5.ท่านลุง
เราจ้องมองสบตากันอยู่พักหนึ่ง และเป็นเธอที่เลือกจะละสายตาจากใบหน้าอันสวยงามของเขา เอลิซ่าลุกขึ้น เธอเดินไปนั่งบนโซฟาไม้ตัวยาว ในมือยังคงถือกล่องเค้กที่คาเมลมอบให้อย่างหวงแหน
"ข้าคือคนที่มองเห็นเจ้าได้ชัดเจนกว่าใคร..."
หมายความ..ว่าอย่างไรกัน ชายผู้นี้มีพลังเวทสูงส่ง มันอาจจะมากที่สุดในจักรวรรดิด้วยซ้ำไป แล้วสายตาที่เขามองมายังเด็กสิบขวบอย่างเอลิซ่ามันดันเต็มไปด้วยสายตาแห่งความระแวดระวังราวกับว่าเธอจะไปทำร้ายเขายังไงอย่างนั้น
คือใครมันจะกล้าไปทำร้ายพระคาดินันกัน..เธอไม่มีความคิดที่จะทำเช่นนั้นอยู่แล้ว
"หนูควรจะเรียกท่านว่า ท่านลุงสินะคะ"
หางตาของอีวานมันกระตุกขึ้น เขาหรี่ตามองเอลิซ่าพร้อมกับนั่งลงเคียงข้างเธอ
"ยามนี้เจ้าอยากจะเรียกอะไรก็เรียกไปเถิด อีกเจ็ดปีหลังจากนี้ค่อยมาว่ากันใหม่ว่าเจ้าจะเรียกขานข้าว่าอะไร"
เธอส่งกล่องเค้กในมือให้กับพระคาดินันคนงาม
"นี่คือของขวัญในการพบเจอกันครั้งแรก หนูไม่รู้ว่าท่านชอบทานอะไรแต่เซอร์คาเมลบอกว่าเค้กร้านนี้อร่อยมาก เราอาจจะต้องพบเจอกันบ่อยขึ้นเพราะฉะนั้นขอให้ท่านเมตตาและ...ดีกับหนูด้วยนะคะ"
หัวใจของอีวานพลันรู้สึกหน่วงขึ้นมา เขามองใบหน้าที่กำลังส่งยิ้มให้ด้วยหัวใจที่เจ็บปวด กาลเวลาเดินผ่านไปพร้อมกับเรื่องราวในอดีตที่ลืมเลือนหมดสิ้น...
ไม่ใช่แค่คุ้นเคยแต่ทว่าเป็นนางอย่างแน่นอน
"ได้สิ เจ้านับเป็นบุตรีของสหายคนสนิทของข้า นับจากนี้ไปข้าจะดูแลเจ้าเอง"
เอลิซ่าถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอส่งยิ้มให้กับคาดินันอาเชน่า ก่อนจะลุกขึ้นแล้วก้มหน้าลงแทนการกล่าวอำลา เพราะเควนเดินมาตามเธอไปทำพิธีชำระล้างแล้ว
คาดินันอาเชน่า อีวาน ชายผู้ทรงอำนาจและคนที่คอยหนุนหลังคามิลมาตลอด ไม่มีใครกล้าแตะต้องแกรนด์ดยุคคามิลเพราะวิหารศักดิ์สิทธิ์เป็นผุ้หนุนหลัง และเช่นกันไม่มีใครกล้าแต่ต้องวิหารศักดิ์สิทธิ์ก็เพราะว่าเกรงกลัวในอำนาจของแกรนด์ดยุคคามิล ผู้ทรงอำนาจของจักรวรรดิสองคนจับมือกัน นั่นทำให้ไม่มีใครกล้ายุ่งเกี่ยวกับคนทั้งสอง...
รวมไปถึงองค์จักรพรรดิด้วย
........
"ไปสืบมา เกี่ยวกับทุกเรื่องของเอลิซ่า คามิล ฮาซาน...ไอ้หมอนั่นไปเก็บเด็กที่ไหนมาเลี้ยงรวมไปถึงรูปลักษณ์ขอนางด้วย..."
องค์จักรพรรดิไฮเวสทรงตรัสกับดยุคแห่งโคเรย์ อำนาจในยามนี้แบ่งเป็นสองขั้วอย่างชัดเจน เพียงแต่ต่างฝ่ายต่างไม่ยุ่งเกี่ยวและต่างฝ่ายต่างไม่รุกรานกัน
ไฮเวสรู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งเมื่อเขาได้รับข่าวคราวที่มันเกี่ยวข้องกับจักรพรรดินีองค์ก่อน และไม่ชอบใจเอามากๆที่มันไปเกี่ยวข้องกับน้องชายของเขา
หากว่าบุตรสาวบุญธรรมของฮาซานมันคือลูกของอดีตจักรพรรดินีจริงๆแล้วล่ะก็ ถึงเวลานั้นเขาจะยินยอมให้เด็กน้อยผู้นั้นหายใจได้อย่างไร ในเมื่อเพียงนึกถึงเขายังเจ็บปวดถึงเพียงนี้ ยังจะสามารถให้นางยืนอยู่ที่จักรวรรดิแห่งนี้ได้ยังไงกัน...
ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดต้องกำจัดนางเสีย เพียงแค่สงสัยหรือว่ามีส่วนใดที่คล้ายอดีตจักรพรรดินี เขาสาบานเลยว่าจะสั่งฆ่านางในทันที
ฮาซาน..เจ้าน่ะไม่ว่าเมื่อใด ไม่ว่าเมื่อไหร่คนเช่นเจ้านั้นมิสมควรมีความสุขหรอกนะ...จงก้มหน้าลงไปเพื่อร่ำไห้ออกมา ให้กับความสูญเสีย อย่าได้เงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มหรือว่าหัวเราะอีกเด็ดขาด
ข้าไม่ยินยอมให้เจ้ามีความสุข ไม่มีวันนั้นหรอก!
"เหตุใดพระองค์ถึงได้มีสีหน้าเคร่งเครียดเช่นนี้กันเล่าเพคะ มีเรื่องอันใดที่ทำให้ไม่สบายใจ..."
"ไสหัวออกไปซะ!"
ใบหน้างดงามของจักรพรรดินีดาร์เลเน่พลันหุบยิ้มลง พระนางจับมือขององค์ชายเออร์วินเดินออกไปโดยมิปริปากกล่าวคำใดอีกเลย...
เป็นเช่นนี้เสมอ แค่มองหน้ายังแทบทำมิได้...นางมิเคยได้รับความรักใดๆจากสามีเลย แม้แต่การพูดดีๆยังไม่เคยทำมาก่อน หัวใจที่เจ็บปวดดวงนี้ค่อยๆชินชาซะแล้ว เพราะยังมีงานอีกหายอย่างให้ทำในฐานะจักรพรรดินี มิใช่การปรนนิบัติองค์จักรพรรดิเพียงอย่างเดียว
"เสด็จแม่..ลูกมาทูลลาครับ"
"อ่า..รัชทายาทจะเดินทางไปที่อคาเด็มมี่แล้วอย่างนั้นหรือ?"
นี่คือดวงตะวันของนาง..ดวงอาทิตย์ดวงน้อยของจักรวรรดิอเดไทม์ องค์รัชทายาทบาร์ตัน ลูกชายคนโตของเธอ
"ครับ ลูกชวนเจเนซิสไปพร้อมกัน แต่นางยังไม่ค่อยพร้อมสักเท่าไหร่ ลูกฝากเสด็จแม่เคี่ยวเข็ญนางให้ไปที่อคาเด็มมี่ก่อนเปิดเทอมด้วยนะครับ"
องค์จักรพรรดินีดาร์เลเน่ยกมือขึ้นมาลูบผมของลูกชายเบาๆ
"เข้าใจแล้วรัชทายาท แม่จะจัดการส่งน้องตามไปทีหลัง ลูกไปเถิด"
บาร์ตันยกมือขึ้นมาก่อนที่เขาจะโอบกอดมารดาด้วยความรัก...ทั้งชีวิตมีเพียงเสด็จแม่ที่เลี้ยงดู เขาไม่คาดหวังความรักจากเสด็จพ่อที่ไม่เคยมาสนใจในตัวเขาอยู่แล้ว
เขาจะขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิเพื่อปกป้องเสด็จแม่และน้องทั้งสองเอง
"พี่ไปแล้วนะเออร์วิน ห้ามดื้อและห้ามซนเข้าใจหรือไม่"
เด็กน้อยวันหกขวบหน้างอง้ำ
"เสด็จพี่ต้องกลับมาเยี่ยมข้าบ่อยๆนะครับ"
"ได้สิ พี่รับปาก"
บาร์ตันโบกมือลาน้องชายและแม่ก่อนที่เขาจะเดินขึ้นรถม้าเพื่อเดินทางไปอคาเด็มมี่ อันที่จริงกว่าจะเปิดเทอมก็อีกตั้งสองเดือน แต่ทว่าอยู่ที่พระราชวังเขาไม่มีอะไรทำ ไปที่อคาเด็มมี่ยังได้อ่านหนังสือและได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆผ่านท่านอาจารย์ที่เฝ้าห้องสมุด
เขาอายุสิบสองแล้ว...ต้องทุ่มเทเรื่องเรียนให้มากหน่อยเพราะพอเขาอายุสิบแปดปี จะมีการแต่งตั้งเพื่อให้เขาเป็นองค์จักรพรรดิ ถึงแม้ว่าเสด็จพ่อจะมีโอรสไม่กี่องค์แต่ก็ไม่อาจไว้วางใจได้ แม่และน้องเขาจะต้องปลอดภัย ภายใต้การดูแลและปกครองของเขา
.......
"นี่คือตารางการเรียนคร่าวๆค่ะ ท่านแกรนด์ดยุคได้ยื่นใบสมัครไปเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่เดินทางไปสอบเข้าและรายงานตัว"
เอลิซ่ารับกระดาษในมือของเควนมาถือเอาไว้ ไม่ว่ายังไงก็จะต้องไปเรียน เธอเป็นคนที่ชอบเรียนอยู่แล้ว เพียงแต่ที่นั่นมีแต่ชนชั้นสูง ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับการดูถูกเหยียดหยามอะไรแบบนั้นรึเปล่า...
ไม่อยากไปเลย แต่ทว่าการขัดใจท่านพ่อมันเป็นสิ่งที่เธอไม่อยากจะทำสักเท่าไหร่นัก
ก็แค่ไปที่นั่นแล้วตั้งใจเรียนก็พอสินะ..
"พรุ่งนี้จะเป็นพิธีชำระล้างแล้ว หลังจากนั้นเราก็จะเดินทางกลับคามิลเพื่อไปทำพิธีแต่งตั้ง คุณหนูจะได้เป็นท่านหญิงคามิลอย่างเต็มตัวแล้วนะคะ"
เอลิซ่าส่งยิ้มให้กับเกวน...เป็นรอยยิ้มแบบเดิมที่ได้รับมาในทุกวัน คุณหนูมักจะตอบคำถามด้วยการส่งยิ้ม ทั้งที่ถ้าเป็นเด็กวัยเดียวกันน่าจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจไปแล้ว แต่ทว่าคุณหนูของเธอนั้นสุขุมและเยือกเย็นมากทีเดียว ไม่ว่ามองทางไหนก็ดูไม่เหมือนเด็กวัยสิบขวบเลย ดูราวกับคนที่ผ่านโลกมาเยอะ อะไรแบบนั้นเสียมากกว่า
นี่อาจจะเป็นเพราะชีวิตที่ผ่านมาของคุณหนูนั้นลำบากมามากสินะ ไม่เป็นไรนะคะคุณหนูเพราะเกวนคนนี้จะดูแลคุณหนูให้ดีที่สุดเลย นับจากนี้เป็นต้นไป