล่าฉันบอกเลี้ยงก็คือเลี้ยงดิ ฉันเลี้ยงเธอได้ตลอดชีวิตนั่นแล่ะ"
"ไม่ต้องเลี้ยงฉันมีเงิน"
"งั้นแปลว่ามื้อนี้เธอจะจ่ายเอง??"
"นายนี่เลิกกวนโมโหฉันสักวันจะได้ไหมเนี่ย"
"โอเคโอเคไม่กวนแล้ว งั้นเดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอที่โรงพยาบาลนะ"
"อืมม"
หลังจากนั้นผมก็พาชมจันทร์ออกจากร้านแล้วขับรถพาเธอไปส่งที่โรงพยาบาลเพราะใกล้จะบ่ายโมงแล้วระหว่างทางที่ผมกำลังขับรถอยู่จู่ๆ ก็มีสายโทรเข้ามาเป็นเบอร์จากไอ้นัตผู้จัดการผับผมรีบขับรถเข้าข้างทางแล้วรับสายทันทีเพราะปกติมันไม่เคยโทรหาผมเวลานี้
"มึงโทรมามีอะไรไอ้นัต"
"แย่แล้วครับคุณอาร์ตเกิดเรื่องแล้ว"
"เรื่องอะไรของมึงไอ้นัต"
"ไอ้เมฆกับไอ้ชายพนักงานร้านเรามันทะเลาะกันครับคุณอาร์ต"
"ทะเลาะกันเรื่องอะไร"
"เรื่องผู้หญิงครับมันแย่งผู้หญิงคนเดียวกันตอนนี้มันจะแทงกันอยู่แล้วครับคุณอาร์ตไม่มีใครกล้าเข้าไปห้ามเลยเพราะกลัวโดนลูกหลง"
"เออๆ เดี๋ยวกูจะรีบไปที่ผับมึงดูไว้ให้ดีอย่าให้พวกมันแทงกันตายซะก่อน"
"ครับๆ คุณอาร์ตรีบมานะครับ"
"เออๆ" ผมวางสายจากไอ้นัตแล้วหันไปพูดกับชมจันทร์ที่กำลังมองหน้าผมอยู่เหมือนอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
"ชมเธอไปที่ผับกับฉันก่อนได้ไหมตอนนี้มีเรื่อง"
"อื้มมได้ๆ" จากนั้นผมก็รีบขับรถไปที่ผับทันทีเพราะกลัวจะเกิดเรื่องราวใหญ่โตกลัวจะมีการฆ่ากันตาย
ผมใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ขับรถมาถึงที่ผับผมไม่รอช้ารีบลงจากรถแล้ววิ่งเข้าไปในผับทันที พอเข้ามาก็เห็นเหตุการผู้ชายสองคนซึ่งเป็นพนักงานร้านผมเองพวกมันกำลังต่อสู้กันอย่างเอาเป็นเอาตายใบหน้าแต่ละคนดูแทบไม่ได้โดยที่มือของพวกมันถือมีดกันอยู่คนละเล่มดูๆ แล้วน่าจะเป็นมีดปอกผลไม้ในครัว
"เห้ยพวกมึงหยุด!!!" ผมรีบห้ามมันสองคนที่กำลังถือมีดคนละเล่มแต่ดูเหมือนพวกมันจะไม่ได้สนใจเพราะเอาแต่จ้องหน้ากันอยู่และก่อนที่พวกมันจะพุ่งเข้าใส่กันผมก็เดินลงไปหาพวกมันแล้วขู่
"กูสั่งให้พวกมึงหยุดไงใครไม่หยุดกูจะให้การ์ดเอาไปกระทืบหลังร้าน!!!"
"นายไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้ผมจะไม่ยอมเด็ดขาดมันรู้ทั้งรู้ว่าผมตามจีบน้องฝนอยู่แต่มันก็ยังมาแย่งไป"
"ก็น้องเขาบอกว่าเขาไม่ได้ชอบมึงน้องเขาชอบกูแล้วมึงจะให้กูทำไงไอ้เมฆ"
"มึงอย่ามาโกหกกูไม่เชื่อ"
"พวกมึงจะฆ่ากันเพราะผู้หญิงคนเดียวเหรอวะห๊ะ" ผมถามพวกมันอย่างเหลืออดมีที่ไหนจะฆ่ากันตายเพราะผู้หญิงเพียงคนเดียวบ้าหรือเปล่าวะ
"ผมรักของผมอยู่ดีๆ ไอ้ชายมันก็มาแย่งของผมไปเป็นนายนายจะยอมไหมล่ะ" ไอ้เมฆมันย้อนถามผม
"ไม่จริงครับนายผมไม่ได้แย่งน้องเขามาบอกว่าชอบผมคนเดียว"
"มึงโกหก"
"กูไม่ได้โกหก" ผมถึงกับปวดประสาทไม่รู้จะทำยังไงดีกับพวกมันสองตัว ผมก็เลยให้คนไปตามตัวต้นเหตุนั่นก็คือฝนมาเคลียร์ว่าจะเลือกใครระหว่างไอ้เมฆกับไอ้ชาย
"พวกมึงจะยอมรับความจริงกันไหมถ้ากูจะให้ผู้หญฺิงที่มึงสองตัวแย่งกันมาเลือกว่าจะเลือกใคร" พอผมถามพวกมันก็เงียบ
"ว่าไง ถ้าฝนมันเลือกไอ้ชายมึงไอ้เมฆมึงก็ต้องยอมรับความจริงแต่ถ้าฝนมันเลือกไอ้เมฆมึงก็ต้องยอมรับความจริงนะไอ้ชาย"
"ครับ/ครับนาย" มันสองคนตอบเสียงกระท่อนกระแท่น
"แล้วมีดที่พวกมึงถือเอาโยนลงพื้นเดี๋ยวนี้กูสั่ง"
เพล้ง/เพล้ง พวกมันสองตัวยอมทำตามที่ผมสั่งจากนั้นผมก็ส่งสัญญาณให้ไอ้นัตไปเก็บมีดสองเล่มนั้นออกมา
เวลาต่อมา...
"เลือกมาว่าจะเอาใครระหว่างไอ้เมฆกับไอ้ชาย" ผมถามเด็กเสริฟที่ชื่อฝนที่ตอนนี้ยืนก้มหน้าก้มตาอยู่ตรงหน้า
"คือ..ฝนเลือกพี่..พี่ชายค่ะฝนรักพี่ชาย"
"พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงวะฝนที่ผ่านมามันคืออะไร" น้ำเสียงไอ้เมฆสั่นเครือเมื่อได้ยินคำตอบของฝน
"ฉันขอโทษนะพี่เมฆฉันแค่สงสารพี่ฉันก็เลยไม่กล้าบอกความจริงกับพี่ว่าฉันรักพี่ชาย" ผมมองหน้าไอ้เมฆที่ตอนนี้ทรุดตัวนั่งลงไปกับพื้นอย่างคนสิ้นหวัง ผมเข้าใจความรู้สึกของมันดีว่าเสียใจขนาดไหนฟ
"ตอนนี้มึงก็ได้ฟังจากปากของฝนแล้วกูหวังว่ามึงจะยอมรับความจริงนะไอ้เมฆ" ไอ้ชายเดินไปหาไอ้เมฆที่ยังนั่งอยู่ที่พื้นอย่างคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิตก่อนจะเดินจูงมือคนรักของมันเดินไปหลังร้าน ผมมองดูไอ้เมฆที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมซึ่งผมก็ไม่รู้จะช่วยมันยังไงดี
ตอนนี้ทุกคนกำลังคิดว่าไอ้เมฆมันกำลังนั่งทำใจอยู่ก็เลยแยกย้ายกันทำหน้าที่ของตัวเองและในขณะที่ผมกำลังจะหันหลังกลับจู่ๆ สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นไอ้เมฆมันร้องไห้แล้วก็หยิบมีดอีกเล่มออกมาจากกระเป๋ากางเกงด้านหลังมันกำลังจะเอามีดกรีดข้อมือตัวเองผมเห็นก็เลยรีบไปคว้ามีดเล่มนั้นออกมาจากมือของมันโดยไม่ทันระวังทำให้มีดมันบาดเข้ากลางฝ่ามือของผมจนเลือดกระฉูด
"โอ๊ย!!!" ผมร้องลั่นเมื่อความเจ็บแล่นเข้ามา
"นาย!!!ผมขอโทษ" ไอ้เมฆร้องไห้ขอโทษผมเพราะมันคิดว่ามันทำให้ผมเจ็บ
"อาร์ตนายเป็นยังไงบ้าง ใครก็ได้ขอผ้าสะอาดมาให้หน่อยค่ะฉันจะเอาซับแผล" ชมจันทร์ตะโกนถามคนในร้านด้วยน้ำเสียงตกใจเพราะตอนนี้เลือดผมไหลไม่หยุด
ชมจันทร์....
"นี่ครับผ้าสะอาด" เด็กผู้ชายคนนึงวิ่งเอาผ้ามาให้ฉัน
"ขอบใจจ๊ะ" ฉันรับผ้ามาจากนั้นก็รีบเอามันซับเลือดให้อาร์ตที่ตอนนี้เลือดยังไหลไม่ยอมหยุด ฉันคอยซับเลือดให้เขาพอมั่นใจว่าเลือดหยุดไหลบ้างแล้วฉันค่อยๆ ดูบาดแผลของเขาและเห็นว่าแผลของเขาลึกมากน่าจะต้องเย็บหลายเข็ม
"นายไปโรงพยาบาลเถอะแผลใหญ่ขนาดนี้คงต้องเย็บหลายเข็ม"
"เย็บเลยเหรอ ไม่อ่ะฉันกลัวเข็มฉันกลัวหมอ" อาร์ตส่วนหน้าบอกฉันเสียงสั่น
"ตัวโตขนาดนี้กลัวหมอกลัวเข็มเหรอ"
"ก็คนมันกลัวให้ทำไง"
"ถึงนายจะกลัวยังไงนายก็ต้องไปทำแผลที่โรงพยาบาลเข้าใจไหม"
"ถ้าฉันไปเธอจะอยู่ใกล้ๆ ฉันได้ไหมล่ะ" สายตาเว้าวอนทำให้ฉันอดสงสารไม่ได้ก็เลยพยักหน้า
"อืมฉันจะอยู่ข้างๆ นายเอง"
"ถ้าอยู่ใกล้เธอก็ไม่มีอะไรที่ฉันต้องกลัว" ฉันถอนหายใจกับคำพูดเสี่ยวๆ ของอาร์ต
"หวานซ้าาาาาา"
"ไอ้นัต!!!"
"โทษครับนาย"